ทรท.เตรียมเฉ่ง 2 อดีตพลังธรรม ฐานใจถึงแนะแม้วลาออก

ทรท.เตรียมเฉ่ง 2 อดีตพลังธรรม ฐานใจถึงแนะแม้วลาออก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2549 08:12 น.

ทรท.ชงให้รัฐยึดจุดยืนเดิม ให้ม็อบชุมนุมอย่างสงบ-สันติ ไม่หวั่นยืดเยื้อ ไฟเขียวถกสภาร่วมให้ซักถามเต็มที่วีระติงมหาจำลองด่วนสรุปเร็วเกินไป ควรรอฟังในสภาก่อน เตรียมเรียก 2 ส.ส.อดีตพลังธรรม เฉ่งในพรรค จวก ปชป.ทวงสัจจะนายกฯขอเสียงเปิดซักฟอก แค่นิสัยเก่าๆมุ่งดิสเครดิต สวมบทศรีธนญชัยอ้างยังไม่ถึง400เสียง ฉุนถูกจี้ต่อมจริยธรรม

วานนี้(21 ก.พ.)เมื่อเวลา 17.00น. ที่พรรคไทยรักไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายสุธรรม แสงประทุม นายพินิจ จันทรสุรินทร์ นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ในฐานะทีมวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์การเมือง ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยนายวีระกล่าวว่าที่ประชุมได้สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1.วิเคราะห์การชุมนุมในวันที่26 ก.พ.นี้โดยจุดยืนของพวกตนที่เสนอไปยังพรรคคือขอให้ท่าทีพรรคเป็นเช่นเดิมเหมือนกับการชุมนุมวันที่4และวันที่ 11ก.พ.คือรักษาความสงบและสันติวิธีอย่างชัดเจน โดยไม่มีการแทรกแซงใดๆและเคารพสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญในการชุมนุมอย่างสงบ 2.การชุมนุมครั้งนี้พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม ประกาศร่วมขบวนและระบุอีกว่าจะชุมนุมยืดเยื้อ พรรคมองว่าไม่จะชุมนุมแล้วเลิกและมาพบกันใหม่ หรือจะชุมนุมลากยาวไปเลยก็ไม่ว่า แต่อย่าพกพาอาวุธ

นายวีระ กล่าวอีกว่าตนขอกล่าวฝากไปถึงอดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรมเป็นส่วนตัวว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้นั้นตนเคารพสิทธิ แต่ขอถามว่า พล.ต.จำลองด่วนสรุปผลของเหตุต่างๆเร็วไปหรือไม่ บ้านเมืองต้องการผู้หลักผู้ใหญ่ซึ่งพล.ต.จำลองก็เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคนหนึ่งที่เคลื่อนไหวเพื่อประเทศมามาก ตอนนี้บ้านเมืองอยู่ในยุครัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่มีบทบัญญัติในการแก้ปัญหาครบถ้วน รัฐบาลได้เสนอขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในวันที่8มี.ค.ซึ่งเป็นช่องทางที่ฝ่ายค้านสามารถสอบถามเรื่องต่างๆจากรัฐบาลได้ทุกประเด็น การรอฟังคำถามและคำตอบในวันนั้นจะดีกว่าฟังความข้างเดียวหรือไม่

