จตุพรสวนบิ๊กตู่ ฟ้องกลับ ทบ.แจ้งความเท็จ


จตุพรสวนบิ๊กตู่ ฟ้องกลับ ทบ.แจ้งความเท็จ

ลุยเอาผิดทั่วปท. ป๋า-อานันท์-สิทธิ ต่างหมิ่นสถาบัน ณัฐวุฒิแฉแผน ล้มการเลือกตั้ง

       แกนนำนปช.แถลงกร้าวตอบโต้ "ประยุทธ์" ประกาศแจ้งจับกลับทบ. รัฐธรรมนูญ ขาดตัวแทนกลุ่มอาชีพแท้จริง กรรมการสรรหายันทำดีที่สุดแล้ว น้อง"บิ๊กป้อม" ไม่กลัวตกเป็นเป้า "พี่ประสพสุข"ขอบายเก้าอี้ประธาน "เทพเทือก" ยันไม่มีเครือข่ายปชป.เข้าป้าย "เรืองไกร" จ่อร้องกกต. ค้านผลสรรหา 18 เม.ย. "ชุมพล"ชี้คตส.-คมช. ได้รับคัดเลือก เหนือคาดหมายจะให้ความเห็น "เติ้ง"ผิดหวัง เพราะรู้ประวัติบางคนดี แย้มเซอร์ไพรส์ 21 เม.ย.เปิดตัวอดีตนางสาวไทย-นักกีฬาเข้าพรรค "มาร์ค" ชี้หลังสงกรานต์รัฐบาลมีเวลาครึ่งเดือนก่อนยุบสภา เร่งแก้ปัญหาปากท้อง "แม้ว"เคาะ"ยิ่งลักษณ์" ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 นัด 16 เม.ย. บินหารือกันที่รัสเซีย ก่อนทยอยโอนหุ้นให้"หญิงอ้อ-เอม" "บิ๊กจิ๋ว"ยันสู้ต่อ ไม่ถอนตัว

น้องบิ๊กป้อมไม่กลัวตกเป็นเป้า

วันที่ 13 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการสรรหาส.ว. ใหม่ 73 คน สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เปิดให้ส.ว.สรรหาชุดใหม่รายงานตัวเป็นวันที่สอง หลังจากวันที่ 12 เม.ย. มีส.ว.ที่ได้รับการสรรหา มารายงานตัวแล้ว 39 คน โดยวันเดียวกันนี้ ส.ว.ทยอยมารายงานตัวตั้งแต่เวลา 08.30 น. ประมาณ 20 กว่าคน มีอดีต ส.ว.สรรหาชุดแรก เช่น พล.ต.ท. ยุทธนา ไทยภักดี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รวมถึงอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และผู้มีชื่อเสียง หรือถูกจับตามองเนื่องจากมีความใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญในบ้านเมือง อาทิ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ อดีตที่ปรึกษารมว.กลาโหม น้องชายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลา โหม และนายประสงศ์ศักดิ์ บุญเดช อดีตผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด พี่ชายของนายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานวุฒิสภา

พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์ว่า ภูมิใจที่ได้มีโอกาสมาช่วยบ้านเมือง ยืนยันว่าจะทำงานให้ดีที่สุด ส่วนการที่ตนเป็นน้องชายของพล.อ.ประวิตร ก็เป็นคนละเรื่องกับการได้รับการสรรหาเข้ามา เพราะคณะกรรมการสรรหาคัดเลือกตามความสามารถและประสบการณ์ ตนจะทำงานให้เต็มความสามารถที่สุด เมื่อถามว่ากังวลว่าจะตกเป็นเป้าโจมตีทาง การเมืองหรือไม่ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร กล่าวว่า ถ้า ส.ว.ซื่อสัตย์บริสุทธิ์ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น

พี่"ประสพสุข"บายเก้าอี้ปธ.

เมื่อถามถึงกระแสข่าวกลุ่มส.ว.สรรหา จะผลักดันให้พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานวุฒิสภา พล.ร.อ. ศิษฐวัชร กล่าวว่า ต้องรอดูกันอีกครั้ง ต้องพิจารณาคนที่ชิงตำแหน่งตามความรู้ความสามารถ ดูว่าใครจะเหมาะสมที่สุด

นายประสงค์ศักดิ์ บุญเดช ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ที่มีกระแสข่าวว่าสายสรรหาจะสนับสนุนพล.อ. ธีรเดช เป็นประธาน ว่า ตนยังไม่ได้มองใครเพราะเพิ่งมารายงานตัว และยังไม่ได้คุยกับใคร แต่ก็เห็นว่า 3 ปีแรก ส.ว.สรรหาได้เป็นประธานแล้ว และนายประสพสุข ก็บอกว่าควรเปลี่ยนให้ส.ว.เลือกตั้ง เป็นประธานบ้าง ตนก็เห็นด้วย เพราะส.ว.สรรหาชุดใหม่ คงยังไม่รู้เรื่องมากเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมต่างๆ และเรื่องราวการทำงานของวุฒิสภา จึงควรให้ส.ว.เดิมที่มีความคล่องตัวอยู่แล้ว มาทำหน้าที่ มิฉะนั้น จะถูกกล่าวหาว่าส.ว.สรรหา ผูกขาดตำแหน่ง อีก ซึ่งส่วนตัวไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนี้แน่นอน

