คตส.ฟันอาญาพจมาน-พี่ชาย

"สมคบกันเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี"


เมื่อวันที่ 21 พ.ย. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะอนุกรรมการฯเตรียมเสนอต่อที่ประชุม คตส. วันที่ 27 พ.ย. เพื่อตั้งคณะกรรมการไต่สวนกรณีที่นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ หลีกเลี่ยงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการซื้อขายหุ้นบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2540 จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท จาก น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ครอบครัวชินวัตร

ที่ถือหุ้นแทนคุณหญิงพจมาน ชินวัตรว่า หากมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน จะมีบุคคลที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาได้ชัดเจน คือคุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ และ น.ส.ดวงตา เนื่องจากผลการตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 คนสมคบกันเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี และแจ้งข้อความเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ส่วนกรณีนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ที่เป็นผู้จัดทำเอกสารต่างๆ และนายวันชัย หงษ์เหิน สามีนางกาญจนาภา ในฐานะโบรกเกอร์ที่รับคำสั่งซื้อและขายหุ้นดังกล่าวนั้น คตส.จะตรวจสอบโดยละเอียดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าวหรือไม่

เดือน ธ.ค.สรุปคดีที่ดินย่านรัชดา


ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการซื้อที่ดินย่านรัชดาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ สัมภาษณ์ถึงกรณีการเชิญ 3 อดีตนายกรัฐมนตรีประกอบด้วยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์

นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาชี้แจงว่า ขณะนี้ล่าสุดนายชวนได้ติดต่อขอเลื่อนวันชี้แจงจากเดิมวันที่ 23 พ.ย. เป็นวันที่ 28 พ.ย. เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ ส่วน พล.อ.ชวลิต จะมาชี้แจงวันที่ 30 พ.ย. และนายบรรหาร จะมาชี้แจงวันที่ 7 ธ.ค. ทั้ง 3 คนนี้ถือเป็นพยานบุคคลสุดท้ายก่อนที่จะสรุปสำนวนคดีในกลางเดือน ธ.ค.นี้

บี้สอบเอาผิดคนออกหวยบนดิน


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายเทพพนม ศิริวิทยารักษ์ ประธานสมัชชาชาวนาภาคอีสาน และเครือข่ายประชาชนภาคอีสานพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ คตส.กรณีโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ของ สตง.ออกมารับหนังสือ โดยนายเทพพนมกล่าวว่า

ในฐานะที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียจากการซื้อหวย 2 ตัว 3 ตัวมาตลอด และ คตส.กำลังตรวจสอบเรื่องนี้ จึงได้มายื่นหนังสือให้ คตส.ตรวจสอบโครงการนี้จริงจัง เพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึง พล.ต.ท.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในขณะนั้น เพื่อทราบข้อเท็จจริงของโครงการ แต่ถูกปฏิเสธ ต่อมาได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษสำนักงานกองสลากต่อตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีต่อสำนักงานกองสลากฯและผู้เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.การพนัน แต่เรื่องเงียบไป

คตส.เร่งปิดเกมเชือดหวยบนดิน


ด้านนายอุดม เฟื่องฟุ้ง คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการออกสลากหวยบนดินเลขท้าย 2 และ 3 ตัว ให้สัมภาษณ์ว่า คณะอนุกรรมการฯได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานเลขาธิการครม. เพื่อขอเอกสารและบันทึกการรายงานการประชุม ครม. ที่มีมติเห็นชอบทำหวยบนดินเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2546 รวมทั้งเอกสารบันทึกการประชุมด้วย

เพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นคนเสนอโครงการ แต่ขณะนี้สำนักงานเลขาธิการครม.ยังไม่ส่งเอกสารดังกล่าวมา ทั้งที่ได้ทำหนังสือดังกล่าวไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ คตส. กล่าวว่า หากได้รับเอกสารจากสำนักงานเลขาธิการ ครม.มา ก็ยังไม่ สามารถบอกได้ว่า ครม.ต้องร่วมรับผิดหรือไม่ในเวลานั้น จะต้องตรวจสอบดูทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อน ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานจะสรุปผลได้

วราเทพ ลั่นแจงข้อสงสัยได้หมด


ทางด้านนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลังที่กำกับดูแลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ คตส.ได้ส่งหนังสือเชิญให้มาชี้แจงโครงการหวย 2 ตัว 3 ตัวว่า คตส.ได้ส่งหนังสือติดต่อให้ไปชี้แจงในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ ต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ก็ยินดีไปชี้แจง

และขณะนี้ได้ให้ทีมงานรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับหวยบนดินทั้งหมดเพื่อนำไปชี้แจง มั่นใจว่าจะชี้แจงได้ทุกข้อสงสัยของ คตส. ส่วนกรณีข้อสงสัยทำไมครม.ไม่ทำเรื่องนี้ไปถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนที่จะออกเป็นมติ ครม.นั้น เรื่องนี้ผ่านมาหลายปี จำรายละเอียดไม่ได้

ป.ป.ช.เชือดสรรพากร 24 พ.ย.


ทางด้านความเคลื่อนไหวของการตรวจสอบการทุจริตของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาตินั้น วันเดียวกัน น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ถึงการสรุปสำนวนคดีไต่สวนคดีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรในการหลีกเลี่ยงภาษีการโอนหุ้นบริษัท ชินคอร์เปอเรชั่น จำกัด มูลค่า 738 ล้านบาท

ระหว่างนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับ น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี ว่า มั่นใจว่า จะสามารถสรุปสำนวนไต่สวนคดีดังกล่าวได้ทันในวันที่ 24 พ.ย. เพราะขณะนี้ได้ข้อมูลเกือบครบ 100% แล้ว หลังจากที่นายศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร เข้ามาให้ปากคำเป็นคนสุดท้ายไปแล้ว คาดว่าจะสามารถนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาลงมติได้ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรถูกกล่าวหาประมาณ 6 คน ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการในสำนักกฎหมายที่มีหน้าที่วินิจฉัยเรื่องการเรียกเก็บภาษี โดยพบว่ามีระดับรองอธิบดีเป็นผู้สั่งการในสำนักกฎหมาย

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.กล่าวว่า น.ส.สมลักษณ์แจ้งต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ว่า จะสรุปสำนวนคดีการโอนหุ้นชินคอร์ปฯได้ทันในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เพราะไม่มีข้อมูลอะไรที่ต้องสอบเพิ่มเติมอีกแล้ว โดยข้อมูลขณะนี้มีเพียงพอที่จะเอาผิดเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่เกี่ยวข้องได้

ตั้งทีมสอบไล่บี้เอาผิด ทักษิณ


ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลในคณะรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ

ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็น บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) โดยมีนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเป็นการร้องเรียนจาก 3 ฝ่าย ได้แก่ 1. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และพวก มาร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) 2. นายวีระ สมความคิด 3. เจ้าหน้าที่ กฟผ. ในฐานะผู้เสียหายมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.

ระบุทำผิด กม.มาตรา 157


นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เป็นกรณีการร้องเรียนกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกเลิก เพิกถอนพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดอำนาจ สิทธิประโยชน์ของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2548

และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.2548 ซึ่งผู้ร้องชี้ให้เห็นว่า คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดนั้น วินิจฉัยว่าการกระทำของ พ.ต.ท. ทักษิณและคณะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการ โดยเห็นว่าเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งจะมีการเสนอเรื่องให้นายปานเทพ เซ็นคำสั่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อดำเนินการไต่สวนต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์