อลงกรณ์ แฉแก้จน ยุคแม้ว ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม-ผลาญงบชาติ

อลงกรณ์ แฉแก้จน ยุคแม้ว ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม-ผลาญงบชาติ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 ธันวาคม 2549 16:26 น.

รอง หน.ปชป. ชำแหละโครงการแก้จน ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ร้อยเอ็ด ยุคแม้ว ผลาญงบประมาณชาติ ผ่านกองทุนนักการเมือง 40 ล้าน จี้ คมช.-รัฐบาล เร่งตรวจสอบ เชื่อใช้อำนาจรัฐฉ้อฉลอีกนับพันล้าน เตรียมออกสมุดปกดำแฉโครงการอัปยศก่อนสิ้นปีนี้

อลงกรณ์ แฉ โครงการอัปยศ

วันนี้ (17 ธ.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตของพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการตรวจสอบการใช้จ่ายของกองทุนกระจายการผลิตและการจ้างงานไปสู่ภูมิภาคในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2545-2548 สมัยรัฐบาลที่แล้ว พบว่า มีการอนุมัติโครงการแบบไม่โปร่งใส ก่อให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน เป็นการผลาญเงินภาษีของประชาชนอย่างไร้ความรับผิดชอบ โดยคณะอนุกรรมการที่มีรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีตามข้อเสนอของ ส.ส.แบบเขตเลือกตั้ง และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อบต. เทศบาล และ อบจ.ในเขตเลือกตั้งของ ส.ส.สังกัดพรรครัฐบาลเสมือนเป็นกองทุนการเมืองของรัฐบาลเช่นเดียวกับการใช้เงินกองสลาก

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ตัวอย่างหนึ่งของการปู้ยี่ปู้ยำภาษีของประชาชน โดยอ้างนโยบายขจัดความยากจน คือ โครงการส่งเสริมราษฎรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมใน 3 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ดโดยใช้งบประมาณ 32 ล้านบาท ในปี 2545 โดยมีการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไหม 50 โรง พร้อมอุปกรณ์การเลี้ยงและการส่งเสริมราษฎรจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหม 50 กลุ่มในพื้นที่ อ.อาจสามารถ อ.ธวัชบุรี และกิ่งอำเภอทุ่งเขาหลวง ผลการตรวจสอบ พบว่า โรงเรือน 50 โรง ใน 3 อำเภอ ถูกปล่อยทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรมไม่ได้ใช้ประโยชน์เช่นเดียวกับบ่อบาดาลและอุปกรณ์การเลี้ยงไหม ส่วนกลุ่มเกษตรกรสลายไปเกือบหมดเหลือไม่ถึง 15 กลุ่ม ที่กลับไปเลี้ยงไหมตามบ้านดังที่เคยเลี้ยงก่อนจะเกิดโครงการดังกล่าว

ในการลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อต้นเดือนธันวาคมได้รับการชี้แจงจาก อบต.และราษฎร ว่า

มี ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรครัฐบาลในจังหวัดร้อยเอ็ดมาประสานงาน และตั้งโครงการผ่าน อบต.และ อบจ.หลังจากนั้น ก็มีการเริ่มโครงการได้ไม่กี่เดือน การปลูกหม่อนในแปลงปลูกก็ยุติลงส่วนโรงเรือนก็ไม่ได้ใช้ตั้งแต่นั้นมา นอกจากนี้ ยังปรากฏว่า มีโครงการสร้างโรงสาวไหมใกล้กับบริเวณโครงการใน ต.หนองไผ่ อ.ธวัชบุรี ใช้งบประมาณรัฐบาลผ่านอำเภอธวัชบุรี เกือบ 10 ล้านบาท แต่ไม่สำเร็จ พบเพียงโครงสร้างอาคารที่ยังไม่มุงหลังคาและผู้รับเหมาทิ้งงาน น่าสังเกตว่า ศูนย์วิจัยหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ตั้งอยู่ใน จ.ร้อยเอ็ด ยืนยันว่า ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการจัดทำโครงการดังกล่าวเลยจนกระทั่งโรงเรือนสร้างเสร็จแล้วจึงได้รับแจ้งให้ช่วยส่งเสริมราษฎรปลูกหม่อนเท่านั้น จึงมีคำถามว่า ทำไมโครงการที่ใช้งบประมาณแผ่นดินกว่า 40 ล้านบาท จึงไม่ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงดำเนินการแต่กลับผ่านนักการเมืองในพื้นที่จนประสบความล้มเหลวในที่สุด นายอลงกรณ์ กล่าว

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อไปว่า โครงการนี้เหมือนยอดของภูเขาน้ำแข็งที่เราตรวจพบ

และเชื่อว่า ยังมีโครงการต่างๆ ของกองทุนการเมืองในรัฐบาลชุดที่แล้วที่มีลักษณะเช่นนี้อีกหลายร้อยล้านบาท จนถึงพันล้านบาท จึงขอให้ คมช.รัฐบาล และ สนช.ทำการสอบสวนหาผู้รับผิดชอบต่อไป

นายอลงกรณ์ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ จะออกสมุดปกดำเล่มแรกว่าด้วยการฉ้อราษฎร์บังหลวง และทุจริตในรัฐบาลชุดที่แล้วจำนวน 1 หมื่นเล่ม จากนั้นในเดือน ม.ค.2550 จะออกสมุดปกดำว่าด้วยการผลาญงบประมาณแผ่นดินในโครงการต่างๆ และในเดือน ก.พ.จะออกสมุดปกดำว่าด้วยการใช้อำนาจฉ้อฉล ในการแต่งตั้งโยกย้าย ญาติพี่น้อง พวกพ้อง อย่างผิดหลักเกณฑ์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์