ขีดเส้นใต้เอาไว้ยุบไม่เกินกลางปี


พูดเรื่อง “ยุบสภา” วันละนิดจิตแจ่มใส น่าจะใช้ได้กับท่าทีของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทยในตอนนี้
       
มีอย่างที่ไหน “ใบ้หวย” กันตั้งแต่ปลายปี 53 ว่าปีนี้ (ปี 54) มี “ยุบสภา” แน่ จากนั้นก็เปิดทางนั้นทีเปิดทางนี้ที จนโหรสารพัดสำนัก “ฟันธง” ไม่ถูกว่า จะเดือนไหน มี.ค., เม.ย., พ.ค. หรือ มิ.ย.
       
ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ก็พูดว่า “เมื่อทุกอย่างเข้าที่พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ก็จะให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นภายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้”
       
ถึงตอนนี้คงไม่ได้มีแค่ เศรษฐกิจ การชุมนุมทางการเมืองและการหาข้อสรุปเรื่อง “กติกา” อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 มาตรา ในวันที่ 11 ก.พ.
       
ถ้าได้ข้อสรุปว่า ไม่มีการแก้ไข ก็ไม่ต้องพูดอะไรกันอีก แต่หากได้ข้อสรุปว่ามีการแก้ไข ก็ต้องทำคลอดกฎหมายลูกเพื่อให้การเลือกตั้งสะดวก สะอาดและปลอดภัย พร้อม ๆ กับผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณกลางปีเพื่อไม่ให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณของชาติสะดุด
       
แต่ปัญหาที่ ’น่าห่วง“ กลับกลายเป็นเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาซะมากกว่า ในด้านการทหารนั้น ’เชื่อขนมกิน“ ได้ว่าทหารไทยคงไม่มีทางปล่อยให้เสียแม้แต่ตารางนิ้วเดียว แต่สำหรับฝ่ายการเมืองซึ่งต้องใช้ ’การทูต“ นั้นน่าคิดว่า ระหว่างเกิดการเปลี่ยน แปลง สถานการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่
       
อย่าลืมว่าในเดือน มิ.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศบาห์เรน ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาจ้องตาเป็นมันว่าจะขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้จงได้
   
ตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่าในกรณีสภาผู้แทนราษฎรไม่ครบวาระให้เลือกตั้งภายใน 60 วัน รวมเบ็ดเสร็จกว่าจะได้สภาผู้แทนราษฎร กว่าจะได้นายกรัฐมนตรี  ให้ครม.ใหม่ ได้แถลงนโยบายก่อนเข้าทำหน้าที่ฝ่ายบริหารก็ปาเข้าไป 3 เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น
   
หากเกิดปัญหาขึ้นกลางคัน รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นรัฐบาล ’รักษาการณ์“ จะมีอำนาจทำอะไรได้กี่มากน้อย
   
ปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา จึงเป็น ’ตัวแปร“ ที่สำคัญอีกตัวแปรหนึ่งของสถานการณ์การเมือง “ภายใน” ของประเทศไทย

   
วันที่ 11 ก.พ. กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมกันโดยไม่สนใจ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่รัฐบาลประกาศใช้ใน 7 พื้นที่ ก็ยังชุมนุมกันต่อไป แต่เคลื่อนไหวไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พร้อม ๆ กับการขยาย ’3 เงื่อนไข“ ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ตอบปฏิเสธ
       
เป็นธรรมดาของการชุมนุมถ้าไร้การเคลื่อนไหวก็ไม่ต่างอะไรกับ ’น้ำนิ่ง“ ที่ไม่มีทางไหลรอวันกลายเป็น ’น้ำเน่า“ ขณะที่วันที่ 13 ก.พ. กลุ่มคนเสื้อแดง นายอัมสเตอร์ดัม ทนายความพร้อมนายจ้างชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็จะมาปรากฏตัว
  
     
’ยุบสภา“ นั้นง่ายเป็นอำนาจของนายกฯอย่างที่ใครต่อใครท่องกัน แต่การ ’ยุบสภา“ ในสถานการณ์ที่ไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหายนี่ซิ ’ไม่ง่ายเลย“ ใช่ไหมครับพ่อแม่พี่น้อง.




เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์