เดินเกมยื้อศึกซักฟอกเลื่อนเปิดเวที15-18มี.ค.


เนวิน”พล่านเดินเกมยื้อศึกซักฟอกสั่ง“ปู่ชัย”เลื่อนเปิดเวทีเป็น15-18 มี.ค. แฉ 4 รมต.“ภูมิใจไทย”หาข้อมูลแก้ลำ

วันนี้ 4 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสดของนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.นครราชสีมา พรรครวมชาติพัฒนา เรื่องการแก้ไขวิกฤติของชาติที่มีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน รวมถึงช่วงเวลาในการยุบสภาที่แน่ชัด โดยนายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า “เรื่องการยุบสภา ผมยืนยันว่ายุบแน่ หากการชุมนุมเคลื่อนไหวไม่ความรุนแรงและอยู่แบบนี้ ก็ถือว่ายุบสภาไปเลือกตั้งได้”

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเตือนฝ่ายค้านอาจนำข้อมูลจริงปนเท็จมาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุเทพในประเด็นปัญหาน้ำมันปาล์มว่า “ไม่มีปัญหา ขอให้เอามา ผมต้องการให้นำมาเสนอ และพิสูจน์กันต่อหน้าประชาชน 65 ล้านคนเลย”

“ชทพ.”หนุนเลือกตั้งปลายปี
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเตรียมจัดงานระดมทุนในวันที่ 12 มี.ค. ที่จะกระทบต่อวันอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า แม้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลการจัดงานดังกล่าวก็จะไม่เลื่อน เพราะทราบมาว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 15-18 มี.ค. ส่วนการอภิปรายและการถอดถอนรัฐมนตรีไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต แต่อย่าให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นก็แล้วกัน  ส่วนจะเป็นอุบัติเหตุอะไรคงไม่รู้ได้ เพราะพระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้

หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า อำนาจการยุบสภาอยู่ที่นายกฯ ถ้านับจากนี้เหลือเวลาอีก 9 เดือน แต่ฟันธงว่าน่าจะยุบครึ่งปีหลัง อาจจะเป็นปลายเดือน ต.ค. หรือต้นเดือน พ.ย. สวยที่สุด เพราะเงื่อนไขเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจภายในสิ้นเดือน มี.ค. นี้จบหมด ทำไมไม่ให้งบประมาณปี 2555 ผ่าน ฝ่ายทหารก็บอกว่าทำไมไม่แต่งตั้งโยกย้ายทหารผ่านไปก่อน แต่ที่น่าห่วงคือความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรงนี้จะเป็นปัญหาใหญ่ ส่วนความเคลื่อนไหวต่าง ๆ อยู่ในระดับที่ไม่แรงจัดก็ไม่น่ากระทบกระเทือน เพียงแต่น่าจับตาเท่านั้น

“ปู่จิ้น”ฟุ้งเรียกคะแนน“ภท.”

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคมีความพร้อมที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา แต่ละกระทรวงจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาสนับสนุนข้อมูลให้รัฐมนตรีได้ชี้แจงในเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ หรือการแต่งตั้งข้าราชการ รวมถึงบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์หรือสมาร์ทการ์ด ส่วนรัฐมนตรีของพรรคคนอื่น ๆ เท่าที่ได้รับทราบไม่มีใครน่าห่วง แต่มีเวลาอีก 1 สัปดาห์ในการเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลในการชี้แจง และการชี้แจงครั้งนี้จะทำให้ประชาชนเข้าใจและพรรคอาจได้คะแนนนิยมมากขึ้นอีก

รายงานข่าวจากพรรคภูมิใจไทยแจ้งว่า  นายโสภณ  ซารัมย์  รมว.คมนาคม รับผิดชอบพื้นที่อีสานใต้ได้ติดต่อทาบทาม ส.ส.สุรินทร์ 3 คน ให้ย้ายมาร่วมทำกิจกรรมกับพรรคภูมิใจไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ , นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน และนางฟาริดา สุไลมาน ส.ส.พรรคมาตุภูมิ

