รบ.เผยเขมรใช้ไพ่ทูต-ทหาร-ศาล ดักคอขอกองกำลังสันติภาพคุมพท.พิพาท


            นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์

 กรณีนายโคอิชิโร มัตสึอุระ ผู้แทนพิเศษยูเนสโก เข้าพบนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ว่า การเข้าพบครั้งนี้จะต้องนำไปขยายช่วยกันตีข่าว เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ยูเนสโกจะมาพบฝ่ายไทย เพราะที่ผ่านมาหลายประเทศมองไทยว่าพอเสียเปรียบเรื่องปราสาทพระวิหาร ก็เลยทำตัวเกเร เนื่องจากทางกัมพูชาเดินเกมโดยใช้ไพ่ 3 ใบ คือ 1.ไพ่ทูต เริ่มจากขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เมื่อทำสำเร็จก็รีบผลักดันแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารต่อทันที โดยแอบแนบแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาจัดทำขึ้นเองเข้าไปให้ยูเนสโกพิจารณาด้วย แต่ฝ่ายไทยไม่หลงกลไปรับรองแผนดังกล่าว ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นกรณีกฎหมายปิดปากภาคสอง
 
2.ไพ่ทหาร เมื่อเกมทูตไม่ได้ผล กัมพูชาจึงเปิดฉากใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามาในฝั่งไทย โดยหวังให้มีการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาแทรกแซง แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ไม่ทำตามข้อเรียกร้องของกัมพูชา แต่ข้อเสียที่ฝั่งไทยได้รับจากเกมนี้คือกัมพูชาชิงพื้นที่ข่าวโลกไปแล้ว และให้ประเด็นนี้ติดอยู่ในหัวนานาชาติว่าไทยรังแกกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไทยต้องประชาสัมพันธ์แก้ไขเรื่องนี้ต่อไป

เมื่อไพ่ 2 ใบข้างต้นใช้ไม่ได้ผล สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงตัดสินใจใช้ไพ่ใบที่ 3 คือไพ่ศาล โดยระบุจะฟ้องศาลโลกให้ตีความคำพิพากษาเมื่อปี 2505 แต่เกมนี้ฝ่ายกัมพูชาก็ไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะได้เปรียบ ไม่เช่นนั้นคงไม่เดินเกมช้ามาก

    
"เกมต่อไปที่ฝ่ายกัมพูชาจะใช้คือหาโอกาสยกประเด็นนี้ขึ้นสู่เวทียูเอ็นเอสซีอีกครั้ง เพื่อให้ส่งกองกำลังสันติภาพเข้ามา โดยระหว่างที่ทหารอินโดนีเซียในฐานะคณะผู้สังเกตการณ์ลงตรวจในพื้นที่พิพาท อาจมีการยิงเข้ามานอกพื้นที่ที่คณะผู้สังเกตการณ์อยู่ เพื่อลวงให้ฝ่ายไทยตอบโต้อีก โดยเป้าหมายของเรื่องนี้คือการผลักดันทหารไทยให้ออกนอกพื้นที่ทับซ้อน และให้ยูเอ็นเอสซีส่งกองกำลังสันติภาพเข้ามา ซึ่งจะทำให้จัดการเรื่องต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ดังนั้น จุดที่ต้องระวังจึงเป็นพื้นที่นอกการสังเกตการณ์ของทหารอินโดนีเซีย" นายปณิธานกล่าว

นายปณิธาน กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าขณะนี้การแก้ไขปัญหายังอยู่ในระดับทวิภาคี แม้อาเซียนจะเข้ามาเป็นตัวกลางจัดการเจรจาก็ตาม และเชื่อว่าประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคี แม้แต่เวียดนามก็ยังสนับสนุนให้ 2 ฝ่ายคุยกันเอง เพราะเรื่องเขตแดนเวียดนาม-กัมพูชาก็ยังมีปัญหาอยู่ หากปล่อยให้ประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกแซงกรณีไทย-กัมพูชา ก็จะเป็นบรรทัดฐานว่าข้อพิพาทเรื่องเขตแดนอื่นๆ ในอาเซียน จะต้องมีประเทศที่ 3 เข้าไปแทรกแซงด้วย ทุกประเทศจึงต้องสนับสนุนให้ไทย-กัมพูชาเจรจากันเอง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์