นายวีระ กล่าวว่า3.ส.ส.ของพรรคที่ติดตามเหตุการณ์ทางการเมือง ซึ่งในช่วงนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ ครม.ต้องไปชี้แจงข้อมูลต่างๆ ขณะเดียวกันส.ส.ของพรรคสามารถใช้สิทธิตั้งคำถามต่างๆได้ หากส.ส.มีคำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนั้นๆก็สามารถชี้แจงได้เพื่อให้การอภิปรายมีประโยชน์และสาระจริงๆ ส.ส.ของพรรคพร้อมเจอความจริงทุกด้าน แต่ขอให้มันเกิดขึ้นในสภา 4.การอภิปรายในครั้งนี้จะใช้เวลาประชุมกี่วันก็แล้ว ขอให้เปิดข้อมูลเต็มที่ ส.ส.ของพรรคจะได้นำข้อมูลเหล่านั้นลงไปเผยแพร่ให้ประชาชนในทุกพื้นที่ที่ยังเข้าใจข้อมูลคลาดเคลื่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมในวันที่26ก.พ.ว่าจะไปถึงจุดใด นายวีระกล่าวว่า บ้านเมืองต้องมีกฎหมาย ทุกอย่างก็ต้องจบด้วยกฎหมาย หากไม่นำกฎหมายเป็นบรรทัดฐาน บ้านเมืองก็จะเป็นคณาธิปไตย
หรืออนาธิปไตยที่ไม่มีใครปรารถนา ประชาชนต้องการบ้านเมืองสันติและอยู่ในกติกาโดยไม่ต้องการมิคสัญญีหรือจราจล

ส่วนได้ประเมินวันที่ 26 ก.พ.จะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมมากหรือไม่ นายวีระกล่าวว่า ตนคิดว่าคงไม่น้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา และน่าจะมาร่วมชุมนุมกันมาก ขอเรียนว่ารัฐบาลน้อมรับการชุมนุมเพราะประชาชนเดินมาด้วยความสันติ ตนคิดว่าไม่มีเหตุที่บ่งชี้ความรุนแรง หากจะเกิดความรุนแรงมันต้องเริ่มที่การตบมือสองฝ่าย ดังนั้น รัฐบาลยืนยันว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่มีการใช้วิธีเหนือกฎหมาย ไม่ใช้เล่ห์และทำให้ประชาชนเกิดการสูญเสีย เมื่อรัฐบาลแน่วแน่และสั่งการไปยังข้าราชการแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าความไม่สงบจะเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่านายสฤต สันติเมทนีดลและพล.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณลาออกและเลือกส.ส.ในพรรคขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว นายวีระกล่าวว่า เสียงของส.ส.ที่ขอให้นายกฯลาออก เป็นสิทธิของ ส.ส.ที่จะแสดงความเห็น แต่พรรคมีกฎเกณฑ์และน่าจะเรียกทั้งส.ส. 2 คนมาชี้แจงเพราะข้อเสนอของ 2 ส.ส.สถานการณ์เพราะยังไม่ถึงขั้นนั้น

สำหรับกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นหนังสือถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อทวงสัญญาที่จะให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทยไปร่วมลงชื่อขออภิปราย นายวีระ กล่าวว่า พวกนั้นรู้กฎหมาย แต่เคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล จึงขอถามว่าได้หารือกับนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้แล้วหรือไม่ว่าสมควรดำเนินการหรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ใช้นิสัยและเคยชินแบบเก่าคืออยู่ๆอยากตั้งรัฐบาล แต่ ส.ส.ไม่พอก็ดึงกลุ่มงูเห่า พรรคประชากรไทยมาร่วมรัฐบาล และวันนี้ก็ใช้นิสัยแบบนั้น มันเหมาะสมหรือไม่ คือเมื่อส.ส.ไม่เพียงพอก็มาดึงส.ส.รัฐบาลไปร่วม พรรคไทยรักไทยไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้
ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณเคยกล่าวว่าหากส.ส.พรรคฝ่ายค้านไม่เพียงพอก็มาขอส.ส.พรรคไทยรักไทยไปร่วมได้และจะเซ็นอนุมัติให้ นายวีระกล่าวว่ามันพูดกันไปพูดกันมา รัฐธรรมนูญ กฎหมาย มันมีอยู่ ก็ต้องว่าไปตามนั้น มันพูดเล่นพูดหัวกันนายกฯพูดว่า หากเลือก ส.ส.ไทยรักไทยได้400เสียง ฝ่ายค้านอยากอภิปรายนายกฯและเสียงไม่พอ จะให้ส.ส.ของพรรคไปร่วมเซ็นชื่อ บรรยากาศแบบนั้นฟังดู ก็รู้ว่าพูดเล่น หากฝ่ายค้านบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงและเป็นสัจจะนั้น ขอถามกลับว่า วันนี้พรรคไทยรักไทยมี 400 ส.ส.แล้วหรือไม่ เพราะมีแค่374เสียงแล้งจะเอาอะไร