ได้รับคัดเลือกไม่เกี่ยวน้องชาย

นายประสงค์ศักดิ์ กล่าวว่า กรณีหลายฝ่ายวิจารณ์ส.ว.สรรหาชุดใหม่เต็มไปด้วยอำมาตย์ ว่า คงไม่ใช่กรรมการสรรหาเลือกตามประสบ การณ์ของผู้สมัครที่จะมีประโยชน์ต่อการทำงานของวุฒิสภา ตอนที่ตนสมัครมีช่องให้กรอกประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาเพียงครึ่งหน้า คิดว่าได้เขียนอะไรที่จะดึงดูการพิจารณาของกรรมการได้เต็มที่ ตั้งแต่ประสบการณ์สมัยเป็นนายอำเภอ ปลัดจังหวัด จนมาถึงเป็นผู้ว่าฯ ร้อย เอ็ด ตนมั่นใจในความรู้ความสามารถที่เอื้อต่อการทำหน้าที่ และคิดว่าคงไม่เกี่ยวกับการเป็นพี่ชายของนายประสพสุข เพราะถ้าว่ากันไปตามเนื้อผ้าของผลงานที่ผ่านมาแล้ว ตนก็น่าจะได้รับการสรรหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีว่าที่ส.ว.สรรหา อีกประมาณ 10 คน แจ้งความประสงค์จะมารายงานตัวในวันที่ 18 เม.ย.นี้ มีบางส่วนที่ยังอยู่ในต่างประเทศ เช่น นายสม จาตุศรีพิทักษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารนครหลวงไทย พี่ชายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

กก.สรรหายันไม่มีใครสั่งได้

นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน หนึ่งในกรรมการสรรหาส.ว. กล่าวถึงผลการสรรหาส.ว.ใหม่ 73 คน ที่มีเสียง วิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าเต็มไปด้วยเครือข่ายอำมาตย์ ว่า กรรมการสรรหาเลือกไปตามที่เห็นว่าบุคคลนั้นๆ มีความเหมาะสมในการมาทำหน้าที่ส.ว. ซึ่งได้เลือกผสมผสานกันไป เกณฑ์ในการพิจารณาคือต้องมีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ การกระจายในกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ คนไหนมีปัญหาก็หารือกันและลงมติตัดสิน แต่ภาครัฐก็ย่อมเป็นอดีตข้าราชการ ทหาร ตำรวจ

นายปราโมทย์ กล่าวว่า เมื่อมีบัญชีมาให้กรรมการเลือกเท่านี้ก็พยายามเฟ้นคนที่เหมาะสมที่สุด แต่ใครจะเป็นใคร จะเป็นอำมาตย์หรือไม่นั้นแล้วแต่มุมมอง แต่ยืนยันว่าไม่มีใครสั่งกรรมการสรรหาทุกคนได้ กรรมการทุกคนมีสถานะ มีตำแหน่ง มีวุฒิภาวะก็ใช้ดุลพินิจเลือกผู้ที่มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง ขอให้มั่นใจ แต่เลือกมาแล้วจะถูก ใจหรือไม่ถูกใจใคร ก็เคารพในความคิดเห็น แต่ถ้าไม่เห็นด้วยกับการให้กรรมการ 6-7 คน เลือก ต่อไปก็ไปแก้รัฐธรรมนูญก็ได้

ทำดีที่สุดแล้วไม่ใช่เทวดา

"ยืนยันว่าเรากรรมการให้คำตอบทุกคำตอบกับสังคมได้ เรามั่นใจว่าได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เราน้อมรับเสียงวิจารณ์ เพราะไม่ใช่เทวดาที่จะไปเห็นว่าใครทำอะไรครบถ้วนทั้งหมด แต่ก็ได้ใช้ดุลพินิจตามข้อมูลที่มีอย่างดีที่สุดแล้ว" นายปราโมทย์ กล่าว

เมื่อถามถึงผู้ได้รับการคัดเลือกที่เป็นอดีต ส.ว.43 อาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติพ้นจากตำ แหน่งไม่ถึง 5 ปี นายปราโมทย์ กล่าวว่า กกต. ยืนยันว่า อดีตส.ว.43 ที่มาสมัคร ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ ส่วนที่มีเสียงวิจารณ์ว่ามีส.ว.สรรหาเก่าเข้ามาถึง 31 คนนั้น เมื่อมีผู้มาสมัครไม่ว่าจะเป็นใคร เป็น ส.ว.เก่าหรือไม่ ทุกคนเท่ากันหมด ไม่ได้ดูว่าใครใหม่ ใครเก่า แต่ดูว่าคนๆ นั้นเหมาะ สมในการมาทำหน้าที่หรือไม่ ไม่ได้กำหนดว่าส.ว.เก่าต้องได้มาจำนวนเท่านั้นเท่านี้ ส่วน ส.ว.เก่าบางคนที่ได้รับการสรรหาเข้ามาใหม่ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ค่อยทำงาน หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็เป็นแค่เสียงพูดกัน อย่างเรื่องมีบางคนขึ้นเครื่องบินแล้วไปขอดูห้องนักบินก็เป็นเรื่องนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น ยืนยันว่าส.ว.สรรหาเก่าที่กรรมการเลือกกลับมาใหม่นั้นก็มีบทบาทในสภา และเคยทำงานในนามกรรมา ธิการอย่างมีประสิทธิภาพ

