สุวัจน์แย้มจับมือไพโรจน์ยึดโคราช

“สุวัจน์” หนุนนายกฯเลือกตั้งปีหน้า ทุกพรรคจะได้เตรียมลุยเลือกตั้ง เชื่อเลือกตั้งช่วยลดความขัดแย้งในชาติ รอ“มาร์ค”เคาะกรอบเวลาแน่นอนหลังน้ำลด แนะแก้รธน.ต้องเน้นวิธีการทำให้ทุกฝ่ายยอมรับ เพื่อลดขัดแย้ง แบไต๋จับมือ“ไพโรจน์ ” ยึดฐานเสียงโคราช

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ในฐานะแกนนำพรรครวมชาติพัฒนา(รช.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณจะมีการเลือกตั้งปีหน้าจะทำให้บรรยากาศการสร้างความปรองดองเดินหน้าได้จริงหรือไม่ ว่า ก็ดีเพราะสัญญาณการเลือกตั้งที่ชัดเจนเป็นสัญญาณที่ดีต่อประเทศ ทุกคนจะได้เตรียมตัวและแสดงความจริงใจของรัฐบาลว่าทำทุกอย่างโปร่งใส เชื่อว่าเมื่อมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ จะเบาบางลง ต้องอย่าลืมว่าการเลือกตั้งเป็นปัจจัยหนึ่งของการเรียกร้องที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ฉะนั้นถ้าวันนี้ภาพการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอนที่สุดความขัดแย้งลดลงและถ้าเราสามารถจัดการเลือกตั้งได้ดีทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้งปัญหาความขัดแย้งภายหลังการเลือกตั้งก็จะน้อยลง และทุกอย่างก็จะเข้าสู่กลไกปกติของระบอบประชาธิปไตย ตนมองว่าการเลือกตั้งจะมีส่วนสำคัญในการลดความขัดแย้ง การที่นายกฯออกมาพูดจุดยืนเรื่องนี้ชัดเจนเป็นเรื่องที่ดีกับประเทศ

 เมื่อถามว่า แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคเพื่อไทยเองมองตรงกันว่านายกฯแค่ออกมาพูดเอาหล่อ เพราะรู้อยู่แล้วว่าวาระของรัฐบาลจะสิ้นสุดแค่วันที่ 22 ธ.ค. 54 พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการหารือให้เป็นทางการเพื่อแสดงความจริงใจกำหนดรกรอบระยะเวลาที่จะมีการเลือกตั้งที่แน่นอนเลยหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า นายกฯก็พูดชัดว่าไม่อยู่ครบเทอม นายกฯพูดมาหลายครั้งแล้วก็คงแน่นอน ท่านต้องเป็นผู้ที่ตัดสินใจหลัก ๆ ของพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้วในการยุบสภา ถ้านายกฯมีอะไรถึงจุดนั้นก็คงปรึกษาหารือกับผู้ร่วมรัฐบาลกับท่าน เพียงแต่คงต้องเป็นเวลาที่เหมาะสม แต่ตนว่าเป็นสัญญาณที่ชัดเจนแล้วว่าเร็ว ๆ นี้คงมีการเลือกตั้ง เพียงแต่จะเป็นช่วงหลังน้ำลดเมื่อไหร่อีกนานแค่ไหน

 เมื่อถามย้ำว่า นายกฯน่าจะประกาศมาให้ชัดเจนเลยหรือไม่ว่ากรอบเวลาที่จะเลือกตั้งคือช่วงใด นายสุวัจน์ กล่าวว่า อย่างน้อยวันนี้ก็เห็นกรอบรวมที่ชัดเจนว่าปีหน้ารัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมแน่ ต่อไปก็จะเป็นรายละเอียด หลังจากปัญหาน้ำท่วมคลี่คลายลง นายกฯก็คงมีภาพรวมที่ชัดเจนอีกครั้ง

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาความขัดแย้งในเบื้องต้นยังไม่หมดไป ถ้าไปเลือกตั้งอีกจะเพิ่มดีกรีความขัดแย้งหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า “น้ำเดือดเราก็ลดอุณหภูมิให้เป็นน้ำร้อนก่อน แล้วน้ำร้อนก็ลดอุณหภูมิให้เป็นน้ำอุ่น จากน้ำอุ่นแล้วสักวันหนึ่งมันก็จะร่มเย็นสงบ น้ำก็จะเย็น มันก็ต้องเป็นไปทีละลำดับ เหตุการณ์ความขัดแย้งรุนแรงของเรามันเป็นอะไรที่หนักหนาสากรรจ์ การที่ทุกฝ่ายได้ช่วยกันประคองสถานการณ์ไว้ ณ ขณะนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้วสำหรับประเทศ เศรษฐกิจก็ยังเดินไปได้ ตัวเลขจีดีพีก็ยังโตถึง 7% โดยที่เศรษฐกิจโตท่ามกลางความขัดแย้ง แล้วถ้าสักวันไม่มีความขัดแย้ง จีดีพีไม่เป็น 10 หรือ ถ้าเราเห็นตรงนี้กันและเรามีความจริงใจ มุ่งมั่นที่จะช่วยกันแก้ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องที่ดี