ส่วนแสดงว่าคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณในฐานะนายกรัฐมนตรีเชื่อถือไม่ได้ นายวีระกล่าวว่า มันแล้วแต่คำพูดของคน แต่มันขัดประเพณีของระบอบประชาธิปไตย หากฝ่ายค้านมาสนับสนุนรัฐบาลก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร แล้วจะให้ส.ส.รัฐบาลไปหนุนฝ่ายค้านมันชอบแล้วหรือ

เมื่อถามว่าหากไม่มองด้านประเพณีแต่ขอมองในด้านจริยธรรมของ ส.ส.ที่ปกป้องประโยชน์ของประชาชน นายวีระ ตอบสวนกลับทันทีว่าจริยธรรมอีกแล้ว คุณเป็นเจ้าของจริยธรรมหรือ จริยธรรมเป็นอย่างไร อธิบายให้ฟังบ้าง หากเป็นแบบนั้นก็ไม่ต้องมีกฎหมายพรรคการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ากฎของพรรคสำคัญกว่าความรู้สึกของประชาชน นายวีระกล่าวว่าไม่เกี่ยว จริยธรรมก็ควรนำมาพูดแต่ต้องยืนบนข้อเท็จจริง วันนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้แต่พิพากษาจริยธรรมไปแล้ว การกระทำในวันนี้ของพรรคฝ่ายค้านก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ที่กระทำนั้น เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลเล็กน้อยอย่างไม่หวังผลจริงจัง ทางที่ดีฝ่ายค้านควรเตรียมข้อมูลให้ดีเพื่ออภิปราย เพราะมันน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า ซึ่งในการประชุมร่วมสองสภา จะลดข้อสงสัยพ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่ คือต้องฟังคำถาม คำตอบในวันนั้นแล้วค่อยนำไปประเมิน

ส่วนกรณีบริษัทแอมเพิล ริช ไม่มีการชี้แจงให้ ส.ส.รับรู้ นายวีระ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้วในที่ประชุมพรรคแต่มันไม่ละเอียด เมื่อถามว่าในการประชุมร่วมฯควรจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายได้หรือไม่ นายวีระกล่าวว่าหากสงสัยก็พูดได้เลยเพราะเวทีนั้นเป็นสถานที่ซักถามได้เต็มที่ เมื่อถามว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีบอกไว้ว่าเรื่องนี้อภิปรายไม่ได้ นายวีระกล่าวว่าตนไม่ทราบ

ด้านนายวิวรรธณไชย กล่าวว่า การประชุมร่วมสองสภานั้น เป็นความประสงค์ของรัฐบาลและรัฐบาลก็มั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ ฉะนั้นคำถามที่คาใจสังคมทั้งหมด เชื่อว่ารัฐบาลเตรียมคำตอบไว้หมดแล้วและเท่าที่ทราบนายกฯสามารถตอบได้ด้วยตัวเองทุกคำถาม และเชื่อว่าถึงอย่างไรพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถหาเสียงในการอภิปรายนายกฯได้ครบ 200 เสียง จึงขอเตือนว่าฝ่ายค้านควรใช้เวทีนี้เตรียมคำถามให้สมบูรณ์ที่สุดและหาทางให้นายกฯตอบไม่ได้ อย่าไปหวังลมๆแล้งๆว่า ส.ส.ของรัฐบาลจะไปลงชื่อให้ครบ 200 เสียงและการอภิปรายครั้งนี้มีค่าเท่ากับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะสังคมกำลังรอฟังคำตอบของนายกฯอยู่ ในส่วนของ ส.ส.รัฐบาลหากสงสัยก็จะลุกขึ้นถามนายกฯด้วยเหมือนกัน เพราะประชุมครั้งนี้จะเสนอวิปรัฐบาลว่าให้อภิปรายโดยไม่กำหนดเวลา อภิปรายได้อย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการแถลงข่าวเป็นไปอย่างอึมครึมเนื่องจากผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถึงคำพูดนายกฯที่ได้ให้สัญญาว่าจะให้เสียงกับฝ่ายค้าน และจริยธรรมของ ส.ส.ในการไปร่วมลงชื่อกับฝ่ายค้าน ซึ่งการซักถามเป็นไปอย่างดุเดือดนายวีระถึงกับเดินลงเวทีไปทันที

