กระบอกเสียงมาร์คเหน็บแม้วเพ้อประกาศสงครามครั้งสุดท้ายลุยเลือกตั้ง



นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่รัฐสภา วันที่ 144 ตุลาคมกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศทำสงครามครั้งสุดท้าย โดยจะนำทัพส.ส.พรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้งด้วยตัวเอง ว่เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อให้ตัวเองได้กลับมาเป็นรัฐบาล และไม่ใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจริงๆ การประกาศเป็นรัฐบาลพรรคเดียว เป็นการเพ้อฝันกลางทะเลทราย เพราะการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา เมื่อปี 44 ต้องไปรวมกับพรรคคเสรีธรรม และปี 48 ไปควบรวมกับพรรคความหวังใหม่ และพรรคชาติพัฒนา เพื่อให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และพรรคเพื่อไทยควรชูนโยบายให้ชัดว่าถ้าต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิฯ รอดพ้นจากคุก ก็เลือกพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าจะให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามกฎหมาย ก็ให้เลือกพรรคอื่น เพื่อชี้ขาดว่าประชาชนคนไทยจะสนับสนุนคนที่หนีคุกหรือไม่


"ไม่อยากให้เอาเสียงข้ามากของประชาชนมาครอบความบริสุทธิ์ เพราะเป็นคนละเรื่องกับการดำเนินคดีอาญา  ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำชับให้ ส.ส.ลงพื้นที่ภาคอีสาน เพราะเห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาล เริ่มที่จะรุกและตีตื้นพรรคเพื่อไทย จึงต้องไปกดดันและปิดล้อม ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ระบุว่า จะได้เสียงถึง 5 หมื่นคะแนนในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จ.สุราษฎรธานี นั้น ตนไม่อยากให้ดูถูกมติของประชาชน แต่ขอให้รอไปจนถึงวันที่ 30 ต.ค.นี้ จะได้เสียงตามที่คุยอวดไว้หรือไม่ ขณะที่การดึงกลุ่มวาดะห์ให้มาช่วยหาเสียงในภาคใต้ ผมมองว่าเป็นรเพียงการเอาบารมีคนอื่นมาเป็นฐานเสียงให้กับตัวเองเท่านั้น ทั้งนี้ที่นายจตุพร ระบุว่า จะให้นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำนปช. เป็นสัดส่วนลำดับที่ 1 ในพื้นที่ภาคใต้ และทั้ง 8เขต ในพื้นที่ภาคใมต้ จะมีคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นสัดส่วนลำดับต้นๆ ในทุกเขต   เพราะต้องการหวังแค่เกาะกระแสพรรคเข้ามา เพราะไปกล้าไปลงส.ส.เขต ดังนั้นนายจตุพร ควรไปทำใน 4 อย่างคือ 1 เตรียมซ้อมกำลังเอาไว้เพื่อชกกับนายเมธี อมรวุฒิกุล 2. เคลียร์เรื่องเงินบริจาค 68 ล้านบาท 3. กลับไปดูแลการ์ด นปช.ที่ถูกดูแลทอดทิ้ง และ 4. เตรียมหลักฐานสู้คดี"

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เสนอแนวทางรัฐบาลเพื่อประชาชน ว่า แท้จริงเป็นเพียงการเล่นถ้อยคำใหม่ เพราะรูปแบบก็คือรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งสังคมไม่ยอมรับจึงต้องเปลี่ยนชื่อ ตนมองว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นการเพ้อฝันของ 2 ผู้เฒ่า  คือนายเสนาะ และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการขายฝันของตัวเอง ที่ถูกโดดเดี่ยว จึงออกมาเสนอเรื่องดังกล่าว โดยเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเพราะยังต้องเกณฑ์ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปให้กำลังใจนายเสนาะในการหารือเรื่องคงวามปรองดอง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์