 ผู้สื่อข่าวถามถึง ความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะยิ่งช่วยเสริมความปรองดองหรือเพิ่มความขัดแย้ง เพราะกลุ่มพันธมิตรฯก็ตั้งเป้าคัดค้าน นายสุวัจน์ กล่าวว่า แล้วแต่ประเด็นที่จะนำไปสู่การแก้ไข และขึ้นอยู่กับวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้ได้รับการยอมรับ ซึ่งจะทำให้ไม่มีความขัดแย้ง แต่ถ้าวิธีการไม่ได้รับการยอมรับมันก็จะขัดแย้งกัน

 เมื่อถามว่า หากการแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ ต้องเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 50 ยังรับกันได้หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า นักการเมืองคือผู้เล่น ไม่ใช่ผู้กำหนดกติกา ดังนั้นกติกาเขามีอย่างไรก็เป็นเรื่องความสมัครที่จะเล่นหรือไม่เล่น ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญใหม่หรือจะแก้รัฐธรรมนูญทันหรือไม่ เมื่อมีการเลือกตั้งก็เป็นความสมัครใจของฝ่ายการเมือง

 ต่อข้อถามที่ว่า นายกฯจะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯเข้าหารือกับครม.ในวันที่ 2 พ.ย. พรรครวมชาติพัฒนารับข้อเสนอดังกล่าวได้หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ตอบในนามพรรครวมชาติพัฒนา แต่เรื่องนี้มาจากคณะกรรมการสมานฉันท์ฯของสภาที่เคยศึกษาไว้อยู่แล้ว และทุกฝ่ายให้การยอมรับในระดับหนึ่ง และคณะกรรมการสมานฉันท์ฯชุดที่รัฐบาลนี้ตั้งขึ้นก็มีแนวทางที่ใกล้เคียงกับแนวทางเก่าที่ทำมาก็ต้องยอมรับว่ามีพื้นฐานที่มาที่ไปในระดับพอสมควร ที่เหลือก็เป็นการตัดสินใจในเชิงนโยบายกับวิธีการมากกว่า

 ดังนั้นเชื่อว่าความขัดแย้งไม่น่าจะมาก ถึงจะไม่เห็นด้วยก็ไม่น่าจะมาก เพราะผลการศึกษาของทั้งสองแนวทางนี้ใกล้เคียงกันมาก เพียงแต่ว่าจะเลือกแก้ไขในประเด็นไหน และเมื่อไหร่ และวิธีการที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทุกฝ่ายยอมรับ ซึ่งต้องแล้วแต่ที่ประชุมหรือทุกฝ่ายจะเห็นกันอย่างไร แต่ตนอยากให้ความสำคัญกับเรื่องวิธีการและขั้นตอนให้เกิดการยอมรับเพื่อลดความขัดแย้ง เพราะบางที่ของดี ๆกลายเป็นของเสีย ถ้าวิธีการไม่ดี ส่วนจะต้องทำประชามติหรือไม่ก็แล้วแต่จะหารือกันว่าวิธีการใดทำให้เกิดการยอมรับมากที่สุด

 เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะรุกหนักในพื้นที่จ.นครราชสีมารู้สึกหวั่นไหวบ้างหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า โคราชเป็นจังหวัดใหญ่รองจากกรุงเทพฯ มีส.ส.เขตและส.ส.สัดส่วนรวมถึง 20 ที่นั่ง ฉะนั้นก็ต้องเป็นเป้าหมายทางการเมืองของทุกพรรคอยู่แล้ว เพราะมีส.ส.เขต 16 คน และส.ส.สัดส่วนอีก 4 รวมเป็น 20 ที่นั่ง เพราะถ้าใครชนะที่โคราชก็เหมือนกับใหญ่กว่าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งด้วยซ้ำไป จึงเป็นพื้นที่เป้าหมายของการต่อสู้ เพียงแต่จะแพ้หรือชนะก็อยู่ที่ประชาชนชาวโคราชจะรักใครชอบใคร เมื่อถามว่า มีการจับมือเป็นพันธมิตรกับว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินในการเตรียมการเลือกตั้งในจ.นครราชสีมาหรือไม่ นายสุวัจน์ ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ มีความสัมพันธ์ที่ดีกัน เคารพนับถือกันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์เป็นรุ่นพี่ตน



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์