สุทัศน์ ปัดทาบ ม.ล.ประทีปเป็นพยานช่วย ปชป. ยันเป็นหมายเรียกศาล รธน.

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 กันยายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน

และในฐานะทีมกฎหมายและผู้ว่าคดีต่อสู้คดียบุพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อกรณีการต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการกระทำดังกล่าวพรรคเพื่อไทยไม่ใช่ผู้ถูกร้องและร้องสอบ ตามมารยาทเขาไม่กระทำกัน เพราะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วก็สามารถวิจารณ์ได้แต่เป็นไปในทางด้านวิชาการ


นายสุทัศน์ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยพยายามพูดเพื่อกดดันการทำหน้าที่ของศาลหลายครั้ง ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา

นายจตุพรได้พูดกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเคยใช้ได้ผลแล้วตอนไปกดดันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จนกกต.ต้องยื่นเรื่องต่อศาลรัฐะรรมนูญเอาผิดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนมั่นใจในศาลรัฐธรรมนูญ ตามสุภาษิตของตุลาการว่า "จะธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม แม้ฟ้าจะถล่มทลายก็ตาม" และเชื่อว่าแม้มีการกดดันอย่างไร ก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดของตุลาการได้ และไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมยอมรับ ซึ่งต่างจากนายจาตุรนต์ ที่เคยบอกว่าพร้อมยอมรับการตัดสินของศาล แต่เมื่อผลออกมาตรงข้ามก็วิจารณ์ศาล ซึ่งแนวทางการต่อสู้คดีของพรรคนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และหัวหน้าคณะทำงานต่อสู้คดียุบพรรค พูดเสมอว่า ต้องสู้ด้วยข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง ตรงไปตรงมา  ส่วนกรณีที่มีสื่อรายงานว่า ตนเป็นผู้ประสานม.ล.ประทีป จรูญโรจน์ ที่ปรึกษากกต. มาเป็นพยานในการต่อสู้คดีนั้น ตนขอยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้ติดต่อ แต่เป็นคำสั่งศาลให้มาเป็นพยาน ทั้งนี้ตนยอมรับว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับม.ล.ประทีป แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องการประสานม.ล.ประทีปให้มาเป็นพยาน 


ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา และหนึ่งในคณะทำงานด้านกฎหมายต่อสู่คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า

ขณะนี้มีความพยายามกดดันกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละวันจะมี นายพร้อมพงศ์ นายจาตุรนต์ นายปลอดประสพ และนายจตุพรโดยมีความไม่ชอบมาพาลกตั้งแต่ในชั้นกระบวนการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และในชั้นกกต.แล้ว ที่สำคัญนายจตุพรออกมาบอกว่าหากไม่ยุบพรคประชาธิปัตย์จะมีการเปิดคลิป ซึ่งตนไม่ทราบว่านายจตุพรมีคลิปจริงหรือไม่ แต่ถือว่าเป็นกระบวนการอุบาทว์ ที่กดดันกระบวนการยุติธรรมอย่างน่าละอายมาก โดยต้องการบีบตุลาการเพราะไม่สามารถซื้อได้ด้วยถุงขนม จึงต้องเล่นสกปรก  แม้กระทั่งพูดถึงเรื่องรังสีอำมหิตไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหากพรรคมีรังสีอำมหิต มีบารมีจริงก็คงจะไม่ปล่อยให้คดีไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ แต่ทุกวันนี้พรรคต้องมาทำงานหนัก และต้องขึ้นศาลรัฐธรรมนูญจนถึงขณะนี้


“การกระทำดังกล่าวของนายจตุพรถือว่าเป็นการจินตนการ นอนแล้วฝันพอตื่นขึ้นมาก็เอาไปแถลงข่าว ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าพรรคไม่มีความผิด เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด และผมขอประนามการกระทำของนายจตุพร และอยากให้นายจตุพรกลับตัวกลับใจมาชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ สนับสนุนแนวทางที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป”นายวิรัตน์ กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์