5แกนนำพันธมิตรเข้าพบตร.กองปราบเช้าพรุ่งนี้

5แกนนำพันธมิตรเข้าพบตร.กองปราบเช้าพรุ่งนี้

"สนธิ" แจงพันธมิตรชุมนุมใหญ่ที่สวนลุมพินี 2 พ.ค.เปลี่ยนจากสนามหลวง พร้อมให้กำลังใจ 3 ศาล ระบุ 5 แกนนำพร้อมเข้าพบ ตร.กองปราบเช้าพรุ่งนี้ แฉฝ่ายตรงข้ามใช้วิชามารปลุกม๊อบหวังปะทะกลุ่มหนุน

ที่บ้านพระอาทิตย์ วันที่ 30 เม.ย.เวลา 13.30 น. แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงการเข้ามอบตัวของ 5 แกนนำพันธมิตรวันพรุ่งนี้เวลา 08.30 น.ที่กองปราบปราม และการชุมนุมในวันที่ 2 พ.ค.ที่บริเวณลานกลางแจงสวนลุมพินี

นายสนธิ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรวันที่ 2 พ.ค.นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะน้อมรับกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา รวมถึงให้กำลังใจศาลทั้ง 3 แห่งคือ ศาลปกครอง ศาลฎีกา และศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นไปตามที่ได้เคยชี้แจงเอาไว้ ทั้งนี้พันธมิตรจะจัดการชุมนุมที่บริเวณลานกลางแจ้ง สวนลุมพินี โดยขึ้นเริ่มเวลา 17.00 น.ไปสิ้นสุดที่เวลา 24.00 น จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ท้องสนามหลวง

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ประการที่ 2 ที่พันธมิตรอยากจะชี้แจงตามที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกพวกตนทั้ง 5 ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ให้พันธมิตรไปพบเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งได้ปฏิเสธไม่ไปตามนัดนั้น เพราะได้เห็นพ้องกันแล้วว่า วันพรุ่งนี้ (1 พ.ค.) จะไปพบตำรวจเองเวลา 08.30 น. ที่กองปราบปราม โดยจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหลังจากนั้น ทั้งนี้เป็นเหตุผลที่ไปด้วยตัวเองไม่ได้ไปตามหมายเรียก

เรามั่นใจ 100% ในความบริสุทธิ์ เชื่อว่าหมายเรียกที่ตำรวจออกมานั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ที่ไปเพราะว่าตำรวจมีอำนาจในการออกหมายเรียก เหมือนกับที่ศาลสั่งให้ออกหมายจับผมเมื่อวันก่อนก็เพื่อที่จะให้ผมไปปรากฏต่อสาธารณะ ไม่ใช่เพราะว่าผมทำผิดจริง อย่างที่ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ส.ส.พรรคไทยรักไทย ได้ให้สัมภาษณ์ รู้สึกน่าเสียดายคนที่เคยเป็นถึงนายอำเภอยังไม่มีสติปัญญามากพอที่จะออกมาพูดครั้งนี้ นายสนธิกล่าวและว่า

พันธมิตรไม่ต้องการที่จะให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายตามขึ้นมาอีก เนื่องจากมีประชาชนเดินทางไปให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายตามขึ้นมาได้ หากเกิดว่าตำรวจไปขอออกหมายจับจากศาลอีกในวันที่ 2 พ.ค. เหมือนอย่างเช่นวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ทางกลุ่มพันธมิตรกำลังดำเนินการชุมนุมร่วมกับประชาชน อาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายตามขึ้นได้ จึงได้ตัดสินใจไปก่อนในวันพรุ่งนี้

"เพราะเราทราบมาว่า ฝ่ายตรงข้ามพยายามระดมพลพรรคแท็กซี่ที่อยู่ตรงข้ามให้ชุมนุมเพื่อให้ประชาชนปะทะกัน เขาไม่เหมือนกับเราที่พยายามชุมนุมประคองสติอหิงสามาตลอด และยังน้อมรับกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น จึงต้องการที่จะทำให้แต่ละเรื่องจบไป" นายสนธิ กล่าวและว่า

นอกจากนั้นนายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า กรณีของตนและทางพันธมิตรที่ถูกดำเนินคดีนั้น เป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น อย่างกรณีที่เอา ร.ต.ฉลาด วรฉัตร มาเป็นผู้กล่าวหาพันธมิตรด้วยเหตุผลก็ไม่ชอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามได้เตรียมมาตรการไว้แล้ว แต่รอให้มอบตัวพรุ่งนี้ก่อน ซึ่งทนายก็จะมีทางออกสำหรับเรื่องหมายมิชอบอันนี้

ด้าน นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตร กล่าวย้ำในเรื่องเดียวกันว่า กลุ่มพันธมิตรเป็นอิสระ ไม่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองทุกพรรค ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวเพิ่มเติมว่า พันธมิตรไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับพรรคการเมืองใดตั้งแต่ต้นมาจนทุกวันนี้ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ที่มาชุมนุมก็เป็นพลังบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นไปตามที่ได้มีหลายคนกล่าวหา แต่การกระทำของเราอาจจะไปสอดคล้องกับบางคนกับบางพรรคการเมือง ก็เป็นไปได้ แต่ก็เป็นการช่วยชาติที่กำลังมีวิกฤติเท่านั้น