รัฐบาลโต้ปาหี่ถกสองสภาอ้างแม้วแจงยิบปัดซุกหุ้น-โกงภาษี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2549 10:52 น.

โฆษกรัฐบาลยืนยันการเปิดประชุมร่วม 2 สภาไม่ได้ลดกระแสต่อต้าน ทักษิณ ย้ำดึงเข้าสภาเปิดให้ซักถามได้เต็มที่ไม่เว้นซุกหุ้น-หนีภาษี-ทุจริต ยังไม่วายวาดภาพน่ากลัวขู่ชุมนุม 26 ก.พ.อ้างมีหลายกลุ่มผสมโรงอาจเกิดความรุนแรงไม่คาดหมายทุกเวลา

วันนี้( 22 ก.พ.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าการขอเปิดประชุมร่วม 2 สภาของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีพร้อมชี้ในทุกปัญหา เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการปิดกั้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อธิบายว่า การประชุมดังกล่าวมีเรื่องที่จะนำเข้าพูดคุยในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน และประเด็นที่มีการพูดถึงขณะนี้ คือ เรื่องความเชื่อมั่น และการบังคับใช้ทางกฎหมายของหน่วยงานของกระทรวงการคลัง ที่เกี่ยวข้องการซื้อขายหุ้นของบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เรื่องการปฏิรูปการเมือง ซึ่งอาจจะมีการพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย เรื่องการทุจริตในวงราชการ การเจรจาเขตการค้าเสรี การดูแลความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุมเรียกร้องต่างๆ และอื่นๆ

นพ.สุรพงษ์ย้ำว่า ทั้งหมดนี้ครอบคลุมประเด็นที่เป็นปัญหาที่ประชาชนให้ความสนใจ และอยากเห็นบทบาทของรัฐสภาที่จะให้ความเห็นต่อรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า เรื่องใดที่เป็นปัญหา สามารถสอบถามได้ทุกเรื่อง โดยรัฐบาลจะไม่มีการกำหนดเวลาในการประชุม เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการทำงานของรัฐบาล และประเทศชาติ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การจัดประชุม 2 สภา ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อลดกระแสการชุมนุมในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ แต่เห็นว่าหากเปิดให้มีการพูดคุยในรัฐสภา จะเป็นอีกทางออกให้ประชาชนได้รับทราบบทบาทของรัฐสภาในการแก้ไขปัญหาราชการแผ่นดิน ซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน

นพ.สุรพงษ์ ยังกล่าวเรียกร้องให้แกนนำและผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ชุมนุมโดยสงบ เคารพกติกาบ้านเมือง ไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายใด และไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เช่นเดียวกับการชุมนุมวันที่ 4 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ทางการเมืองไทย ที่แสดงให้เห็นว่าต่อไปนี้ไม่ได้หมายความว่า เมื่อมีคนชุมนุมมากจะต้องมีปัญหาความรุนแรง หรือเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทันทีทันใด อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้มาจากหลายส่วน ฉะนั้น การหามติที่เป็นเอกภาพในการชุมนุมก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องระวัง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำอีกว่า ฝ่ายรัฐบาลเองจะเปิดให้ผู้ต้องการใช้สิทธิในการแสดงความเห็น ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ตามระบอบประชาธิปไตย และจะกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ใช้ความอดทนในการปฏิบัติงาน และดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างดีที่สุด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์