“วิปรัฐ”แย้มเลื่อนศึกซักฟอก
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงว่า ขณะนี้สภากำลังตรวจสอบความถูกต้องของญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะเอกสารหาย 3 แผ่น รวมทั้งลายเซ็นต์ผู้ร่วมเสนอญัตติไม่ตรงกับฐานข้อมูลที่บันทึกไว้ของสภา วิปฝ่ายค้านรับปากว่าจะดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 1-2 วัน หากกระบวนการตรวจสอบต้องล่าช้าออกไปจนประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถพิจารณาแล้วเสร็จภายในวันที่ 4 มี.ค. นี้ อาจทำให้กำหนดวันอภิปรายที่ตกลงกันไว้ในวันที่ 9 มี.ค. ต้องเลื่อนเป็นสัปดาห์ถัดไป ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เตะถ่วง เพราะรัฐบาลมีความพร้อมเต็มที่และอยากให้อภิปรายโดยเร็วด้วยซ้ำ

ส่วนที่มองว่ากระบวนการตรวจสอบของสภาล่าช้า เป็นเพราะรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไม่พร้อมรับการอภิปรายนั้น วิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นอำนาจของประธานสภาในการบรรจุวาระ

“ปู่ชัย”ยื้อ 9-12 มี.ค. ช่วย รมต.
นพ.วรงค์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่ายตรวจสอบเอกสารและคลิปวีดิโอประกอบการอภิปราย เพื่อป้องกันการนำเอกสารหรือคลิปเท็จมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า วิปฝ่ายค้านยังไม่ยอม เพราะกลัวว่าฝ่ายรัฐบาลจะรู้ข้อสอบ ดังนั้นนายวิทยา แก้วภารดัย ประธานวิปรัฐบาล จะนำเรื่องนี้หารือประธานสภาต่อไป

รายงานข่าวจากพรรคร่วมรัฐบาลแจ้งว่า จากกรณีวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านมีมติวางกรอบเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-12 มี.ค. นั้น แต่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ยังไม่บรรจุญัตติดังกล่าวโดยอ้างเหตุผลขั้นตอนการตรวจสอบหลักฐานและรายชื่อสมาชิกว่าต้องใช้เวลาประมาณ 7 วันนั้น ล่าสุดเป็นที่แน่ชัดแล้วว่านายชัยจะให้บรรจุญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค. และลงมติวันที่ 19 มี.ค. เนื่องจากรัฐมนตรีทั้ง 4 คนของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกยื่นถอดถอนและอภิปรายไม่ไว้วางใจเตรียมตัวไม่ทัน ทำให้นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย จึงขอให้นายชัยชะลอการบรรจุระเบียบวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปก่อน แม้ว่ารัฐบาลยืนยันว่ามีความพร้อมในการอภิปรายวันที่ 9-12 มี.ค. แต่ไม่สามารถทัดทานได้ เนื่องจากการบรรจุระเบียบวาระเป็นอำนาจของประธานสภา

ฝ่ายค้านเย้ยมวยไม่พร้อมชก
ขณะที่ นายชัย กล่าวถึงกระแสข่าวเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปเป็นวันที่ 15-18 มี.ค. ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ขณะนี้ญัตติยังส่งมาไม่ถึงตน จึงยังไม่ได้บรรจุเข้าวาระการประชุม ต้องรอให้เห็นเรื่องก่อนจึงจะตอบได้ว่าจะนัดประชุมเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจได้ในวันใด

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของประธานสภาในการบรรจุญัตติดังกล่าว ส่วนที่บอกว่าเอกสาร 3 แผ่นของฝ่ายค้านไม่ครบนั้น ฝ่ายค้านได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่บอกว่ามีลายเซ็นไม่ตรงกับข้อมูลของสภา 1 รายนั้น ไม่น่าจะใช่ปัญหา เพราะมีผู้เข้าชื่อในญัตติเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เดิมทีรัฐบาลเป็นฝ่ายท้าให้ฝ่ายค้านยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ พร้อมบอกว่ามั่นใจในข้อมูลที่จะใช้ชี้แจง โดยจะเปิดให้อภิปรายวันที่ 9-12 มี.ค. แต่ที่มีข่าวเลื่อนในวันนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่า ประธานสภากำลังใช้ลูกไม้ตื้น ๆ ดึงเวลาเพื่อให้รัฐมนตรีไปเตรียมข้อมูล ถ้าเป็นภาษามวยเรียกว่า มวยไม่พร้อมชก อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะกำหนดวันอภิปรายวันไหน พรรคฝ่ายค้านก็พร้อมเต็มที่ และไม่มีคำว่ารอมชอม