รับกก.รู้จักผู้สมัครไม่หมด

เมื่อถามว่าการกระจายของสาขาอาชีพไม่ค่อยจะมี บางครั้งตัวแทนองค์กรก็ไม่ได้ประกอบ อาชีพนั้นจริงๆ นายปราโมทย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าที่เลือกมานั้นมีการกระจาย มีทั้งเกษตร ประมงและอื่นๆ แต่ก็ยอมรับว่าผู้ที่มาสมัครกรรมการรู้จักไม่หมด มีข้อมูลจากกระดาษเอ 4 ก็ดูเท่าที่จะดูได้ และพยายามให้ครอบคลุมสาขาอาชีพต่างๆ แต่ในความเป็นจริงคงไม่สามารถให้ครอบ คลุมได้ทุกสาขาอาชีพ เพราะที่นั่งมีจำกัด

ส่วนที่มีเสียงโจมตีว่าแม้จะมาจากเกษตร กรหรือประมง ก็เป็นพวกกลุ่มนายทุน ไม่ได้เป็นผู้ประกอบอาชีพนั้นจริงๆ นายปราโมทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้คงพูดลำบาก ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกบางคนอาชีพจริงอย่างหนึ่ง แต่องค์กรที่เสนอชื่อเป็นกลุ่มอาชีพอื่น กรรมการได้พิจารณาประเด็นนี้เห็นว่าเมื่องค์กรตัดสินใจส่งชื่อใครมาก็ต้องเคารพ เมื่อเข้ามาอยู่ในบัญชีที่กรรมการจะต้องเลือกถ้าไม่ต้องการแบบนี้ต่อไปก็ต้องไปแก้กฎหมายเรื่ององค์กรที่ส่งรายชื่อ ว่าบุคคลนั้นต้องประกอบอาชีพที่ตรงกับองค์กรนั้นๆ อย่างสมัยแรกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ก็ส่งโดยองค์กรอาคารชุด นายเรืองไกร ก็ไม่ได้ประกอบอาชีพนั้นแต่ก็ได้รับการสรรหา ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องมุมมองที่แตกต่างกันเท่านั้น

ขาดตัวแทนกลุ่มวิชาชีพ

นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงผลการสรรหาส.ว.ว่า รายชื่อที่ออกมาสะท้อนถึงความขัดแย้งกับบทบัญญัติตามรัฐธรรรมนูญ ประการแรก ส.ว.ไม่ควรกลับมาเป็นซ้ำ 2 รอบ แต่ครั้งนี้กลับเข้ามาอีก 31 คน ประ การที่ 2 ผิดจุดมุ่งหมายของการให้มีส.ว. สรรหา ที่จะให้ตัวแทนจากภาคต่างๆ ทั้งวิชาชีพ มุสลิม เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ตัวแทนขององค์กรเหล่านั้นอย่างแท้จริง มีแต่คนมีอำนาจ มียศตำแหน่ง ใช้ชื่อเสียงหรือใช้อำนาจคมช. ไปอาศัยชื่อขององค์กรเกษตรหรือวิชาชีพอื่น เสนอรายชื่อเข้ามาแทนจนได้รับการสรรหา


นายตระกูล มีชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่าเป็นแค่สภาสูงของชนชั้นกลางและตัว แทนผลประโยชน์ ไม่มีตัวแทนของกลุ่มภาควิชาชีพ เช่น กลุ่มของชาวนา ถือเป็นจุดอ่อนของกระบวนการสรรหา (อ่านรายละเอียด น.3)

ยังไม่ยุติหนุน"ธีรเดช"นั่งปธ.

รายงานข่าวจากวุฒิสภาแจ้งความเคลื่อนไหวของส.ว.กลุ่มต่างๆ ในการสนับสนุนบุคคลขึ้นเป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่ ล่าสุด เมื่อค่ำวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ส.ว.สรรหาชุดใหม่ในส่วนกลุ่ม 40 ส.ว. และในส่วนสายทหาร นำโดยพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ร่วมรับประทานอาหารค่ำที่โรงแรมดิ เอ็มเมอรัลด์ ถ.รัชดาภิเษก หารือถึงการสนับสนุนบุคคลเข้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ซึ่งพล.อ.สมเจตน์ เสนอชื่อพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ส.ว.สรรหา อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน

ขณะที่ในส่วนกลุ่ม 40 ส.ว. ยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน บางส่วนเห็นว่าสมควรให้ส.ว.เลือกตั้ง ได้เป็นประธานบ้าง เพราะ 3 ปีแรก ส.ว. สรรหาเป็นประธานแล้ว จะได้ไม่มีความขัดแย้งในวุฒิสภาและลดกระแสการถูกโจมตีได้มาก และให้ส.ว.สรรหา เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ก็ได้ โดยเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้านงานกฎหมายมาพอสมควรเพื่อให้มาทำหน้าที่ด้านระเบียบข้อบังคับต่างๆ เพื่อสลับกันระหว่างสายเลือกตั้ง และสายสรรหา จะได้สร้างธรรมเนียมขึ้นโดยไม่ต้องมีการแก่งแย่งกัน ทั้งนี้ พล.อ.สมเจตน์ สงวนท่าทีโดยระบุว่าก็พร้อมฟังความคิดเห็นและพร้อมสนับสนุนความเห็นที่ดีกว่า

