ศอฉ.ปูดกลุ่มไม่หวังดี ก่อเหตุลอยกระทง-ปีใหม่ สั่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยง

ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.)

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศอฉ. เป็นประธานการประชุม ศอฉ. โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน


พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานความคืบหน้าของคดีต่างๆ

ที่ได้มีหมายจับพร้อมจับกุมนายสุชาติ นาคบางไทร และผู้ที่จะถูกออกหมายจับต่อไป รวมถึงกรณีวิทยุชุมชน จำนวน 95 สถานี ที่ยังไม่ได้ยื่นเรื่องเสนอการขอจัดตั้งวิทยุชุมชนและรายการให้ถูกกฎหมาย โดยทางตำรวจกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้


พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ทางสำนักข่าวกรองแห่งชาติได้รายงานที่ประชุมว่า

เดือนพฤศจิกายนจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่ต่างๆ ที่มีประชาชนใช้บริหารจำนวนมาก รวมถึงการปองร้ายบุคคลสำคัญ ทั้งนี้ ศอฉ.มีมติให้หน่วยงานทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สมช. ตำรวจ ทหาร ร่วมกันบูรณาการทำงานเพื่อติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมายและป้องกันไม่ให้มีการสร้างสถานการณ์ นอกจากนี้ประชาชนที่หวังดีได้แจ้งข้อมูลว่ามีการเคลื่อนย้ายสารเคมี สารตั้งต้น แก๊ส น้ำมันเชื้อเพลิง ที่เคลื่อนย้ายจำนวนมากจนผิดสังเกตในบางพื้นที่


"ศอฉ.จึงมีมติให้ทำเรื่องแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้แจ้งสถานประกอบการ ใครที่จะขนย้ายสารตั้งต้น สารเคมี ฯลฯ จำเป็นต้องแจ้งให้ ศอฉ.ได้รับทราบล่วงหน้าว่าจะเคลื่อนย้าย วันเวลาใด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบ และเฝ้าระวังการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี" พ.อ.สรรเสริญกล่าว และว่า หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นไปแล้วพิจารณาเห็นว่าจะต้องเพิ่มระดับการควบคุม ทาง ศอฉ.จะกำหนดการเคลื่อนย้ายได้ในเวลาใด หรือสถานการณ์รุนแรงไปสู่จุดไม่น่าไว้วางใจ ทาง ศอฉ.อาจจะกำหนดห้ามเคลื่อนย้าย ยกเว้นได้รับอนุญาต แต่ขณะนี้เป็นเพียงการขอความร่วมมือ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีการเคลื่อนย้ายสารเคมี สารตั้งต้น ฯลฯ ไปพื้นที่ใด


 ผู้สื่อข่าวถามว่า สารตั้งต้นที่เฝ้าระวังจะนำไปประกอบวัตถุระเบิดใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า

เป็นการเฝ้าระวังของผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี สารตั้งต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปรวมตรวจสอบเพื่อให้เกิดความปลอดภัยไม่ให้มีผู้ฉกฉวยโอกาสเหล่านี้มาสร้างสถานการณ์ เมื่อถามว่า เป็นกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะสร้างสถานการณ์ใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ไม่อยากจะเหมารวมหรือพาดพิงว่าเป็นกลุ่มไหน แต่ข่าวสารที่ได้รับมานั้นมีลักษณะอย่างที่ได้รับแจ้ง ส่วนจะเป็นกลุ่มไหนก็แล้วแต่ที่เจ้าหน้าที่มีบัญชีเป้าหมายติดตามเฝ้าระวังด้วยกันทุกกลุ่ม หากสร้างสถานการณ์พร้อมทั้งทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ทั้งนี้ รวมถึงทุกกรณีไม่ใช่เฉพาะบุคคลสำคัญเท่านั้น


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเฝ้าระวังพื้นที่ใดเป็นพิเศษหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า

ในทุกพื้นที่ไม่เฉพาะพื้นที่ประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น แต่ในพื้นที่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจค้น เพื่อป้องกันเหตุร้ายได้มากกว่าพื้นที่อื่นๆ  เมื่อถามว่า ในช่วงเทศกาลต่างๆ จะเฝ้าระวังเป็นพิเศษหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ศอฉ.มีมาตรการเฝ้าระวังตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กระทั่งพ้นเทศกาลปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลลอยกระทง หรือเทศกาลปีใหม่


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์