มาร์คแย้มเลือกตั้งปลายมิ.ย.เดือนส.ค.ได้รัฐบาลใหม่แน่

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่โรงแรมอะเดรียติค พาเลซ กรุงเทพฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบาย เยาวชนเครือข่ายอาสาสมัครการเลือกตั้ง หัวข้อ "การมีส่วนร่วมของเยาวชนทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติย์ทรงเป็นประมุข" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตอนหนึ่งว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนจึงเป็นส่วนสำคัญ ตนเน้นเสมอว่าการเลือกตั้งต้องสุจริตปราศจากการซื้อเสียงหรือการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เอารัดเอาเปรียบใช้อิทธิพลข่มขู่ ต้องไม่มีการหลอกลวงหรือจูงใจให้ไปลงคะแนน

"ขณะนี้แน่นอนว่าการเลือกตั้งจะอยู่ระหว่างปลายเดือนมิ.ย. หรือต้นเดือนก.ค. ซึ่งเหลือเวลา 2 เดือนเศษ จึงต้องเตรียมความพร้อมและดูแลให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม ผมขอย้ำว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น มีความสำคัญอย่างยิ่งกับอนาคตของประเทศ เพราะจะนำประเทศไปสู่ความมีเสถียรภาพ ความมั่นคงทางการเมืองและเปิดโอกาสให้การพัฒนาประเทศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับตัวเอง สังคม ประเทศและคนรุ่นหลังต่อไป" นายกฯ กล่าว

เวลา 11.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ แถลงข่าวถึงมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 30 บาทต่อไปนั้น
 
ได้กล่าวตอนหนึ่งถึงการมีรัฐบาลชุดใหม่ว่า ยืนยันว่าไม่ได้โยนภาระเรื่องนี้ให้รัฐบาลชุดหน้า เมื่อเข้ามา บริหารประเทศก็มีสิทธิ์ตัดสินใจได้ และในช่วงเปลี่ยนผ่านของรัฐบาลก็จะไม่มีปัญหาจนถึงต้นเดือนก.ค. มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ หรือถึงเดือนส.ค.ที่จะมีรัฐบาลใหม่ เข้ามาก็ยังไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามถึงการชัดเจนวันเลือกตั้งที่ประกาศว่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือนมิ.ย. หรือต้นเดือนก.ค. นายกฯ กล่าวว่า น่าชัดเจนเช่นนั้น โดยหลักการแล้วเมื่อพระราชกฤษฎีกายุบสภาประกาศเมื่อไหร่จะมีผลวันนั้น ซึ่งกฎหมายบังคับอยู่แล้วว่าให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งด้วย และคงไม่ใช่การประกาศล่วงหน้า ทุกอย่างจะมีผลในวันนั้น

เมื่อถามย้ำว่ายืนยันจะยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.ใช่หรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมจะนำขึ้นทูลเกล้าฯภายในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. คำพูดนี้เหมือนเดิมทุกประการไม่มีเปลี่ยนแปลง" เมื่อถามว่าจะประกาศวันยุบสภาวันเสาร์หรืออาทิตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทำไมต้องลงรายละเอียด เอาเป็นว่าวันเลือกตั้งจะเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงมั่นใจว่าจะมีรัฐบาลใหม่ในเดือนส.ค.

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตามกฎหมายกำหนดนั้นสภาจะต้องประชุมครั้งแรกต้องเป็นภายใน 30 วัน เราจึงอยากให้เร็วเพราะไม่อยากให้ช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นช่วงเวลาที่นาน เราจะได้มาสร้างความชัดเจนในหลายเรื่อง ตนตัดสินใจยุบสภาเพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถ้าทิ้งค้างไว้แล้วมีปัญหาการเมืองหรือมีปัญหาวุ่นวายอีกก็ไม่มีประโยชน์กับใคร

เมื่อถามว่าทำไมจึงมั่นใจว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่แล้วปัญหาทุกอย่างจะจบ
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าปัญหาทุกอย่างจะจบ แต่มั่นใจว่าหลายอย่างจะดีขึ้น เราเห็นสภาพของการเล่นการเมืองในขณะนี้มันค่อนข้างชัดที่มีความพยายามใช้คำว่าอยู่กันจนครบเทอม ลากยาว ต่อไปก็จะมีคนสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งในสังคม ทำให้การบริหารจัดการทำได้ยากลำบาก วันนี้ตนถือว่าบริหารปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้เปลาะหนึ่งแล้ว และปีนี้ได้ฉลองสงกรานต์ ถึงเวลาให้ประชาชนตัดสินใจถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมมั่นใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะไม่มีอุปสรรคต่างๆ เกิดขึ้น
 
นายกฯ กล่าวว่า กติกาของระบบสภามันชัดเจน เมื่อเรียกประชุมสภาได้ พรรคการเมืองก็ตกลงจัดตั้งรัฐบาลกันได้ เมื่อถามว่าจะดูแลอย่างไรไม่ให้มีการเคลื่อนไหวนอกสภาระหว่างจัดตั้งรัฐบาลและแถลงนโยบาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เสียงส่วนใหญ่ของประเทศต้องการให้การเมืองกลับสู่ภาวะปกติมากที่สุดและการที่ตนตัดสินใจยุบสภา ไม่อยู่ในตำแหน่งอีกครึ่งปี เพราะต้องการให้เสียงส่วนใหญ่มันดังกว่าเสียงส่วนน้อย คิดว่าประชาชนเบื่อเสียงส่วนน้อยที่เสียงดัง ขณะที่เสียงข้างมากถูกละเลย

เมื่อถามว่าคิดว่าจะมีภาพการปิดล้อมรัฐสภาในช่วงการเลือกนายกฯและแถลงนโยบายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ปิดล้อมอะไรกันอีก ประชาชนเลือกผู้แทนฯเข้ามา เราต้องยืนยันว่ากระบวนการนี้เป็นกระบวนการตัดสินอนาคตของประเทศตามรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้กลับมาสานนโยบายเดิมของรัฐบาลที่วางไว้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องผลการเลือกตั้ง แต่มั่นใจว่า นโยบายที่วางไว้จะประคับประคองการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและดูแลประชาชนไม่ให้เดือดร้อนจากของแพง ถ้าคนอื่นมาแล้วคิดอย่างอื่นก็เป็นสิทธิ์ของเขาเพราะประชาชนเป็นผู้เลือก แต่ตนยืนยันว่าถ้าตนกลับมา จะใช้หลักการเดิมบริหาร ประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวระดับหนึ่งเพราะเราไม่ต้องการเห็นปัญหาการว่างงาน และไม่ต้องการให้ต้นทุนราคาสินค้ามาเป็นตัวทำลายเงินในกระเป๋าของประชาชนและโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศ

เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลจะไม่เจอปัญหาเหมือนในอดีต นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าประชาชนคงไม่อยากมีปัญหาเช่นนี้อีก ดังนั้นเราต้องช่วยกันและเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ใครที่ทำอย่างนั้นก็เป็นคนที่ทำลายประเทศ

ต่อข้อถามว่าแสดงว่านายกฯยังไม่มั่นใจสถาน การณ์หลังเลือกตั้งว่าทุกอย่างจะดีขึ้นใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่ไม่ดีอยู่แล้ว อยู่ๆจะหายหมดไป เพราะบางคนเปลี่ยนนิสัยไม่ได้เราก็เข้าใจ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์