ป้อง“อภิชาต”ทำงานเต็มที่ไม่ควรจี้ให้ลาออก

วันนี้ ( 30 พ.ย.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม กกต. ว่า

ที่ประชุม กกต. ได้รับฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่สำนักกิจการพรรคการเมืองถึงมติของศาลรัฐธรรมนูญ 4 ต่อ 2 ให้ยกคำร้องกรณียุบพรรคประชาธิปัตย์ โดย กกต. ทั้ง 5 คนได้รับทราบคำพิพากษาฉบับย่อแล้ว ส่วนฉบับเต็มยังไม่ได้รับ จึงเป็นแค่การรับทราบตามปกติเท่านั้น และยังไม่มีมติใด ๆ ออกมา ทั้งนี้ที่ประชุมได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีว่าได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ไม่มีการตำหนิ ส่วนในวันที่ 1 ธ.ค. หากได้รับคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ จะมีการประชุมถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกล่าวหาและข้อเรียกร้องที่ให้ กกต. รับผิดชอบนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะคดี

ซึ่งเป็นการเกิดเหตุเฉพาะเรื่องเป็นครั้งแรก และเป็นดุลยพินิจเฉพาะของนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อรับเรื่องในวันที่ 17 ธ.ค. 52 นายทะเบียนฯก็ต้องเชื่อตามเอกสารของบริษัทตรวจสอบบัญชี และมีความเห็นว่าสมควรยกคำร้องไปแล้ว โดยมีมติในที่ประชุมว่าให้ยกหมด 2 ข้อหา รวมทั้งกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และการใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท แต่เมื่อมี กกต. อีก 3 ท่านทักท้วง นายอภิชาตก็ตัดสินใจตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และได้หลักฐานมาเพิ่มเติม แต่ศาลรัฐธรรมนูญถือเอาวันที่นายทะเบียนฯรับรู้เรื่อง คือวันที่ 17 ธ.ค. 52  และให้ยกคำร้องเพราะพ้นระยะเวลา 15 วัน ทำให้มติ กกต. ที่จะส่งฟ้องในภายหลังไม่มีผล

ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสความไม่พอใจต่อคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญอาจทำให้ กกต. ตกเป็นจำเลยนั้น

นายประพันธ์ กล่าวว่า เป็นแค่ความเห็นทางกฎหมายที่ไม่ตรงกันเท่านั้น ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับศาลก็ห้ามไม่ได้ แต่เมื่อตัดสินแล้วทุกฝ่ายควรยอมรับ เพราะเป็นระบบที่เราต้องยึดมั่นในคำตัดสินของศาล ส่วนที่มีนักวิชาการเรียกร้องให้นายอภิชาต แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกนั้น  นายประพันธ์กล่าวว่า นายทะเบียนฯและเจ้าหน้าที่ได้ทำตามหน้าที่แล้ว อยู่ดี ๆ จะให้ลาออกไป มันก็ไม่สมเหตุสมผล

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ตอนนี้พ้นขั้นตอนจาก กกต.ไปแล้ว

ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องระยะเวลา เพราะได้ส่งไปสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.) ไปดำเนินการแล้ว โดย อสส. มีกรอบ 30 วันนับแต่นายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นเรื่องไป ซึ่งคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

“กรณีคดีเงินบริจาค  258 ล้านบาท เป็นเรื่องที่มีเงื่อนระบุว่า กกต. ส่งเรื่องให้ อสส. พิจารณาภายใน 30 วัน ถ้า อสส. ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของ กกต. ก็ต้องตั้งคณะกรรมการร่วมกันพิจารณาอีกครั้งภายใน 30 วัน และคณะทำงานร่วมกันระหว่าง กกต. และ อสส. ก็ทำเสร็จภายในเงื่อนเวลาที่กำหนด จึงส่งศาลรัฐธรรมนูญ  ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเหมือนในกรณีของคดีเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกฎหมายตรงจุดนี้อาจต้องไปแก้ไขในวันข้างหน้า  เพราะเรื่องใหญ่ขนาดยุบพรรค  ถ้าบอกว่าอายุความแค่ 15 วันมันก็ออกจะสั้นมากเกินไป” นายประพันธ์ กล่าว

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์