ส.ว.เลือกตั้งเสียงแตก

แหล่งข่าวระบุกลุ่ม 40 ส.ว.อีกส่วนหนึ่งเห็นว่ากรณีสนับสนุนส.ว.เลือกตั้ง เป็นประธาน บุคคลที่อยู่ในข่ายคือ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ส.ว. ฉะเชิงเทรา แต่ติดเงื่อนไขที่นายนิคม ยังแทงกั๊กไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ เพราะกลัวพลาดตำแหน่งประธาน จึงเป็นจุดที่ทำให้ส.ว.ทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นสายสรรหา หรือสายเลือกตั้ง ที่สนับสนุนนายนิคมและกลุ่มที่สนับสนุนนายดิเรก ถึงฝั่งส.ว.นนทบุรี ยังไม่ไว้วางใจในการหันมาเทเสียงสนับสนุนให้กันและกัน

แหล่งข่าวระบุว่า ในส่วนส.ว.สายเลือกตั้ง หากต้องการจะเป็นประธานจริงๆ ก็ต้องอาศัยเสียงจากส.ว.สรรหา ถึงจะชนะ เพราะการหารือกันเมื่อวันที่ 10 เม.ย. แม้พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ส.ว.อ่างทอง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในส่วนส.ว.เลือกตั้ง ช่วยเคลียร์ใจระหว่างนายนิคม และนายดิเรก แต่ก็ไม่ได้ข้อยุติทำให้เสียงแตก จนมีการพูดถึงชื่อนายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว. นครปฐม ผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งในวุฒิสภา ขึ้นเป็นแคนดิเดตประธานเป็นคนที่ 3

แหล่งข่าวระบุ พิจารณาจากภาพรวม ส.ว. เลือกตั้งหลายสายแสดงท่าทีต้องการยึดทั้งตำแหน่งประธาน และรองประธาน รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการให้หมด ทำให้ส.ว. สรรหา ต้องสนับสนุนบุคคลลงชิงตำแหน่งโดยจะรอดูท่าทีก่อนและจะยังไม่สรุปเป็นข้อยุติว่าจะเดินทางใด แต่จะนัดหารืออีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ช่วงนี้จะรอการประสานจากส.ว.กลุ่มต่างๆ มาด้วยว่าจะสนใจสูตรไหน รวมถึงรอการประสานจาก ส.ว.สายเลือกตั้ง

"เรืองไกร"เตรียมร้องกกต.

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ที่ลงสมัครแต่ไม่ได้รับการคัดเลือก เผยว่า วันที่ 18 เม.ย.นี้ จะไปร้องคัดค้านการรับรองผลการสรรหา กับกกต.ใน 4 ประเด็นคือ 1.การประชุมคณะกรรมการสรรหาที่ไม่มีนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รักษาการประธานคตง. เข้าประชุมด้วย จะถือว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ 2.กรณีส.ว.สรรหาเก่า 31 คน ที่ได้รับการสรรหา อาจมีปัญหาเรื่องการนับอายุเวลา เพราะการลาออกไปลงสมัครใหม่ทำให้หมดสภาพตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 119 (3) และไม่สามารถมาสมัครใหม่ได้ตามมาตรา 117 วรรคสอง ที่ห้ามดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 1 วาระ แต่ไม่ได้พ้นจากตำแหน่งตาม มาตรา 119 (1) กรณีการออกตามวาระ ที่มาตรา 117 วรรคสาม ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีส.ว.ใหม่ โดยมีบทเฉพาะกาล มาตรา 297 กำหนดข้อยกเว้นว่า ให้ส.ว. สรรหาชุดแรกห้ามดำรงตำ แหน่งติดต่อกันเกิน 1 วาระมาบังคับใช้ ซึ่งตรงนี้จึงเข้าข่ายมาตรา 115 (9) ไม่เคยหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวมาแล้วยังไม่เกิน 5 ปี กรณีนี้ตนจึงไม่ลาออกเพื่อไปเข้ารับการสรรหา

3.กรณีนายสัก กอแสงเรือง อดีตส.ว.เลือกตั้ง 43 ก็เข้าข่ายกรณีมาตรา 115 (9) เพราะพ้นจากตำแหน่งวันที่ 20 มี.ค. 2549 แต่การรับสมัครของกกต.วันสุดท้ายคือ 12 มี.ค. 2554 จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพ้น 5 ปี น่าจะขาดไป 10 กว่าวัน และ 4. กรณีส.ว.ใหม่ 41 คน มีบางรายถูกส่งชื่อโดยองค์กรที่บางองค์กรแม้ไม่ได้แสวงหากำไร เช่น เป็นมหาวิทยาลัย หรือองค์กรใดๆ แต่มีการเปิดร้านค้าขายของให้สมาชิก จะถือว่าส่งโดยองค์กรที่แสวงหากำไรหรือไม่ เพราะสรรพากรถือว่ารายได้ตรงนี้เป็นรายได้ที่ไม่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี

