มีชัยชี้ชุมนุม 10 ธ.ค.เป็นสิทธิ ทหารพร้อมคุมสถานการณ์ป่วน

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าววานนี้ (4 ธ.ค.) ถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมนัดชุมนุมใหญ่ขับไล่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และ รัฐบาล ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ว่า เป็นสิทธิในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ เพราะทุกคนจะต้องรู้อยู่แล้วว่าควรทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหา เพราะต่างมีเหตุผลของตนเอง สิทธิมาคู่กับหน้าที่ อย่างไรก็ตาม มีเมื่อมีการยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว จึงสามารถชุมนุมกันได้

กล่าวกรณีมีการระบุว่ากลุ่มเคลื่อนไหวชุมนุมได้รับการสนับสนุน จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ประเด็นนี้ควรทำให้เกิดความชัดเจน เพราะหากมีการจ้างกันจริงถือว่าไม่ใช่การชุมนุมโดยสุจริตใจ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้วางท่าทีที่ค่อนข้างเหมาะสม เพราะแม้กระทั่งช่วงที่มีการประกาศห้ามชุมนุม แต่มีการเคลื่อนไหวของนักวิชาการ ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติการอะไรที่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าหรือรุนแรง หากการเคลื่อนไหวชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบแล้ว คมช.ใช้ท่าทีเช่นนี้ก็ถือว่าเหมาะสม

ฝ่ายความมั่นคง คงจะมีข้อมูลอยู่และการเคลื่อนไหวต่างๆ คงจะดูออกว่ามีการจัดตั้งกันมาหรือเป็นอย่างไร ผมคิดว่าการชุมนุมอย่างนี้หรือปัญหาการต่อต้านจะบานปลายหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำงานของ คมช.และรัฐบาลเอง หาก คมช.กับรัฐบาลทำงานและแสดงออกถึงความชัดเจน และความจริงใจในการเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปการเมือง การคืนอำนาจ โดยแสดงออกชัดเจนว่า ไม่มีการไปทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ ผมเชื่อว่าจะไม่บานปลาย ขณะนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องบานปลาย ส่วนปัญหาว่า ถ้ามีคนที่เคลื่อนไหวโดยไม่สุจริต และมีการจ้างวาน ก็มีข้อมูลอยู่แล้ว จึงต้องเร่งหาข้อมูลข้อเท็จจริงแล้วดำเนินการ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวและว่า กรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมไปแสดงออกไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของ คมช.ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ตนเชื่อว่า คมช.สามารถแยกแยะได้อยู่แล้ว

ขณะที่ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก แถลงภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน วันเดียวกัน ว่าผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้หยิบยกประเด็นที่กลุ่มต่างๆ นัดชุมนุมที่สนามหลวง ในวันที่ 10 ธ.ค. ขึ้นมาสั่งการอะไรเป็นพิเศษ แต่กองทัพบกก็ไม่ประมาท ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน ต.ค.

เสนาธิการทหารบก กล่าวต่อว่า ทุกอย่างมีอยู่ในคำสั่งอยู่แล้วว่าสถานการณ์แต่ละระดับจะต้องดำเนินการอย่างไร เป็นระเบียบปฏิบัติประจำไปแล้ว เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความสงบในบ้านเมือง โดยจะเกาะติดสถานการณ์ ถือเป็นเรื่องปกติ และ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก จะเป็นผู้ดำเนินการทำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ ด้วยการพูดคุยกัน จะทำให้ทราบว่าแต่ละกลุ่มมีปัญหาอะไร เมื่อได้พูดคุยกันแล้วจะทำให้เกิดความเข้าใจ

ในความมั่นใจที่ว่าปีนี้เป็นปีมหามงคล ผู้บัญชาการทหารบกคงไม่หนักใจเรื่องนี้ส่วนตัวผมพูดได้เต็มปากไม่ได้ห่วงใยเรื่องนี้มาก เสนาธิการทหารบก กล่าว

เสนาธิการทหารบกกล่าวต่อถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุม ว่า หากตำรวจสามารถดูแลความสงบเรียบร้อยได้ ทหารคงไม่เข้าไปดูแล แต่ถ้าเกิดความไม่สงบ และตำรวจไม่สามารถรับมือได้ ทหารต้องเข้าไปดูแล แต่จากการติดตามสถานการณ์ ตามที่กองทัพภาครายงานมา ยังมั่นใจว่าคุยกันรู้เรื่อง ยอมรับว่าต้องมีการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจเก่าว่าอยู่เบื้องหลังการก่อความวุ่นวายหรือไม่ เป็นธรรมดา เช่นเดียวกับการติดตามวิเคราะห์ สถานการณ์ ที่ต้องทำอยู่ตลอดเวลา