“มาร์ค”ตั้ง“ประยุทธ์”หน.ผู้รับผิดชอบฯฉุกเฉิน

ศอฉ. เผย “อภิสิทธิ์” เซ็นตั้ง “ประยุทธ์” หน.ผู้รับผิดชอบสถานการณ์แล้ว โยนรัฐบาลตัดสินใจตั้งใครแทน “สุเทพ” หลังลาออก 8 ต.ค.นี้ เผย สั่งห้าม “พันธมิตร” ชุมนุมลานพระบรมรูปทรงม้า เพราะอาจหมิ่นเหม่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบข้อมูลเดือน ต.ค.มีเหตุสร้างสถานการณ์ ด้าน “ผบ.ทบ.” สั่งรปภ.เข้ม “บุคคล-สถานที่-คลังอาวุธ”

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้เป็นประธานการประชุม ศอฉ. โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

 หลังจากนั้น พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวถึงการปรับโครงสร้าง ศอฉ. โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินท่านใหม่แล้ว คือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบโดยตำแหน่ง ส่วนนายสุเทพ ยังเป็น ผอ.ศอฉ.จนกว่าจะลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 8 ตุลาคม 2553 ส่วนนายสุเทพ ลาออกไปจะตั้งใครก็แล้วแต่รัฐบาล นอกจากนี้ นายสุเทพ ได้เล่าในที่ประชุมว่า รัฐบาลมีการหารือถึงการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯบางจังหวัด ส่วนรายละเอียดนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้แถลง ส่วน ศอฉ.ได้เสนอมุมมองของฝ่ายมั่นคง หากบอกไปแล้วรัฐบาลไม่ตกลงใจจะเป็นการกดดันรัฐบาล ดังนั้น ให้รอฟังนายกฯเป็นผู้แถลงดีกว่า เบื้องต้น ศอฉ.เสนอให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเบื้องต้น 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เคยพูดว่า การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในกรุงเทพฯ น่าจะเป็นจังหวัดสุดท้าย เพราะเป็นสถานที่ละเอียดอ่อน

 เมื่อถามว่า การลาออกของ นายสุเทพ ในช่วงรอยต่อการดูแลสถานการณ์ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มีการหารือ แต่ขอไม่ลงรายละเอียด เพราะเรื่องการแต่งตั้ง ผอ.ศอฉ. เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีว่าต้องการแต่งตั้งใคร และมอบหมายให้ใคร แต่วันนี้นายสุเทพ ยังรับภารกิจเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ ทั้งนี้ นายกฯมีภารกิจที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ โดยจะกลับมาก่อนวันที่ 8 ตุลาคม ที่นายสุเทพจะลาออก จึงเป็นความต่อเนื่องในการดำเนินการ ส่วนวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ที่นายสุเทพ ระบุจะลาออก ก็ต้องเป็นหน้าที่ของนายกฯที่จะตั้งผู้ใดแทน

 เมื่อถามถึงการวิเคราะห์ระเบิดรายวัน พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มองได้หลายมุม บางคนมองว่าทำไมมีเหตุการณ์แบบนี้ มีกลุ่มสร้างความวุ่นวายพยายามไม่ให้เกิดความสงบ อีกมุมถ้ามองในแง่ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารมีมาตรการต่างๆในเรื่องการกวดขันดูแล ระบบมาตรการรักษาความปลอดภัย ของหน่วยงานราชการ การตั้งจุดตรวจเฝ้าระวัง สายตรวจร่วม จักยานยนต์เคลื่อนที่เร็ว ชุดตรวจสอบวัตถุระเบิดโดยเฉพาะของกองทัพ เราย้ายออกจากที่ตั้งกรมสรรพาวุธไปอยู่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ มาตรการเหล่านี้ทำให้ผู้ที่ครอบครองอาวุธสงครามที่ผิดกฎหมายก็เกรงกลัวความผิด เริ่มเอาออกมาอยู่ในจุดที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้ ดังนั้นจึงมองได้ 2 มุม อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆสามารถดูแลได้

 “รองนายกฯและ ผบ.ทบ. ได้กำชับในที่ประชุม ศอฉ. ช่วงเดือนตุลาคม มีข้อมูลข่าวสารระบุ มีความเป็นไปได้ที่มีความพยายามสร้างสถานการณ์เหมือนเดิม ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลความรักษาความปลอดภัยสถานที่และตัวบุคคล” พ.อ.สรเสริญ กล่าว

 เมื่อถามถึงการขู่วางระเบิดโรงพยาบาลศิริราช มีการวางมาตรการอย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยถือว่าดีที่สุดอยู่แล้ว เมื่อถามถึงวันที่ 7 ตุลาคมที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศชุมนุม ในขณะที่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า สมัยตอนเสื้อแดงชุมนุมก็ไม่ได้ขออนุญาตแต่ได้มีการตรวจสอบหระว่างเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับแกนนำ เราก็แจ้งไปว่าชุมนุมไม่ได้ เพราะผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินเดี๋ยวจะเป็นข้ออ้างกับสีอื่นฝ่ายอื่น

 “ไม่ว่าเป็นกลุ่มใดก็แล้วแต่ยึดมาตรฐานเดียวกัน เท่าที่ทราบขณะนี้ได้ทำหนังสือขอชุมนุมมาแล้ว โดยมีเนื้อหาร้องขอตั้งพิธีขนาดเล็กเพื่อขอทำพิธีสงฆ์ และใช้เครื่องขยายเสียงบ้าง โดยขอใช้สถานที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 โดยนายสุเทพ ได้มอบหมายให้เลขา สมช.ทำหนังสือแจ้งกลับไป ว่าสถานที่สาธารณะลานพระบรมรูปฯ ไม่เหมาะสม หมิ่นเหม่ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน การจัดกิจกรรมเวทีปราศรัยไม่ได้ ใช้เครื่องขยายเสียงไม่ได้ ถ้าจะมีเครื่องขยายเสียงก็ให้ใช้โทรโข่งขนาดเล็ก ทั้งนี้ วันนี้สังคมเรียกร้องไม่อยากมีการเคลื่อนไวของทุกฝ่าย แต่ถ้าจะจัดกิจกรรมก็ไม่เป็นไร แต่ขอไปใช้สถานที่ปิดจะเหมาะสมกว่า เช่น หอประชุม” พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

 พ.อ.สรรเสริญ กล่าวถึงในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ พูดในที่ประชุมศอฉ. ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยอาวุธยุทโธปกรณ์ได้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และยืนยันระบบที่มีถือว่าดีรัดกุม แต่ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นส่งผลให้อาวุธสูญหายเป็นเรื่องตัวบุคคล โดย ผบ.ทบ.ได้สั่งการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และต้องมีการดับเบิลเช็คและตรวจสอบสายงานต่างๆ รวมถึงคลังอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้มีการตรวจสอบมากกว่าเดิม ส่วนเจ้าหน้าที่ลูกจ้างประจำหรือข้าราชการที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการทำประวัติอย่างละเอียด ดังนั้น ก็ให้ความมั่นใจกับทุกฝ่ายเราพยายามทำอย่างดีที่สุด

 ขณะที่ พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอานาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า การใช้สถานที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 ในการกิจกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ จะต้องขออนุญาตที่สำนักพระราชวัง ไม่ใช่อำนาจหรือสิทธิของกรุงเทพมหานคร ที่จะอนุญาตใครให้ใช้พื้นที่ลานพระบรมรูปฯ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์