"เทือก"อัด"เด็จพี่-ตู่"

ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ ดอนเมือง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงโฉมหน้าส.ว.สรรหา 73 คน ที่ถูกวิจารณ์ว่ากลุ่มที่ต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการสรรหา ว่า "จริงหรือ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ ต่อต้านทักษิณไหม ดร.สม จาตุศรีพิทักษ์ ต่อต้านทักษิณไหม หรือว่าพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ต่อต้านทักษิณไหม คนพูดมันพูดเอาแต่ได้"

นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องพูดให้ครบว่ากรรมการสรรหาเขาก็ทำหน้าที่ของเขาดีอยู่แล้ว คงไม่คิดว่าใครเป็นพวกใคร แต่เมื่อเขาทำแล้วต้องรู้จักเคารพคนอื่นเขาบ้าง พูดแบบนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. พูดให้ชาติเสียหาย

ไม่มีเครือข่ายปชป.เข้าวิน

เมื่อถามถึงสัดส่วนของส.ว.สรรหา ยังเป็นกลุ่มอำนาจเก่าที่ได้เข้ามามาก นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี ตนยังไม่เห็นเลย และไม่ทราบว่าใครรักกับใคร ใครชอบกับใครอย่างไรเพราะเขาไม่ได้บอกตน แต่ที่แน่ๆ คือไม่มีใครเป็นเครือข่ายประชาธิปัตย์ คณะกรรมการสรรหาทั้ง 6 คน สามารถตอบตรงนี้ได้ชัดเจนที่สุด เมื่อกฎหมายกำหนดให้กรรมการสรรหามีหน้าที่รับผิดชอบในการพิจารณารับเลือกคน เราต้องให้ความเคารพในดุลพินิจ เมื่อถามย้ำว่าส.ว.สรรหาทั้ง 73 คน ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์เลย นายสุเทพ กล่าวว่า ดูชื่อยังไม่เห็นว่ามีความเกี่ยวพันอะไรกับพรรคสักคน

เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่าส.ว.สรรหาชุดนี้จะเข้ามาขัดขวางพ.ต.ท.ทักษิณ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ อย่างนี้มันพูดให้ร้ายเขาเกินไป วุฒิสมาชิกทั้งหลายก็มีหน้าที่ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยเหมือนกับพวกตน เพียงแต่ว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเพราะรัฐ ธรรมนูญกำหนดที่มาไว้ต่างหาก แต่ก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ ที่คัดเลือกกันมาตามกระบวนการ เมื่อถามว่าส.ว.ที่เป็นอดีตนายทหาร บอกชัดว่าเป้าหมายจะขัดขวางคนนั้นคนนี้ ถือเป็นคุณสมบัติที่ดีของส.ว. หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่วิจารณ์เป็นรายคน

ชุมพลไม่วิจารณ์คตส.-คมช.

ที่จ.สุพรรณบุรี นายชุมพล ศิลปอาชา รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงผลการสรรหาส.ว.73 คน ว่า ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน หากไม่มองเรื่องหลักการที่ต้องการสรรหาส.ว. ชุดเก่าขึ้นมาเพื่อสานการทำงานของวุฒิสภา ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และถ้าถามว่าภาพพจน์คนที่คัดมาจากส.ว.เก่าเป็นอย่างไร เทียบจากส.ว.ชุดเก่า 73 คน คัดมา 31 คน ก็ถือว่าคัดได้ดีพอสมควร รวมทั้งกลุ่ม 40 ส.ว.ที่ได้รับการสรรหาเข้ามา 21 กว่าคน ก็ดีกว่าที่ไม่ได้รับการสรรหา

นายชุมพล กล่าวว่า ส่วนที่มีข้อสังเกตว่ามาจากคตส. หรือคมช. ถือว่าเหนือความคาดหมายที่ตนจะมาให้ความเห็น อย่างนายสัก กอแสงเรือง ที่มาจาก คตส.ก็ต้องยอมรับว่าเป็นคนเก่ง ส่วนพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคมช. ตนไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ รอดูผลงานก็แล้วกัน

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยระบุว่าส.ว.สรรหาที่ได้เป็นทายาทอสูร หรือผลผลิตจากการรัฐ ประหาร นายชุมพล กล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้นเลย มีบางคนที่อยู่ในคตส. และอยู่ในคมช. เท่านั้นเอง แต่คนที่เป็น ส.ว.ไม่ใช่มาตรวจสอบเรื่องในอดีตทั้งหมดแต่มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และส่วนหนึ่งที่มาจาก 40 ส.ว.หากทำงานตรวจสอบรัฐบาลเข้มข้นก็ดี แต่ขออย่าตีความเป็นรายวัน ส่วนที่มาจากคมช.ก็ต้องให้โอกาสเขาทำงาน การทำงานของสภาผู้แทนราษฎร ส.ว.ทั้งหมดมี 150 คน เชื่อว่าคนดีในสภาคงจะช่วยการฉุด ช่วยกันรั้ง คงจะทำอะไรลำบาก