ส่วนนายพิภพ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่แทนรักษาการนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า หากการเลือกตั้งถูกสั่งให้เป็นโมฆะ การประกาศเว้นวรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ต้องถือว่าเป็นโมฆะไปด้วย และมีสิทธิ์ที่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้นว่า ทางพันธมิตรขอยืนยันว่า เป้าหมายของพันธมิตรตั้งแต่ต้น ก็คือการให้นายกฯลาออกจากทางการเมือง และก็ต่อสู้กับระบอบทักษิณไม่ให้กลับมาสู่วิธีการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองอีก เพราะเป็นอันตราย

นอกจากนั้นทางพันธมิตรได้ยืนยันตลอดมาว่า วิกฤติใหญ่เหล่านี้อยู่ที่สาเหตุใหญ่มาจากตัวนายกฯทักษิณที่มีปัญหาความประพฤติเป็นไปในทางมิชอบหลายประการ และปัญหา ทางด้านจริยธรรม นอกจากนั้นตัวนายกฯยังเป็นผู้ที่นำระบอบทักษิณเข้ามาบริหารจัดการประเทศจนก่อให้เกิดความเสียหายมากมายจนกลายเป็นวิกฤตที่ใหญ่ที่สุดในโลก

พันธมิตรฯยืนยันว่าเป้าหมายของเราคือ ตัวนายกฯ ต้องออกจากตำแหน่ง และออกจากการเมือง ที่ผ่านมานายกฯ ไม่เคยทำตามที่พันธมิตรและประชาชนร่วมชุมนุมเรียกร้องใดๆทั้งสิ้น กลับหลีกเลี่ยงทางการเมือง โดยบอกว่า จะเปิดสภาให้ฝ่ายค้านตรวจสอบแล้วก็ยุบสภา แล้วก็ให้เลือกตั้งภายใน 30 วัน ทำให้เกิดวิกฤติพรรคฝ่ายค้านไม่ยอมเข้าร่วมในการเลือกตั้ง และ กกต.ก็ยังดันทุรังจัดเลือกตั้งต่อไป โดยไม่สนใจปัญหาที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ไม่ว่าคุณชิดชัย จะเรียกร้องอะไรก็แล้วแต่ พันธมิตรขอยืนยันว่า วิกฤติของปัญหาและประเทศอยู่ที่การประพฤติปฏิบัติของนายกฯทักษิณ และการไม่มีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะในการเป็นนักการเมือง ที่จะมาบริหารประเทศชาติ เรายังจะชูประเด็นทักษิณต้องออกจากนายกรัฐมนตรี และจากการเมือง นายพิภพ กล่าว

ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า เป้าหมายหลักมากระทั่งเดียวนี้ของกลุ่มพันธมิตรฯ คือ นายกฯ ขาดความชอบธรรม การที่นายกฯเป็นผู้นำขาดความชอบธรรม ซึ่งประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมาเขาก็เรียกร้องให้ออก และที่ผ่านมาการชุมนุมที่ไหนก็ตามถึงแม้จะไม่ได้ 100% แต่ก็ถือว่าได้มาก เพราะพันธมิตรเรียกร้องให้ผู้นำลาออกเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติได้ทางเดียวเท่านั้น แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ใช้วิธียุบสภา ซึ่งไม่ได้เรียกร้องแล้วก็เป็นวิธีบั่นทอนอำนาจตัวเอง และจากการชุมนุมอย่างเอาจริงเอาจังที่ประชาชนช่วยกันทำมา ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศจะไม่เป็นนายกฯต่อ หลังเลือกตั้งนี่ก็บั่นทอนอำนาจตัวเองอีกครั้งมาเรื่อย และคงไม่ได้คิดว่าจะมาถึงวันนี้เป็นการที่บั่นทอนอำนาจตัวเองทั้งสิ้น

นายสนธิ ยังกล่าวเสริมว่า ขอทบทวนความจำ พล.ต.อ.ชิดชัย และพ.ต.ท.ทักษิณ การเว้นวรรคครั้งแรกเป็นการทำโดย พ.ต.ท.ทักษิณเอง ไม่ได้ให้สัตยาบันอะไรกับพันธมิตร และเกิดขึ้นหลังผลการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.ออกมาแล้ว เพราะฉะนั้น การเว้นวรรคทุกอย่างเกิดกับตัวพ.ต.ท.ทักษิณเองทั้งสิ้น แล้วจู่ๆ จะมาอ้างได้ไงว่าเลือกตั้งโมฆะแล้วการเว้นวรรคก็ต้องโมฆะ

ด้าน นายสุริยะใส กล่าวว่า เมื่อศาลมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาแล้ว หากพรรคไทยรักไทย หรือ กกต.พยายามจะตะแบงหรือไม่ให้ความร่วมมือ พันธมิตรก็พร้อมจะชุมนุมใหญ่ตลอดเวลา ขอแจ้งถึงพันธมิตรต่างจังหวัดว่า การประชุมสมัชชาอาจจะเกิดขึ้นประมาณปลายเดือนพฤษภาคม แล้วประกาศแนวร่วมพันธมิตรครั้งใหญ่ จากนั้นจะจัดระดับภาค ซึ่งจากนี้จะต้องเตรียมความพร้อมกันต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายสนธิ กล่าวทิ้งท้ายว่า พันธมิตรทั้ง 5 คนต่างก็มีงานประจำ จะกลับไปทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบ และตนก็จะกลับไปจัดเมืองไทยรายสัปดาห์เหมือนเดิม เพียงแต่ครั้งนี้จะเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละสัปดาห์มาอธิบายนัยให้ประชาชนทราบ เผื่อประชาชนดูจากสื่ออื่นแล้วได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ขณะเดียวกัน พันธมิตรจะยังพบปะกันเป็นประจำ รวมทั้งด้านสมัชชาที่สร้างขึ้นมาด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์