“เหลิม”ยึกยักร่วมศึกอภิปราย
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมาชักชวน และตนตั้งใจว่าจะร่วมอภิปรายด้วย แต่รู้สึกหนักใจ เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนและข้อมูลที่มีอยู่ได้มอบให้ทีมอภิปรายของนายมิ่งขวัญไปหมดแล้ว จึงไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาอภิปราย ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง เพราะไม่เคยคิดเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่วนนายมิ่งขวัญคิดเป็นนายกฯ หรือคิดเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องแสดงออกมา

ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ต้องให้โอกาสนายมิ่งขวัญแสดงฝีมือ ตนจะรอดูถึงวันที่ 12 มี.ค. ถ้ายังเห็นว่าประเด็นไม่ครบถ้วนตนอาจจะอภิปรายเก็บตกรายละเอียด ทั้งนี้นายมิ่งขวัญไม่เคยมาปรึกษาว่าจะให้ตนอภิปรายเรื่องใดประเด็นไหน อย่างไรก็ตามไม่ทราบว่าข้อมูลที่ตนมอบให้นั้น นายมิ่งขวัญส่งให้ใครไปแล้วหรือไม่ เพราะนายมิ่งขวัญเก็บเป็นความลับหมด ทั้งที่จะต้องปูพื้นฐานให้ประชาชนเข้าใจจะได้ตามทัน เพราะถ้าประชาชนไม่เข้าใจก็ไม่ได้แต้ม

ชี้พล่าม 4 วันเสียเปรียบ“ปชป.”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ไม่เห็นด้วยที่จะอภิปรายนานถึง 4 วัน เพราะการอภิปรายไม่วางใจใช้เวลาน็อกกันเพียง 2 ชั่วโมง ถ้าอภิปรายยาว ไม่มีข้อมูลดี 4 วัน รัฐบาลจะได้เปรียบ เพราะคนเบื่อการพูดยาว ๆ พอประเด็นมากจะสับสน อย่าประเมินพรรคประชาธิปัตย์ต่ำ เพราะเป็นแชมป์ศึกในสภามาตลอด นอกจากนี้ตนเคยพูดเสมอว่าต้องไม่อภิปรายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะเก่งขนาดพูดแก้วกลมเป็นแก้วแบนได้ แต่ก็พากันไปเชื่อโพล

ต่อข้อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้นายมิ่งขวัญจะเกิดหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คงเกิด แต่ไม่ค่อยกล้าวิจารณ์ เดี๋ยวนายมิ่งขวัญจะโกรธ “ถ้าผมเทคแอคชั่นมากจะหาว่าอยากแย่งซีน แต่ถ้าคนในพรรคยังไม่พูดไม่หมด ผมนั่งฟังถ้ายังไม่หมดก็จะพูดในวันเสาร์ และเป็นช่วงเวลาที่ดีเหมาะสม เพราะถือเป็นวันหยุด ส่วนวันธรรมดาเวลาที่ดีหลังข่าวภาคค่ำไม่ดีแล้ว เพราะคนจะดูละคร และเขาไม่รู้ตัวเองว่าไม่มีแรงจูงใจที่จะให้คนฟังแล้วจะไปหวังอะไร และไม่ฟังใคร ไม่ใช่ในพรรคไม่มีเอกภาพ แต่เขาไม่มีสภาพ ในพรรคไม่มีใครเอาด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร) เอาคนเดียวแล้วผมจะไปขัดอะไร”

ตั้งกระทู้ถล่ม“ปตท.”ส่อทุจริต
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยหวังเป็นรัฐบาลต้องขยันลงพื้นที่ และต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนออกนโยบาย ถ้าเป็นคนอื่น ไร้สาระ อวดดี ถือเด่น แต่หลบเวลาหาเสียงแล้วจะชนะได้อย่างไร ตนไม่ขอเป็นนายกฯ แค่เป็นรัฐบาลแล้วได้เป็นรัฐมนตรีก็พอแล้ว ยืนยันว่าในพรรคเพื่อไทยถ้าตั้งตุ๊กตามาสู้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับรองแพ้ทุกคน ต้องขาย พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้ตั้งกระทู้ถามสดกรณีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นำเงิน 1.65 หมื่นล้านบาทไปลงทุนในบริษัทอีสท์ เมดิเตอร์เรเนียน แก๊ส คอมปานี (อีเอ็มจี) ในต่างประเทศ  เพื่อวางท่อแก๊สในประเทศอียิปต์ โดยซื้อหุ้นจากบริษัทเมดิเตอร์เรเนียน ไปป์ ไลน์ ลาย โดย ปตท. ให้บริษัทพีทีทีอินเตอร์ ซึ่ง ปตท. ถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์เข้าไปซื้อหุ้น ได้มีการจัดทำแผนการลงทุนตามกฎหมายสภาพัฒน์ มาตรา 12 (2) (4) หรือได้รายงานต่อ ครม. หรือไม่