แนะเลือกประธานเป็นกลาง

นายชุมพล กล่าวว่า ในฐานะเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญก็ยังเห็นว่า ส.ว.ควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ตนยังยืนยันหลักการนี้อยู่ ส.ว.ในอดีตที่มาจากการแต่งตั้ง หรือสรรหา ส่วนมากจะมองว่าใครแต่งตั้งเขาเข้ามาก็จะรับใช้แต่คนที่ตั้งเขา แต่ถ้ามาจากการเลือกตั้งจะรับผิดชอบกับประชาชนอย่างเต็มตัว ข้อครหาวุฒิสภาชุดเก่าที่ว่า "สภาทาส" กลุ่มอิทธิพลครอบงำบ้าง รัฐธรรมนูญปี 50 ได้แก้จุดอ่อนนี้เรียบร้อยแล้ว และข้อวิพากษ์ครั้งก่อนก็มาจากการให้อำนาจในการสรรหาและคัดเลือกองค์กรอิสระ

นายชุมพล กล่าวว่า ดังนั้น หัวหน้าองค์กรวุฒิสภาต้องเป็นตัวหลักที่สำคัญ ต้องเลือกคนที่ใจเป็นกลาง ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างแท้ จริง ไม่ใช่เข้าข้างรัฐบาล ทำตัวเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล อย่างนี้ใช้ไม่ได้ แต่ครั้งนี้ดูภาพพจน์แล้วไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ต้องเลือกประธานวุฒิฯที่เป็นคนดีไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะสังคมไทยถือข้างกันมาก แตกแยกกันมาก ทุกคนเลือกข้างกันหมด มันไม่ถูก ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ การทำ งานต่างๆ ก็ไม่ราบรื่น ดังนั้นเมื่อสรรหามา 73 คนเรียบร้อยแล้ว อย่าไปถือว่าเป็นคมช.หรืออะไร ขอให้ถือว่าเป็นภาพรวมของวุฒิสภา ของประเทศชาติ การเลือกประธานวุฒิสภาจะมาจากส.ว.สรรหาหรือเลือกตั้งก็อยู่ที่เสียงข้างมาก และกติกาของวุฒิสภา

"เติ้ง"ผิดหวังบางคนประวัติไม่ดี

นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงผลการคัดเลือกส.ว.สรรหา ว่า รู้สึกผิดหวังในบางคน เพราะตนรู้ประวัติดี ไม่รู้มาได้อย่างไร แต่ต้องเข้าใจว่ากรรมการสรรหามีไม่กี่คน เวลาตรวจสอบประวัติมีน้อย มีบางคนถูกกล่าวหามีเรื่องมีราวแต่ตนคงไม่ทำหนังสือไปร้องเรียนใคร แต่ถ้ากรรมการสรรหาจะสอบถามเป็นการส่วนตัวว่าใครมีประวัติอย่างไรก็พร้อมให้ข้อมูล

นายบรรหาร กล่าวว่า ส่วนที่มีส.ว.มาจากชุดเก่าถึง 31 คน ต้องย้อนกลับไปดูการทำงานในสภาว่าใครทำงานเป็นอย่างไร ที่มีชื่อของคนที่เคยเป็นอดีตคมช. และคตส. ก็ต้องมีบ้าง ส่วนคนที่มีนามสกุลเดียวกับคนที่มีอำนาจในปัจจุบันบางคนก็เป็นคนดี แต่บังเอิญมีนามสกุลเดียวกันเท่านั้น แต่ทั้งภาพรวมทั้ง 73 คนก็ถือว่าใช้ได้ มีบางคนหลงมาบ้าง ถ้าเอาให้ถูกต้อง 100 % คงยาก ตนไม่ห่วงการทำงานของส.ว.ชุดนี้ โดยส่วนตัวยังเห็นว่า ส.ว.ควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพราะไม่อยากให้เป็นเหมือนน้ำ 2 สี

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยระบุเป็นส.ว. ทายาทอสูร นายบรรหาร ย้อนถามว่า อสูรคือใคร หมาย ถึงใคร ประเทศไทยอย่างไรก็ยังมีพวกใครพวกมัน ส่วนข่าวพล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม อาจได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานวุฒิสภา นายบรรหาร กล่าวว่า ตนเคยเห็น เป็นคนดี เป็นคนนอบน้อม เพราะบิดาเคยเป็นผู้ว่าฯสุพรรณบุรี เคยเห็นมานานแล้ว

แย้มเซอร์ไพรส์ 21 เม.ย.

