มาร์ค สงวนสิทธิ์ไม่รับอดีต ส.ส.ทรท.ขี้โกงเข้าพรรค

มาร์ค สงวนสิทธิ์ไม่รับอดีต ส.ส.ทรท.ขี้โกงเข้าพรรค

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2549 12:59 น.

อภิสิทธิ์ ไม่หวั่นคลื่นใต้น้ำภายในพรรคหลังศาล รธน.ชี้ขาดคดี เชื่อเป็นข้อมูลดิบที่ผ่านการวิเคราะห์ทางการเมือง เปิดประตูรับสมาชิกใหม่พร้อมพิจารณาเป็นรายบุคคล แต่ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับอดีต ส.ส.ทรท.พัวพันคดีทุจริตและอยู่ในแบล็กลิสต์ ปชป.

วันนี้ (4 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้มีการสร้างกระแสที่ชี้นำศาลรัฐธรรมนูญระบุในทำนองว่าหากจะยุบพรรคการเมืองหนึ่งก็ต้องยุบอีกพรรคการเมืองหนึ่งเพื่อความเป็นธรรม ทั้งนี้ พรรค ปชป.ค่อนข้างความมั่นใจว่าคณะตุลาการรัฐธรรมนูญจะพิจารณาไปตามเนื้อหาของคดี ส่วนกรณีที่มีข่าวคลื่นใต้น้ำภายในพรรคประชาธิปัตย์ในทำนองว่าหากพรรคถูกยุบจะต้องมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคนั้นไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะถือว่าการวิเคราะห์ทางการเมืองจะมีตลอดเวลา

มีคดีก็ต้องวิเคราะห์กันว่าจะแพ้หรือชนะ พอวิเคราะห์เสร็จก็ต้องวิเคราะห์ต่อว่าถ้าชนะจะทำอย่างไร

ถ้าแพ้จะทำอย่างไร ผมว่ามันเป็นธรรมดาของการวิเคราะห์ทางการเมือง ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เป็นเรื่องปกติ ไม่เคยมียุคไหน ที่ไม่มีการวิเคราะห์วิจารณ์หรือพูดกันในลักษณะนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวเห็นด้วยกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีหากพิจารณายุบพรรคแล้วควรพิจารณาเรื่องการตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าในที่สุดเมื่อตัดสินอย่างหนึ่งอย่างใดแล้วผลที่จะตามมาคืออะไร และหากจะวินิจฉัยไปในคราวเดียวกันก็จะสะดวก

เมื่อถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบจะพิจารณากลุ่มการเมืองจากพรรคอื่นอย่างไร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้พูดชัดมาตลอดว่าจะไม่พูดถึงเรื่องกลุ่ม แต่ถ้าใครต้องการมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคจะพิจารณาเป็นรายบุคคลและแนวทางต้องชัดเจน เพราะคิดว่าประเทศไทยวนเวียนอยู่กับวงจรของการเลือกตั้ง กับการรัฐประหาร ซึ่งส่วนตัวต้องการเห็นการรัฐประหารครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ดังนั้น การเมืองจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง หากวงจรของการเมืองกลับไปสู่แบบเดิมๆ คิดถึงเรื่องที่ว่าต้องมีเงินและนับจำนวนกัน การเมืองคงไม่มีความก้าวหน้า

ส่วนจะมีแนวทางในการพิจารณานักการเมืองจากพรรคไทยรักไทยอย่างไรนั้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะต้องพิจารณาว่าแต่ละคนมีท่าทีอย่างไร และมีคนจำนวนหนึ่งจะต้องตรวจสอบว่าในช่วงที่อยู่กับรัฐบาลมีผลประโยชน์อะไร อย่างไรหรือไม่ ซึ่งพรรคจะไม่พิจารณาผู้ที่มีปัญหาในเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งคงต้องดูกัน เพราะหลายเรื่องในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ว่ามีมูลหรือไม่ แต่หากเป็นเรื่องที่พรรคเคยกล่าวหาบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาก่อน พรรคคงจะไปรับบุคคลเหล่านั้นเข้ามาร่วมงานกับพรรคไม่ได้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์