ด้าน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า ปตท. ลงทุนเรื่องท่อส่งแก๊สในประเทศอียิปต์ ได้ขออนุมัติจากบอร์ดและสภาพัฒน์อยู่แล้ว แต่ไม่ได้เสนอให้ ครม. พิจารณา เพราะเป็นสิทธิที่ได้รับการยกเว้น

รมต.โต้แหลก-ปัดตอบขาดทุน
ร.ต.อ.เฉลิม ถามต่อว่า โครงการดังกล่าวมีปัจจัยเสี่ยงเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบหรือไม่ และถ้าได้รับผลกระทบได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทราบหรือไม่ เพราะข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์รู้มาว่า ปตท. ขาดทุนถึง 2,500 ล้านบาท การไปเซ็นสัญญาโครงการดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ส่อทุจริต การซื้อหุ้นโดยหลักการต้องซื้อจากบริษัทแม่ จะไปซื้อจากนอมินีได้อย่างไร ตนมีหลักฐานภาพถ่ายเก็บไว้ทั้งหมด

รมว.พลังงาน ยืนยันว่าการเข้าไปซื้อหุ้นจากบริษัทเอกชน เนื่องจากเสนอขายในราคาถูกกว่ารัฐบาลอียิปต์และอิสราเอล อีกทั้งเหตุระเบิดท่อแก๊สที่อียิปต์ไม่เกี่ยวข้องกับส่วนที่ ปตท. ไปลงทุนจึงไม่มีผลกระทบโดยตรง มีเพียงผลกระทบทางอ้อมและไม่จำเป็นต้องรายงานให้ ตลท. รับทราบ ปีที่แล้วบริษัทนี้มีผลกำไรถึง 42.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าในปีนี้จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นได้เกิดการโต้เถียงระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม และนพ.วรรณรัตน์ โดยอ้างว่าฝ่ายตรงข้ามพูดโกหก และพร้อมพิสูจน์ แต่ประธานที่ประชุมได้ตัดบทก่อนที่จะมีเหตุการณ์บานปลาย

“เพื่อแม้ว”ยี้น้องชาย“นพดล”
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายที่วางกรอบเวลา 4 วันไม่ถือว่ามากเกินไป เพราะมีข้อมูลจำนวนมากและไม่คิดว่าเป็นการเสี่ยงที่ฝ่ายค้านจะเพลี่ยงพล้ำ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 12 มี.ค. ไม่กระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นตนไม่ห่วง แต่ห่วงว่าช่วง 3-4 เดือนนี้จะรอดหรือไม่ เพราะบางคนยังคิดเรื่องรัฐประหาร หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแต่ไม่เกินครึ่งแล้วไม่ได้เป็นรัฐบาล ประชาชนจะยอมหรือไม่ ถ้ามีการยึดอำนาจอีกจะนองเลือดเหมือนประเทศลิเบียแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้พรรคเพื่อไทยประกาศชื่อนายโกศล ปัทมะ น้องชายนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 5 แต่ ส.ส. ในพื้นที่เห็นว่าควรทำโพลแข่งกับผู้เสนอตัวรายอื่น ๆ ด้วย

จี้“นายใหญ่”รีบเปิดตัวนายกฯ
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ขณะนี้ ส.ส.จำนวนหนึ่งได้สะท้อนความเห็นต่อผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อส่งต่อไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเห็นว่าการเมืองเข้าสู่โหมดเลือกตั้งและความเห็นของประชาชนในพื้นที่รวมถึงโพลของพรรคพบว่ายังมีคะแนนนำพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะประเด็นปัญหาปากท้องและภาวะข้าวยากหมากแพง  แต่ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยยังไม่ใช่ทางเลือก ซึ่งปัญหาสำคัญคือยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคมได้ จึงเห็นว่าควรเร่งประกาศตัวผู้ที่จะชูเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง โดยไม่ต้องรอให้ประกาศยุบสภาและไม่ต้องกลัวว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามดิสเครดิตจนช้ำเสียก่อน นอกจากนี้ยังเสนอปรับคณะทำงาน โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ เช่น นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกฯ พรรคควรมอบหมายงานให้ทำอย่างเป็นรูปธรรมและเปิดตัวต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการมากขึ้น