นายบรรหาร กล่าวว่า เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีพิเศษ ไม่มีเรื่องเหมือนปีที่ผ่านมา เสื้อสีต่างๆ มุ่งเข้าสู่การเลือกตั้งเชื่อว่าถ้าเลือกตั้งเสร็จแล้วจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยากให้บ้านเมืองสงบ อย่าแบ่งพรรคแบ่งสี ขอให้ลดทิฐิ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง บ้านเมืองจะได้ไปได้ การเมืองเราต้องถอยกันคนละก้าว เอาทั้งรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์มาร่วมกัน ส่วนตัวเห็นว่าแม้จะมีการเลือกตั้งใหม่ก็ได้คนเดิม เดี๋ยวก็มีเหลืองออกมา แดงออกมา ยังไม่สงบ แต่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเพราะนายกฯ ประกาศแล้ว

นายบรรหาร กล่าวว่า วันที่ 21 เม.ย.นี้ พรรคชาติไทยพัฒนาจะเปิดตัวผู้เข้าร่วมทำงานการเมือง เป็นอดีตนางสาวไทย อายุ 24-25 ปี และกำลังทาบทามนักกีฬาประเภทที่ใช้เท้าวิ่ง ยังตอบไม่ได้ว่าพรรคจะได้ส.ส.เท่าไร แต่คงไม่เกิน 50 ที่นั่ง และยังตอบไม่ได้เช่นกันว่าจะจับขั้วเหมือนเดิมหรือไม่ ขึ้นอยู่ว่าแต่ละพรรคจะได้ ส.ส.เท่าไร อย่างครั้งที่แล้วมีพรรคประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา เพื่อแผ่นดิน คาดว่าจะรวมกันได้ 280 ที่นั่ง แต่ผลเลือกตั้งออกมาได้แค่ 210 ที่นั่ง หงายหลังกันเป็นแถว แต่ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนายังเป็นมิตรกันอยู่

มีนายกฯในใจแล้ว

เมื่อถามถึงการเสนอให้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายบรรหาร กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ละครั้งทำได้ยาก เพราะเสียงไปคนละทาง แต่ที่เหมาะสมคือควรแก้ไขมาตรา 237 เสนอไปก็ไม่ทำ เพราะเรื่องยุบพรรคตนจำได้แม่นและเจ็บใจ จำชื่อได้แม่นว่าใครที่มายุบพรรคตน ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไร สวดมนต์ไหว้พระก็ขอให้คนพวกนั้นเจริญๆ ชาตินี้ตนมีกรรม แต่ตนก็เชื่อเรื่องกรรมสนองกรรม

เมื่อถามถึงนายกฯ คนใหม่ นายบรรหาร กล่าวว่า อยู่ในใจแล้ว แต่คนที่มีความรู้ ความสามารถถูกกักบริเวณ อย่างคนบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 มีอยู่เยอะ แต่ตอนนี้หาไม่ค่อยได้ แม้จะมีคนเสนอนิรโทษกรรมนักการเมืองแต่ใครจะทำ เพราะต้องมีคนค้าน ส่วนตัวอยากให้ยกโทษให้หมด ล้างให้หมด ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองก็เป็นอย่างนี้ เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้มีการนิรโทษกรรม นายบรรหาร กล่าวว่า มีบางคนค้านจะมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายทำให้นิรโทษกรรมลำบาก เพราะคนไม่เห็นด้วยเยอะ ขณะนี้ประชาธิป ไตยบ้านเราถอยหลังลงคลองกันหมด ไม่เดินหน้า ใครที่เอาประชาธิป ไตยมาอ้างก็ไม่ใช่ ไม่เหมือน 20 ปีก่อนบรรยากาศดีมาก ถึงปี 2544 ก็เริ่มแย่ เป็นจุดเริ่มของปัญหาทั้งหมด

ชี้ยุบ 6-7 พ.ค.

นายบรรหาร กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของตนเองหลังครบกำหนดการเว้นวรรคทางการเมือง ว่า ต้องขอรอดูอีกทีว่า เมื่อถึงตอนนั้นจะดูสุขภาพอีกทีหนึ่งว่าดีพอหรือไม่ เพราะมีอาการข้อเข่าเสื่อม ขณะนี้ตนเบื่อการเมืองแล้วแต่ก็ไม่ห่วงเพราะพื้นที่สุพรรณบุรีส่งลูกหลานลงหมดแล้ว

ก่อนให้สัมภาษณ์ นายบรรหาร เปิดให้ข้า ราชการ พ่อค้า ประชาชนรดน้ำเนื่องในวันสงกรานต์ นำโดย นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี ร่วมด้วยรัฐมนตรี ส.ส.และสมาชิก พรรค อาทิ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค และรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ นายนิกร จำนง กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน นายจองชัย เที่ยงธรรม พร้อมด้วยส.ส.และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงาน ที่อาคารสัมมนาบึงฉวากรีสอร์ท อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี

นายบรรหาร กล่าวกับผู้เข้าอวยพร ว่า ตนมีปัญหาข้อเข่าเสื่อม เป็นไปตามอายุขัย พยายามหาหมอที่ดีก็ไม่ได้ ตัดเข่าใครมาใส่ตนก็ไม่เอา ขณะนี้ร่างกายไม่ค่อยอำนวยแต่ใจยังสู้ ใจสู้มีฤทธานุภาพร้ายแรง ใจสู้ทุกอย่างก็สำเร็จ งานก็เจริญก้าวหน้า จากนี้ไปจะมีการยุบสภาประมาณวันที่ 6-7 พ.ค.

