เทือกยันไม่รู้ทหารกักตัวสายลับเขมร


คมชัดลึก :“รองนายกฯมั่นคง” ไม่รู้ “กองทัพภาค 2” กักตัว “สายลับเขมร” วอนอย่าโยงถึงแรงงาน หวั่นกระทบแรงงานบริสุทธิ์ ไม่หวั่น “ ฮุน มาเนต ” คุมกำลังอารักขา “ ฮุนเซน ” เปิด “ถนนบันเตียเมียนเจย” ยัน “ผบ.ทหารไทย” รู้ดีต้องอดทน ตีกัน “ UNSC ” มีมาตรฐานตัดสินเรื่อง “ชายแดน” ไม่เข้าข้าง เขมร”


ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวมองว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนคิดว่าเวลาคนมีปัญหากันของชายแดนระหว่างประเทศ ก็คงมีความพยายามที่จะหาข่าวกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เราก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายของเราและทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เราเสียเปรียบในการดำเนินการทางทหาร


ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่ามีสายลับกัมพูชาแฝงตัวเข้ามาเป็นแรงงานในประเทศไทย นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องระวังในการพูดเรื่องนี้ ตนคิดว่าอาจจะมีคนมาเป็นสายลับ มาสืบ มาหาข่าว หาข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ในด้านการทหารของเขา แต่ต้องแยกออกจากผู้ที่เข้ามาใช้แรงงานโดยสุจริต เพราะหากไปพูดหรือทำข่าวเรื่องนี้ออกไปก็จะทำให้ผู้ใช้แรงงานโดยสุจริตถูกระแวง ถูกตั้งข้อรังเกียจได้ เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่ามีแรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานในประเทศไทยเท่าไหร่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่สามารถระบุตัวเลขได้ รู้แต่ว่ามีแรงงานของประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ เข้ามาทำงานในประเทศไทยจำนวนมากหลายแสนคน


ผู้สื่อข่าวถามถึงการเสริมกำลังของกัมพูชาในฝั่งปอยเปต เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของเขาหรืออะไรกันแน่ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า คิดว่าความพยายามของกัมพูชาที่จะเรียกร้องให้สหประชาชาติ มาสนใจบริเวณพื่นที่ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา เรียกร้องที่จะให้มีกองกำลังรักษาสันติภาพมาประจำอยู่ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนนี้นั้น ตนคิดว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้กัมพูชาจะต้องปรับเรื่องการทหาร ย้ายกำลังจากตรงนั้นไปตรงนี้เพื่อให้ดูสมจริงสมจังว่าเป็นเรื่องของการต่อสู้ แต่สำหรับเราถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น ณ จุดใด จุดหนึ่งในระยะทางที่เป็นชายแดนทั้งหมด 2-3 พันกิโลเมตร


ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่สมเด็จฮุนเซน จะมาเปิดถนนที่จ.บันเตียเมียนเจย ซึ่งพล.ท.ฮุน มาเนต รองผบ.ทบ.ลูกชายจะนำทหารมาอารักขาอย่างเต็มกำลัง ในส่วนของไทยจะต้องมีการเสริมกำลังในบริเวณนั้นด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของเขา ที่เวลาเดินทางไปไหนมาไหน เขาก็ต้องวางกำลังอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้นำที่อยู่ในตำแหน่งนาน ก็จะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เขาก็ระมัดระวังตัว ซึ่งก็ไม่เกี่ยวอะไรกับประเทศไทย


ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยจะต้องมีการเสริมกำลังเพื่อเตรียมป้องกันไว้ก่อนหรือไม่ เพราะทหารที่มาอารักขาเขาไม่ได้อยู่ในพื้นที่อาจจะไม่ฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ไม่มีหรอก อย่ากังวลใจ เรื่องภายในประเทศเขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา เราตั้งมั่นของเราอยู่ที่นี่ กองกำลังของเรากองทัพของเราไม่ว่าจะเป็นกองทัพภาคที่ 1 หรือกองทัพภาคที่ 2 มีความพร้อมที่จะดูแลปกป้องอธิปไตยของเรา


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าฝ่ายกัมพูชา อาจจะมีการสร้างสถานการณ์ขึ้นมา โดยให้ฝ่ายไทยยิงเข้าไปเพื่อให้เกิดการสู้รบ ได้มีการสั่งทางทหารไทยให้มีการอดทนอดกลั้นอย่างไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาของทหารไทยได้สั่งการชัดเจนว่าไม่มีเรื่องที่ไทยจะเป็นฝ่ายริเริ่มก่อน หรือยิงก่อน และให้ทนต่อการยั่วยุต่างๆ รวมถึงให้เข้าใจว่าเรามีหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของเรา ถ้ามีการบุกรุกเข้ามาจะโดยวิธีการอย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องดำเนินการตอบโต้ ป้องกัน ซึ่งก็ชัดเจน


ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่เรายืนยันว่าการสู้รบกันครั้งนี้เป็นเพียงการปะทะเล็กน้อย แต่ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาโดยสมเด็จฮุนเซนพูดชัดเจนว่า เป็นสงครามจะมีผลต่อเวทีนานาชาติหรือไม่ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะมีผลอะไร เพราะทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง ถ้าเป็นสงครามระหว่าง 2 ประเทศ ป่านนี้ก็คงยิงกันตลอดแนวแล้ว และต้องรุนแรงกว่านี้ แต่นี่เป็นเรื่องธรรมดา กระทบกระทั่งกันเพียงไม่กี่คนในพื้นที่แคบๆ สั้นๆ ของชายแดนทั้งหมด ไม่ได้สงครามหรอก


ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ปมในเรื่องนี้มาจากความอยากให้นำพระวิหารเป็นมรดกโลก นายสุเทพ กล่าวว่า ก็อย่างที่นายกฯบอกว่า การที่ยูเนสโก จะมาดำเนินการเพื่อขึ้นมรดกโลกโดยกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวเป็นสาเหตุของความตึงเครียดของการกระทบกระทั่งกันของ 2 ประเทศนี้ ส่วนที่นายกฯสั่งให้ข่าวกรองไปหาข่าวท่าทีของนานาชาติในกลุ่มอาเซียนว่ามองไทยอย่างไร มองกัมพูชาอย่างไรนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายกฯ สั่งการอะไร อย่างไร สำหรับตนยังไม่มีรายงานอะไรมา


ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงประเทศมหาอำนาจที่ขณะนี้มีทิศทางที่ค่อนข้างจะส่งสัญญาณชัดเจนว่าสนับสนุนกัมพูชา รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนคิดว่าคณะมนตรีความมั่นคงขององค์การสหประชาชาติ (UNSC)เขาต้องมีมาตรฐานในการตัดสินหรือวินิจฉัย ซึ่งกรณีที่เกิดปัญหาชายแดน ไม่ได้มีเฉพาะไทยกับกัมพูชา แต่มีอยู่ตลอดเวลาในหลายประเทศ แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง ดังนั้นการปฏิบัติต่อกรณีนี้ก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน




เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์