เติ้ง ตอกฝาโลง-ครม. แม้ว พิลึกกว่าทุกรัฐบาล

พิลึกกว่าทุกรัฐบาล........


บรรหาร ชำแหละ ทักษิณ กลางที่ประชุม คตส. ลั่นสมัยเป็นนายกฯ ไม่เคยให้ลูก-เมียซื้อที่ดิน จี้ คตส.เร่งสอบภาษีสรรพสามิต เอื้อเอไอเอส ด้าน อุดม ฟุ้งข้อมูลแน่นเอี๊ยด แฉ ครม.ยุค แม้ว พิลึกกว่าทุกรัฐบาล

วันนี้ (7 ธ.ค.) นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการตรวจสอบการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2-3 ตัว ว่าไม่ได้มาในฐานะพยานหรือจำเลย แต่มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ในอดีตที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องกำกับดูแลส่วนราชการต่างๆ โดยอนุกรรมการได้สอบถาม 2 เรื่อง คือ กรณีการออกฉลากเลขท้าย และการซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ


มีนโยบายอย่างไร......

โดยการออกหวยได้มีการสอบถามสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อปี 2535 ว่ามีนโยบายอย่างไรและมีแนวคิดที่จะออกสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัวหรือไม่ ซึ่งตอบไม่ได้เพราะในขณะนั้นไม่มีแนวคิดในเรื่องนี้ แต่ชี้แจงว่าการออกหวยบนดินช่วยลดปัญหาหวยใต้ดินได้บ้าง แต่ก็ไม่หมดไป ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่นำหวยบนดินมาแก้ไขปัญหาหวยใต้ดิน


ต้องเร่งรัดดำเนิน........

นายบรรหาร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการซื้อที่ดินสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตนไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้เพราะไม่เคยให้ลูกหรือภริยาไปซื้อที่ดิน ซึ่งการซื้อที่ดินภรรยาไม่ต้องรับการยินยอมจากสามีก็ได้ แต่การขายต้องได้รับการยินยอม และในสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เคยให้ภรรยากระทำผิด

นายบรรหาร กล่าวต่อว่า เห็นการทำงานของ คตส.ที่ขอข้อมูลจากหน่วยงานราชการต่างๆ ลำบากมาก จึงขอเสนอให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายรัฐมนตรีพูดในที่ประชุม ครม. โดยให้เป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองฯ (คปค.ในขณะนั้น) และการทำงานของ คตส. โดยให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบของ คตส. ต้องเร่งรัดดำเนินการส่งเอกสาร หลักฐานให้ คตส.โดยเร็ว เมื่อได้ข้อมูลเร็วการทำงานของ คตส.ก็เร็วขึ้น

การทำงานของ คตส.ผมอยากให้เร็วหน่อย เพราะประชาชนรอคอยจะแย่อยู่แล้ว อย่าไปรับเรื่องเยอะ เพราะจะทำให้ล่าช้า ถ้าไม่เสร็จสักเรื่องจะแย่ อย่างเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคม ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ต้องเป็นการรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจน นายบรรหาร กล่าว

นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย



ต้องรับผิดชอบกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูหรือไม่ ...

เมื่อถามต่อว่า นายกฯ ต้องรับผิดชอบกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า กองทุนฟื้นฟูอยู่ในกำกับดุแลของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรีไม่ได้ดูแลกำกับโดยตรง แต่ให้อำนาจนายกฯ ในการกำกับดูแลทุกกระทรวงอยู่แล้ว ดังนั้นต้องดูว่านายกรัฐมนตรีมีนโยบายในเรื่องนี้อย่างไร เพราะบางทีอาจไม่มีการสั่งโดยตรง


ชัดเจนกว่าชวน

ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากนายบรรหารนั้น มีความชัดเจนมากกว่าข้อมูลของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะเป็นเพราะนายบรรหารมาจากหลายกระทรวงมากกว่า ซึ่งข้อมูลที่นายบรรหารให้นั้นอยู่ในประเด็นเรื่องของการซื้อขายที่ดินของกองทุนฟื้นฟู และสลากพิเศษ 2-3 ตัว ซึ่งในเรื่องของสลากพิเศษ 2-3 ตัว หรือหวยบนดินนั้น นายบรรหารระบุว่าในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกนั้นไม่มีแนวความคิดนี้จึงไม่สามารถตอบได้


เพราะอาจถูกเตะได้

นายอุดม กล่าวว่า ส่วนกรณีเรื่องของปัญหาของ ปรส.ในสมัยของนายบรรหารนั้น ทางคณะอนุฯไม่ได้มีการสอบถาม เพราะอาจถูกเตะได้ อย่างไรก็ตาม ทางอนุฯ จะนำแนวความคิดเรื่องการนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.เอามาเปรียบกันระหว่าง รัฐบาลของนาย ชวน หลีกภัย นายบรรหาร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเปรียบเทียบกัน ซึ่งพบว่าในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดปกติจากรัฐบาลชุดอื่นๆ ส่วนกรณีการเชิญนายวราเทพ รัตนากร มาให้ข้อมูลนั้นคาดว่าคงต้องเป็นหลังปีใหม่







เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์