กรณ์ยันรัฐพร้อมเป็นแบ็คอัพเอกชนลุยตปท.

รมว.คลังยันรัฐบาลพร้อมเป็นแบ็คอัพเอกชนไทยลงทุนในต่างประเทศ เพื่อขายฐานการผลิต-แสวงหาโอกาสการลงทุน รองรับการแข่งขันเสรี

โดยมูลค่าการค้าของอาเซียน เทียบเท่า 100% ของมูลค่าเศรษฐกิจของอาเซียน และมูลค่าการค้าระหว่างกลุ่มอาเซียนมีมากกกว่าการค้าระหว่างไทย-สหรัฐ รวมกับการค้าไทย-ยุโรป

"วันนี้ไม่ใช่เป้าหมายเพื่อแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่มองโอกาสทางธุรกิจร่วมกับในการรวมตัวกับอาเซียนให้มีความเคลื่อนไหวทางการค้าเสรี แรงงานเสรี ภายในกลุ่มอาเซียน หากเราอยู่นิ่งจะเสียเปรียบ เราประสบความสำเร็จ เหมือนที่หลายประเทศประสบความสำเร็จได้ต้องหนุนการไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กลุ่มอิตัลไทย หรือ กลุ่มซีพี แต่การเป็นบริษัทใหญ่มีทุนและความรู้เพียงพอ จึงเป็นประเด็นท้าทายให้ผุ้ประกอบการเข้าถึง"

นายกรณ์ กล่าวว่า ช่วงนี้ที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น ภาคเอกชนไทยไทยควรใช้โอกาสในการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อขยายฐานการผลิต แสวงหาโอกาสร่วมกันของภาครัฐและเอกชน โดยรัฐบาลพร้อมที่จะช่วยเหลือ และสนับสนุนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมที่น่าจะไปลงทุนในประเทศต่างๆ

สำหรับประเด็นท้าทายรัฐบาล ที่เป็นอุปสรรคต่อภาคเอกชน ยอมรับว่าขั้นตอนทางราชการยังมีการเคลื่อนไหวที่ล่าช้า

ซึ่งในส่วนของขั้นตอนทางศุลกากร จะมีการแก้ไขกฎหมายอีกครั้งในต้นปี 2554 เพื่อปลดล็อคอุปสรรคให้ผู้ประกอบการ
นอกจากนี้จะมีการปฎิรูปด้านการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น เช่น การลดขั้นตอนการขอจัดตั้งบริษัท ซึ่งไทยใช้เวลาถึง 32 วัน หากเทียบกับ สิงคโปร์ที่ใช้ 15 วัน
        
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ท้าทายเอกชนในการเปิดการค้าเสรีภายใต้เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน  คือการพัฒนาประชากรเพื่อรองรับระดับการแข่งขันที่สูงขึ้น เนื่องจากปัจจุบันไทยมีประชากรในวัยทำงาน 72% แต่ในอีก 20 ปีข้างหน้า ประชากรวัยสูงอายุ จะเพิ่มจาก 11% เป็น 22%
   


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์