ยัน พ.ค. นี้บัตรเหลืองหายวับ
อีกเรื่องหนึ่ง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาบัตรประชาชนอเนกประสงค์ว่า กรมการปกครอง ได้เห็นชอบรูปแบบสมาร์ทการ์ดตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)  ขอความเห็นชอบและแจ้งให้กระทรวงไอซีทีทราบเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการจะตรวจรับบัตรล็อตแรกจำนวน 3 แสนใบ เพื่อส่งมอบให้กรมการปกครอง นำไปลงรหัสและโปรแกรม ซึ่งดำเนินการได้วันละ 8 หมื่นใบ และเมื่อตรวจสอบบัตรเรียบร้อยแล้วจะกระจายให้สำนักทะเบียนทั้ง 1,078 แห่งทั่วประเทศ

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า บัตรล็อตแรกนี้จะจัดสรรให้อำเภอท้องที่ห่างไกลจำนวน 200 แห่งก่อน อย่างช้าภายในวันที่ 11 มี.ค. บัตรจะถึงมือประชาชน ส่วนที่เหลือจะจัดสรรให้ภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มี.ค. นี้ ทั้งนี้ปัจจุบันผู้ถือบัตรเหลืองมียอดถึง 4 ล้านคน ภายใน มี.ค. นี้จะจัดมอบบัตรสมาร์ทการ์ดได้ประมาณ 1.5 ล้านคน และเดือน เม.ย. จัดเพิ่มอีกประมาณ 1.5 ล้านคน โดยต้องครบทุกคนภายในเดือน พ.ค. กระทรวงมหาดไทยจะเร่งรัดให้สำนักทะเบียนทุกแห่งให้บริการประชาชนทั้งในและนอกเวลาราชการ

“ท้องถิ่น”เชียร์เลือกตั้ง ผวจ.
ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา กระทรวงมหาดไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานปฎิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมวิชาการ “ฟื้นพลังชุมชนท้องถิ่นสู่การอภิวัฒน์ประเทศไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนจากส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมรับฟังการอภิปรายส่วนมากสนับสนุนแนวคิดที่ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และควรให้มีการเลือกตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านด้วย โดยอยู่ในวาระได้ 5 ปี  นอกจากนั้นยังแสดงความเห็นว่าปัจจุบันพรรคการเมืองเข้าครอบงำการเลือกตั้งท้องถิ่น จึงอยากให้มีองค์กรอิสระขึ้นมากำกับหน่วยงานท้องถิ่นแทนกระทรวงมหาดไทย เพื่อไม่ให้เกิดการครอบงำทั้งจากฝ่ายการเมืองและอำนาจรัฐ

“หัสวุฒิ”แจงศาลยึดหลัก 4 ข้อ
วันเดียวกัน ที่สำนักงานศาลปกครอง นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด แถลงข่าวการจัดงานครบรอบ 10 ปีศาลปกครอง “10 ปี ศาลปกครองหลักประกันความเป็นธรรมในสังคม” ว่า การทำงานของศาลปกครองถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร หากมองจากผลการสำรวจจากประชาชนที่ให้ความเชื่อมั่นต่อศาลปกครองมากถึงมากที่สุด รวมทั้งยังสำรวจพบว่าศาลปกครองได้รับการยอมรับถึงร้อยละ 90

นายหัสวุฒิ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีสังคมไทยมีความความแตกแยกทางความคิดและเกิดตุลาการภิวัตน์เข้ามาแก้ปัญหาว่า ไม่ได้หนักใจ เพราะการเป็นตุลาการหรือการเป็นเจ้าหน้าที่ศาลจะต้องมีหลัก 4 ประการ คือ 1.ต้องมีความรู้ความสามารถ 2.ต้องซื่อสัตย์สุจริต 3.ต้องมีจุดยืนที่เป็นกลางและยึดหลักความถูกต้อง 4.ต้องมีความกล้าหาญในการพิจารณาคดี เพื่อให้คำตัดสินจะไม่เบี่ยงเบนความเป็นธรรม



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์