“สาทิตย์”โยน“ออมสิน”จ่ายเงินเยียวยาช้า

“สาทิตย์” โยนแบงก์ออมสินจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมล่าช้า เร่งปรับแผนใหม่ ตั้งเป้าให้ครบ 38 จังหวัดแรกภายในสิ้นเดือนนี้

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 26 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) กล่าวถึง ความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยา 5 พันบาทต่อครอบครัว ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม และวาตภัย ว่า ขณะนี้ ตัวเลขผู้ประสบภัยที่ลดลงเหลือไม่ถึง 5.5 แสนราย ได้ส่งเข้ามาเกือบครบ 100% แล้ว แต่สิ่งที่กังวลคือ การจ่ายเงินของธนาคารออมสิน ทำได้ไม่ตามเป้า เท่าที่ได้รับรายงานตัวเลขล่าสุด ธนาคารออมสินจ่ายเงินไปไม่ถึงแสนราย ซึ่งเมื่อวันวานนี้ ได้หารือกับ รมว.คลัง และเลขาธิการนายกฯ แล้ว โดยจะมีการเชิญตัวแทนธนาคารออมสินมาพบ เพื่อให้ปรับแผนการจ่ายเงินให้ได้ครบทั้งหมด 38 จังหวัดแรก ให้ได้ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ส่วนจังหวัดทางภาคใต้ก็เริ่มทยอยส่งรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบมาแล้ว คาดว่า ภายในต้น ธ.ค.จะสามารถเริ่มดำเนินการจ่ายเงินได้

“ปัญหาความล่าช้าในการจ่ายเงิน 5 พันบาท เป็นปัญหาของธนาคารออมสินเอง ทั้งที่มีสาขาจำนวนมาก และมีศักยภาพพอ จึงต้องปรับแผนกันใหม่ ไม่จำเป็นต้องปรับแผนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) แบ่งภาระไปจ่ายให้ เพราะเราจะให้ ธกส.จ่ายเงินชดเชยด้านการเกษตรต่อไป อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้น ครั้งนี้ถือว่าจ่ายเงินเร็วที่สุดแล้ว เพราะบางปีเงินช่วยน้ำท่วมจะได้ตอนหน้าแล้ง แต่ขณะนี้ เราเริ่มจ่ายได้แล้ว แม้ในพื้นที่ที่น้ำยังท่วมขังอยู่” นายสาทิตย์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการจ่ายเงินช่วยเหลือรอบสองให้กับผู้ประสบภัยที่รายชื่อตกหล่นหรือไม่

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติเพิ่มเติมในจังหวัดที่น้ำท่วมมาตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค. และ ก.ย. อีก 15 จังหวัดที่น้ำท่วมมาก่อนเดือน ต.ค. เช่น จ.มุกดาหาร ราชบุรี เพชรบุรี และบางจังหวัดทางภาคเหนือ จำนวน 3 พันกว่าครัวเรือน

นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องการสวมสิทธิ์รายชื่อนั้น

 เท่าที่ตรวจสอบพบใน 2 จังหวัด คือ จ.นครสวรรค์ และนครราชสีมา แต่มีเพียงแค่ 5-6 ราย เป็นการร้องของชาวบ้านด้วยกันเอง ซึ่งทาง คชอ.ได้ประสานให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนการฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ประสบภัยนั้น สัปดาห์หน้าจะเริ่มที่ จ.ชัยภูมิ ปราจีนบุรี และสุพรรณบุรี โดยจะเน้นไปที่ภาคการเกษตร เพราะ ครม.ได้อนุมัติแจกจ่ายพันธุ์ข้าวเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งจะดำเนินการในส่วนแรก 4 ล้านไร่.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์