มาร์คยันไม่แทรกแซงค่าเงินบาทหวั่นฝืนตลาดอ้างญี่ปุ่นทำแล้วล้มเหลว


เมื่อเวลา 13.15 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แทรกแซงค่าเงินบบาท และให้มีการลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่า ว่า

ได้ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไปแล้ว ทั้งนี้ในส่วนที่จะมีการพิจารณาครั้งต่อไปจะนำประเด็นนี้มาอยู่ในการตัดสินใจของเขาอยู่แล้ว  เพราะเดิมทีทุกคนบอกว่าทิศทางดอกเบี้ยต้องปรับขึ้นชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาเห็นว่าเขาค่อนข้างที่จะชะลอการดำเนินการอยู่ ฉะนั้นเขาคงคำนึงถึงตรงนี้อยู่แล้ว สมมุติว่าไม่มีเรื่องค่าเงินตนเชื่อว่าป่านนี้ดอกเบี้ยก็ต้องขึ้นสูงกว่านี้ จึงอยู่ในการพิจารณาของธปท.อยู่แล้ว ที่จะคำนึงถึงตรงนี้อย่างต่อเนื่อง


"ธปท.ค่อนข้างเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในทางที่จะลดลง คงไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ นั่น คือ ความรู้สึกของธปท.ที่ผมสอบถามไป อย่างไรก็ตามจะมีการพิจารณาในเรื่องนี้อีกครั้ง คงไม่ใช่เป็นการทบทวนเพียงแต่ว่าเดิมเขาจะค่อยๆขยับดอกเบี้ยขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ แต่เมื่อมีประเด็นเรื่องของค่าเงินที่เคลื่อนไหวอย่างนี้ ธปท.ก็จะระมัดระวังมากขึ้นและต้องติดตามสถานการณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งประกอบการตัดสินใจของกนง." นายอภิสิทธิ์ กล่าว


 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า

ส่วนการเสนอให้เข้าแทรกแซงนั้น ต้องถามว่าแทรกแซงในรูปแบบไหน ต้องคำนึงว่าทำได้แค่ไหน  ทั้งนี้นายกรณ์ จาติกวณิชย์ รมว.คลัง ระบุชัดเจนว่าบางประเทศใช้เงินมหาศาลแทรกแซง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถฝืนตลาดได้ ส่วนที่ว่าหากถ้าประเทศไทยแทรกแซงเช่นนั้นจะซ้ำรอยวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 หรือไม่นั้น ก็ไม่ซ้ำทีเดียวเพราะคนละทางกัน เนื่องจากวิกฤตครั้งนั้นเป็นการแทรกแซงเพื่อไม่ให้เงินตก พูดง่ายๆก็คือว่าเราก็จะเสีย ธปท.ก็จะขาดทุนมากขึ้นโดยอาจจะไม่สามารถหยุดยั้งการแข็งตัวได้

"ประเทศญี่ปุ่นเองก็ยอมรับว่าแทรกแซงก็ทำได้อย่างมากก็เพียงแค่ไม่ให้มันเคลื่อนไหวเร็วเกินไป แต่ไม่สามารถไปฝืนทิศทางได้ คงไม่คุ้มหรอกครับถ้าทำแบบนั้น ถ้าเกิดการขาดทุนแล้วเงินสำรองกระทบมากขนาดนั้นผมก็มองว่าไม่คุ้มอยู่แล้ว แต่ว่าแบงค์ชาติเขาก็ระมัดระวังอยู่ ผมอยากให้ดูกรณีของหลายๆประเทศที่พยายามเข้าไปแทรกแซง ซึ่งยังไม่พบว่าประเทศไหนจะประสบความสำเร็จ เพราะปัญหาพื้นฐานขณะนี้มันอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ค่าเงินดอลลาร์มากกว่า" นายอภิสิทธิ์ กล่าว 


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์