ทรท.ใกล้สูญ!100 ส.ส.วิ่งตั้งพรรคใหม่หวังดันสมคิดนั่งเก้าอี้นายกฯ

ทรท.ใกล้สูญ!100 ส.ส.วิ่งตั้งพรรคใหม่หวังดัน"สมคิด"นั่งเก้าอี้นายกฯ

นายสมชาย สุนทรวัฒน์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2549 00:44 น.

แกนนำไทยรักไทยยอมรับแล้วอดีต 100 ส.ส.ไทยรักไทย รวมตัวตั้งพรรคการเมือง หวังดัน สมคิด ขึ้นชิงตำแหน่งว่าที่ นายกฯ คนใหม่ เชื่อปีหน้าได้เห็นความชัดเจนอย่างแน่นอน ขณะที่ ศิธา คุยไม่เคยเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความชอบธรรมในการต่ออายุให้กับคณะปฏิวัติ อ้างอีกขอเป็นเพียงคนเฝ้าดูรัฐธรรมนูญฉบับ คมช.ว่า จะดีกว่าหรือเลวกว่ารัฐธรรมนูญปี 40

นายสมชาย สุนทรวัฒน์ อดีต รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึง ความคืบหน้าในการตั้งพรรคการเมืองของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีแนวโน้มความเป็นไปได้ 99 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคดียุบพรรคไทยรักไทยหรือไม่ ซึ่งกำลังรอกันอยู่ ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่มาจากพรรคไทยรักไทย และสมาชิกจากพรรคการเมืองอื่นที่ผสมผสานกัน เพราะบุคลิกของนายสมคิด เป็นที่ยอมรับของสังคมเยอะเป็นคนที่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรับมนตรีคนต่อไปได้ นักวิชาการเองก็ยอมรับ มีบุคลิกที่ไม่แข็งกร้าว เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ มีแน่ต้องตั้งขึ้นมาแน่ๆ ซึ่งจะเป็นการวมตัวของอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย 100 กว่าคน ที่พร้อมใจกันชู นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้าพรรค

ผมกล้าฟันธงเลยว่า ในความคิดของนายสมคิด จะตั้งพรรคการเมืองแน่นอนในปีหน้า ขณะนี้รอดูกรณีการยุบพรรคไทยรักไทยเท่านั้น หรือหากพรรคไทยรักไทยไม่ถูกยุบ ก็จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่แน่นอนเช่นกัน พูดง่ายๆไม่ยุบก็ต้องตั้งแน่ ทั้งนี้จะไม่ใช่พรรคการเมืองที่สืบอำนาจจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หรือพรรคที่สืบทอดจากพรรคไทยรักไทย แต่จะเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ มีความคิดที่ตรงกัน โดยจะมีแกนนำหลักๆอาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสรอรรค กลิ่นประทุม นักวิชาการและ อดีต ส.ว. นายสมชาย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยุบพรรคไทยรักไทยจะทำอย่างไร

นายสมชาย กล่าวว่า ตามหลักการแล้วไม่น่าเป็นไปได้เพราะหากกระทำเช่นนั้นจะเป็นการสวนทางแนวทางสมานฉันท์ของรัฐบาล แล้วปัญหาต่างๆจะยุ่งวุ่นวาย เพราะขณะนี้ประชาชนเรียกร้องให้ร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้อยู่ได้ไม่นาน ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คือปัญหาเศรษฐกิจ เกษตรกร ผู้ส่งออกเดือดร้อนแย่กันหมด เพราะเกิดจากการบริหารของรัฐมนตรีที่อดีตเป็นข้าราชการประจำ อดีตปลัดกระทรวง รู้กันอยู่แล้วว่าพวกนี้บริหารงานกันอย่างไร เช้าชามเย็นชาม ไม่เหมือนกับนักการเมืองที่เข้ามาบริหารเพราะเขากล้าได้กล้าเสีย คิดถึงประชาชนเป็นหลัก ไม่เหมือนกับพวกมนุษย์เงินเดือนที่เข้ามาบริหารประเทศ แต่ดีอย่างที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนดีก็ยังพอช่วยอุ้มประเทศไปได้พอสมควร แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเท่าที่ควร

ปัญหาขณะนี้คือเรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร ถ้าไปเอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาแก้ไขอย่าไปเปลี่ยนอะไรกันมากให้วุ่นวาย ถ้าเห็นว่า องค์กรอิสระมีปัญหาเฮงซวย ถูกแทรกแซงก็แก้ไขจุดนั้นๆในบางมาตราซึ่งก็ไม่เสียเวลามาก อย่าไปหกคะเมนตีลังกาเปลี่ยนรูปแบบใหม่ทำให้นักการเมืองตาย ขอร้องอย่าไปคิดอย่างนั้นเลยเพราะไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ถ้าทำเช่นนั้นมันก็ไม่ใช่สมานฉันท์ กลับกลายเป็นการโค่นล้มนักการเมือง ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆหากนักการเมืองที่เข้ามาได้ก็มีโอกาสที่จะแก้ไขได้เหมือนกัน โดยเฉพาะประเด็นที่ว่านายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง แค่คิดก็จะเดินขบวนกันตายแน่ รวมถึงมีการคิดสกัดกั้นว่า การเลือกตั้งทั้งจังหวัดเป็นแบบเบอร์เดียว ถ้าเป็นอย่างนี้ฉิบหายแน่ไม่รู้คิดกันได้อย่างไรซึ่งเขาคงต้องการให้การเมืองมันอ่อนลงนายสมชาย กล่าว

ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี รักษาการโฆษกพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์

ถึงกรณีที่ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่ามีแบล็กลิสต์ อดีตส.ส.200 กว่าคนที่เป็นแกนนำเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ความกังวลของแม่ทัพภาคที่ 1 ที่ออกมากล่าวหาเป็นอาการวิตกกังวลค่อนข้างรุนแรง สิ่งต่างๆที่ คมช.ดำเนินการไปเพื่อความสมานฉันท์ถือว่าเสร็จสิ้นไปแล้ว การแก้ปัญหาต่างๆของประเทศที่ต้องทำต่อ เนื่องจากการปฏิวัติก็กำลังจะดำเนินการไปได้ด้วยดี ในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆ ก็นิ่งเฉยและเฝ้าดูการทำงานของ คมช.และรัฐบาล รอดูรัฐธรรมนูญฉบับ คมช.ที่จะดีขึ้นหรือเท่าเทียบ หรือเลวลงกว่าเดิม เพราะต่างคาดหวังว่าจะมีการเลือกตั้งที่ในอีก 9 เดือนข้างหน้าตามสัญญาประชาคมที่ คมช.ให้ไว้ คงไม่มีใครที่จะเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความชอบธรรมในการต่ออายุให้กับคณะปฏิวัติ ทั้งนี้นักการเมืองและประชาชนกำลังเฝ้าดูรัฐธรรมนูญฉบับคมช.ที่ยื้อเวลาถึง 9 เดือนจะออกมาดีกว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 หรือจะเลวกว่า ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นส่วนผลกระทบจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับคมช.ที่ปฏิวัติเพื่อใครกันแน่

ทฤษฎีหมอผีที่ต้องการสร้างความน่ากลัวให้กับประชาชน เพื่อสืบทอดอำนาจในการปกครองเผ่าของคนป่า ถือว่า เป็นอารยย้อนยุค ไม่ควรนำมาใช้ในปัจจุบัน รวมถึงขณะนี้สถาบันทหารกำลังได้รับการยอมรับจากประชาชนแต่หากการดำเนินการใดๆ ที่มีเจตนารมณ์ อื่นแอบแฝงจนกระทั่งเลยธงของการสมานฉันท์อาจทำให้กระแสความนิยมของพี่น้องประชาชนลดน้อยลงหรือตีกลับได้ ซึ่งทหารควรจะนำภาพต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในสมัย รสช.มาเป็นบทเรียนถ้าจำกันได้ว่า ทหารไม่สามารถสวมเครื่องแบบเดินบนท้องถนนได้ หรือไม่กล้าแม้กระทั้งติดตราของหน่วยทหารน.ต.ศิธา กล่าว

น.ต.ศิธา กล่าวต่อว่า

หากมีรายชื่ออดีตส.ส.เป็นแกนนำเคลื่อนไหวถ้าเป็นจริงถือว่าเป้นความผิดที่รุนแรง ในบรรยากาศ สมานฉันท์และปีมหามงคลเช่นนี้ ดังนั้นขอให้แม่ทัพภาคที่ 1 นำรายชื่อ อดีต ส.ส. 200คน มาเปิดเผยโดยเร็วที่สุด เพื่อประณามกลุ่มบุคคลดังกล่าว และต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดโดยไม่มีการอภัยโทษ แต่หากไม่มีรายชื่อจริงก็ขอให้ทุกฝ่ายรู้จักปล่อยวางและยึดมั่นในแนวทางสมานฉันท์ กลับไปทำงานในหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบให้คุ้มกับเงินเดือนที่ได้จากภาษีอากรของประชาชน แล้วเหตุการณ์ต่างๆในบ้านเมือง ก็จะกลับคืนสู่ภาวะปกติเอง

ส่วนตัวมีความเชื่อมั่น และศรัทธาการทำงานของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ที่มีเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาของประเทศชาติตามแนวทางสมานฉันท์ ดังนั้นจึงอยากฝากประธาน คมช.ให้ช่วยกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง ที่พยายามเอาใจนายจนเลยธง ของความสมานฉันท์ หรืออาจมีเจตนาแอบแฝงเพื่อต้องการสืบทอดอำนาจกันแน่ น.ต.ศิธา กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์