กดส.โต้ มีชัย อ้างสรรหาสมัชชาฯ ข้ามสาย - นัดถกใหญ่ 25 พ.ย.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤศจิกายน 2549 18:47 น.

กดส. ยืนยันไม่เคยเห็นระเบียบคัดเลือกสมัชชาฯ ตามที่ มีชัย กล่าวอ้าง เตรียมจัดประชุมใหญ่กำหนดท่าทีอีกครั้ง 25 พ.ย.นี้ ชี้สมัชชาฯ ที่ตกรอบคัดเลือกอาจนั่งทำงานในฐานะอนุกรรมการติดตามการร่าง รธน.ต่อไป

วันนี้ (24 พ.ย.) นายสุพจน์ ไข่มุกต์ ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ ในคณะกรรมการกำกับดูแลการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (กดส.) กล่าวถึงกรณีประกาศการประชุมสมัชชาแห่งชาติ และวิธีการคัดเลือกสมัชชาฯ จากจำนวน 2,000 คนให้เหลือ 200 คน เพื่อเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เลือกเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่ลงนามโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานสมัชชาแห่งชาติโดยตำแหน่ง ซึ่งเปิดให้สามารถเลือกกันเองโดยอิสระข้ามภาคส่วนได้ว่า ทั้งวิธีการเปิดให้เลือกข้ามภาคและการบังคับให้เลือกในภาคเดียวกันต่างมีข้อดีและข้อเสีย ผู้ที่เห็นว่าการห้ามเลือกข้ามภาคและให้เลือกกันเองในหมู่แคบๆ จะบล็อกโหวตได้ง่าย เพราะตกลงได้ง่ายนั้น สามารถมองได้ ส่วนคนที่บอกว่าเลือกข้ามภาคจะบล็อกกันได้ยังไม่มีการพูดออกมาชัดๆ ว่าจะบล็อกอย่างไร เพราะความจริงคน 2,000 คน เลือกได้คนละ 3 ชื่อ คงบล็อกได้ไม่ง่าย

การเลือกตัวแทนของพรรคการเมืองในสหรัฐที่จะลงชิงชัยประธานาธิบดียังมีการล็อบบี้กัน ผมคิดว่าคนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสมัชชาฯ น่าจะมาจากการคัดสรรอย่างดีแล้ว อย่าไปมองว่าเลวร้ายทั้งหมด เพราะประชาชนก็จับตามองอยู่ทั่วประเทศ สิ่งที่นายมีชัยระบุว่าก่อนลงนามในประกาศได้นำระเบียบดังกล่าวมาให้ กดส.ดูแล้วนั้น กดส.ยังไม่เคยเห็นระเบียบดังกล่าวก่อนประกาศเลย ซึ่งวันที่ 25 พ.ย.นี้ กดส.ชุดใหญ่จะประชุมและคงจะมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งในเรื่องนี้ นายสุพจน์ กล่าว

นายสุพจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้จะหารือด้วยว่าสมัชชาฯ 1,900 คน ที่ไม่ได้เป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญน่าจะมีบทบาทต่อไป เพราะคนเหล่านี้ได้รับการสรรหามาอย่างดีแล้วอาจให้มาเป็นอนุกรรมการติดตามการร่างรัฐธรรมนูญและให้คำแนะนำกับประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การบล็อกโหวตอาจออกมาในลักษณะภาครัฐ หรือราชการบล็อกผ่านตัวแทนองค์กรปกครองท้องถิ่นหรือผ่านตัวแทนสาขาอาชีพ ซึ่งต้องมีส่วนสัมพันธ์กับรัฐหรือราชการต่อไป นายสุพจน์ กล่าวว่า ถ้าเป็นลักษณะนี้ก็เป็นไปได้ว่าจะบล็อกกันได้ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะคัดเหลือ 100 คนในขั้นตอนสุดท้าย และสภาร่างรัฐธรรมนูญจะเลือกกรรมาธิการยกร่าง 25 คน คมช.สรรหา 10 คน รวมเป็น 35 คน ซึ่งตรงนี้จะเป็นหัวกะทิทั้งนั้น และรัฐธรรมนูญห้ามกรรมาธิการยกร่างฯ ลงสมัคร ส.ส. และ ส.ว.ระยะหนึ่ง น่าจะป้องกันการเขียนรัฐธรรมนูญเอื้อประโยชน์ให้ตนเองได้