แฉเด็กนักการเมืองยึดที่นั่งสมัชชาฯ

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่รัฐสภา พ.ท.พ.ญ.กมลพรรณ ชีวพันธุ์ศรี อนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า คณะอนุกรรมการประชุมเพื่อรายงานการสำรวจการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของแต่ละจังหวัด โดยเชิญเครือข่ายการเลือกตั้งเพื่อประชาชนที่เราส่งเป็นตัวแทนในจังหวัดต่างๆ

มาร่วมประชุมพูดคุยถึงปัญหาการดำเนินการ พบว่าปัญหาใหญ่คือคนที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาส่วนมากมีเครือข่ายโยงใยกับนักการเมือง ดังนั้น ต่อไปหากจะคัดเลือกไม่ควรให้ข้าราชการ

หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวแทนคณะกรรมการดำเนินการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (กดส.) เพราะเกรงใจนักการเมือง สุดท้ายจะได้กลุ่มเครือข่ายนักการเมืองเข้ามาแทนที่จะเป็นประชาชนจริงๆ อย่างไรก็ตาม มองว่าภาคประชาชนอาจจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มคอยตรวจสอบการร่างรัฐธรรมนูญ โดยอาจจะทำงานแบบคู่ขนานไปด้วยกันกับสภาร่างรัฐธรรมนูญ

พ.ท.พ.ญ.กมลพรรณกล่าวต่อว่า ปัญหาอีกอย่างคือระยะเวลาในการประชาสัมพันธ์มีน้อยมาก ทำให้ประชาชนไม่ได้รับทราบข้อมูล คนที่ทราบส่วนมากเป็นเครือข่ายนักการเมือง กำนัน อบต. นักวิชาการ

เมื่อถามถึงการที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสนช. ยืนยันจะให้สมาชิกสมัชชาแห่งชาติเลือกกันเองเหลือ 200 คนแบบข้ามกลุ่ม พ.ท.พ.ญ.กมลพรรณกล่าวว่า ตนทำหนังสือถึงนายมีชัยว่าการคัดเลือกเพื่อความโปร่งใส ควรแบ่งประเภทไปทั้งหมด 9 ประเภท ตามสัดส่วนคือเอาจำนวนคนในกลุ่มมาคูณด้วย 200 หารด้วย 2,000 เราจะได้ตัวเลขเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน

จะได้คนมาครบและกระจายไปทุกกลุ่ม ในบัญชีประเภทที่ 1 ซึ่งมีจำนวนมาก จะแบ่งเป็นประเภทที่ 1(1)-1(7) ส่วนประเภทที่ 2-9 ก็แบ่งตามกลุ่มได้เลย อย่างไรก็ตามการที่ตนเสนอไป นายมีชัยจะทำตามหรือไม่เป็นเรื่องของนายมีชัย ตนมีหน้าที่เสนอแนวคิดเพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่สุด หากแบ่งไปตามประเภทการใช้เครื่องตรวจก็ไม่จำเป็น เพราะจำนวนคนในแต่ละประเภทมีน้อย สามารถนับคะแนนได้ทันที