"มาร์ค"เร่งแก้ปัญหาปากท้อง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเมืองหลังปีใหม่ไทย ว่า สงกรานต์ปีนี้เราได้ฉลองสงกรานต์กันตามปกติ 2 ปีที่ผ่านมามีแต่เหตุการณ์ความวุ่นวาย ปีนี้ตนหวังว่าประชาชนจะมีความสุขกับการที่ไม่ต้องกังวลใจกับสถานการณ์เหตุการณ์ในบ้านเมือง ส่วนหลังปีใหม่ไทยมานั้นรัฐบาลจะเหลือเวลาทำงานอยู่ประมาณครึ่งเดือน จะเดินหน้าทำงานให้ดีที่สุด ประชาชนจะได้มีโอกาสในการเลือก ส.ส. และผู้บริหารชุดใหม่ ถือเป็น การคืนอำนาจให้ประชาชน เป็นโอกาสดีที่ ประชาชนจะได้ตัดสินใจในการเลือกทิศทางของบ้านเมืองต่อไป

เมื่อถามว่าครึ่งเดือนที่รัฐบาลเหลือเวลาทำงานคืออะไร นายกฯ กล่าวว่า ตนยังเป็นห่วงปัญหาปากท้องของประชาชน เรื่องข้าวของแพง เพราะราคาน้ำมันดิบยังมีปัญหาจากเหตุการณ์ในตะวัน ออกกลาง ซึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องจิตวิทยา การเก็งกำไร และคงจะมีสินค้าอีกหลายตัวที่จะมีปัญหาเรื่องต้นทุน รัฐบาลก็ต้องเร่งแก้ไขและเรื่องเพิ่มรายได้ที่เป็นนโยบายสำคัญที่ต้องเร่งรัด

เมื่อถามว่า แสดงว่าเบาใจเรื่องการเมืองหนักใจเรื่องปากท้องประชาชน นายกฯ กล่าวว่า ความจริงปัญหาการเมืองไม่มีหมด ปัญหาเรื่องหนึ่งหมดไปเรื่องใหม่ตามมา แต่ที่สำคัญกว่าคือเรื่องปัญหาของประชาชน ตนต้องการให้การเลือกตั้งมีการนำข้อเสนอเป็นรูปธรรมว่าจะแก้ปัญหาประชาชนอย่างไร

ไม่มีอุปสรรคยุบสภาตามกำหนด

เมื่อถามว่าถึงวันนี้คิดว่ายังไม่มีอุปสรรคใดมาขัดขวางการยุบสภา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นอะไร เพราะวุฒิสภาก็ได้รับหลักการในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 3 ฉบับแล้ว และดูตารางเวลาก็ยังคิดว่าเป็นไปตามกรอบที่กำหนด ไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด และอยากขอความร่วมมือทุกคนทำให้เป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่าหลังสงกรานต์คาดว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า คงไม่ต่างไปจากช่วงนี้เพราะทุกคนมุ่งเข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะการยุบสภาเกิดขึ้นไม่เกินต้นเดือนพ.ค.

เมื่อถามว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างทางที่จะถึงการเลือกตั้งหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแล มีคนกลุ่มน้อยมากๆ ที่ไม่ต้องการเห็นการเลือกตั้ง ฉะนั้นต้องช่วยกันประคับประคองให้บ้านเมืองเดินไปได้โดยกระบวนการประชาธิปไตย

นัดกกต.หลังสงกรานต์

เมื่อถามว่า ระหว่างวันที่ 1-7 พ.ค. จะยุบสภาวันไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันไหนก็วันนั้น ยังไม่ได้ระบุวัน กำลังพยายามเร่งเรื่องกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยให้วุฒิสภาแปรญัตติภายใน 1 วัน คาดหวังว่าวันที่ 18 เม.ย. ส.ว.จะพิจารณาเสร็จ ต้องไปดูต่อว่าจะมีการแก้ไขหรือไม่เพราะถ้ามีการแก้ไขก็ต้องกลับไปสภาผู้แทนฯ อีก แต่ให้เตรียมทำตามรางเวลาเอาไว้แล้วว่าถ้าวุฒิฯ แก้จะไปอย่างไร ไม่แก้จะไปอย่างไร

เมื่อถามว่าต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ นายกฯ กล่าวว่า ถูกต้อง เมื่อถามว่าจะล่าช้าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า หวังว่าไม่ช้าเพราะกฎหมายมีไม่กี่มาตรา และเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญทราบถึงความจำเป็นเร่งด่วนนี้ดี น่าจะสามารถดูแลได้ เมื่อถามว่าจะขอความร่วมมือไปทางศาลรัฐธรรม นูญหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน และก็จะหาโอกาสไปคุยและหารือกับกกต. ถึงการกำหนดแนวทางของการปฏิบัติตนในช่วงของการเลือกตั้งให้ทุกฝ่ายสบายใจในเรื่องของบทบาทของฝ่ายบริหาร เมื่อถามว่า แสดงว่าเปิดทำงานหลังสงกรานต์มานายกฯจะหาเวลานัดพบกับกกต. นายกฯ กล่าวว่า ใช่ คงจะหาเวลานัดหมายไป

"ยิ่งลักษณ์"บินถก"แม้ว"

แหล่งข่าวระดับแกนนำพรรคเพื่อไทย เผยความคืบหน้าการเลือกบุคคลที่พรรคจะชูเป็นนายกฯ และจะลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 โดยยืนยัน ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ มีการหารือร่

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์