เสธ.หนั่นยันไม่มีวาระซ่อนเร้น ต้องการเห็นปรองดอง

"เสธ.หนั่น" ยันไม่มีนัยยะซ่อนเร้น ต้องการเห็นปรองดอง ยันไม่เคยคิดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติเพราะถือว่าเผด็จการ...

เมื่อ วันที่ 23 ก.ย. ที่รัฐสภา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินสายพบแกนนำหลายฝ่ายเพื่อความปรองดองว่า

เมื่อได้พูดคุยกันก็เข้าใจกันมากขึ้นดีกว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลย และไม่เข้าใจว่าฝ่ายไหนต้องการอย่างไรซึ่งตนก็ต้องเดินต่อไป โดยคิวต่อไปที่ตนจะ ไปพบคือพรรคเพื่อไทย ส่วนการพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้นยังอีกนานคนสำคัญก็ต้องเอาไว้ที่หลัง คงต้องให้การพบกับทุกฝ่ายในประเทศในจบ และเข้าใจกันก่อนอย่างไรก็ตามเมื่อได้ข้อมูลครบแล้ว ต่อไปตนก็จะเชิญทุกฝ่ายมาพบกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การพบกันสามารถพบได้แต่เป็นเรื่องปลายเหตุที่จะทำให้เกิดความปรองดอง

โดยเฉพาะเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนต้องการให้เกิดความปรองดองกันเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพราะในระบอบประชาธิปไตยต้องมี ฝ่ายค้าน และรัฐบาล ไม่เช่นนั้นจะเป็นเผด็จการเพียงแต่จะให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันและหันหน้ามาอภัย ซึ่งกัน และกันก้าวข้ามความขัดแย้งที่ผ่านมาให้ได้ และจะนำประเทศไปสู่ความเจริญได้อย่างไร เมื่อถามว่า ดูเหมือน พล.ต.สนั่น จะเป็นคนกลางในการดำเนินการเรื่องนี้พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นคนกลางอะไรแต่ก็พยายามติดต่อแต่ละฝ่ายที่มีความขัดแย้งกันให้ได้ มาพบปะพูดจากันโดยไม่มีเงื่อนไขอะไร ทั้งนี้ยืนยันว่า สิ่งที่ตนทำ ไม่มีนัยยะอะไรทั้งสิ้นคิดว่าเล่นการเมืองมา 30 ปีแล้ว ก็น่าจะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองบ้างในฐานะที่เราไม่ได้ขัดแย้งกันใครเลยก็ พยายามทำให้สังคมเรียบร้อยขึ้น

เมื่อถามว่า ตั้งเป้าไว้หรือไม่ว่าอยากให้หลายฝ่ายมากเจอกันเมื่อไหร่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เดี๋ยวก็คงมีแนวร่วมที่จะช่วยกันทำ

ตอนนี้ตนคิดว่าประชาชนเบื่อแล้วเรื่องการทะเลาะวิวาทกันดังนั้นเราจะทำ อย่างไรให้ทุกฝ่าย หันหน้ามาคุยกันได้เพราะถ้าคุยกันได้มันก็จะดีขึ้น ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่าถูกวางตัวเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปพล.ต.สนั่น กล่าวปฏิเสธว่า ไม่เป็น บอกได้เลยว่าไม่ได้ใฝ่ฝันที่จะเป็นนายกฯไม่ได้คิดที่จะทำเพื่อตัวเอง คนที่อยู่ ในที่มืดก็ต้องพูดจากันด้วยเมื่อถามย้ำว่าเสียกำลังใจหรือไม่ เมื่อทำเพื่อบ้านเมือง แต่กลับถูกมองว่ามีนัยยะแอบแฝงพล.ต.สนั่นกล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นธรรมดา แต่ที่สุดก็จะรู้เอง

เมื่อถามว่า ต้องการอะไรมากที่สุดจากผลการหารือครั้งนี้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ต้องการให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจส่วนจะกี่เปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จนั้น

ตนคิดว่าเมื่อคนเบื่อความแตกแยกก็ต้องมีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จ ไม่เช่นนั้นตนก็คงไม่เดิน เมื่อถามว่า ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าคู่กรณีสูงสุด คือ พล.อ.เปรมติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อย่างนี้ต้องไปคุยกับพล.อ.เปรมหรือไม่พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ตนคงไม่ก้าวล่วงไปขนาดนั้น เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคชาติไทยพัฒนาเห็นด้วยกับพรรคภูมิใจไทย ในกฎหมายนิรโทษกรรม พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ถือเป็นมติพรรค และตนก็ต้องปฏิบัติตามพรรคไปแต่สิ่งที่ตนทำขณะนี้ ทำเรื่องปรองดองไม่เกี่ยวนิรโทษกรรม ส่วนที่มองว่าพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนากำลังโดดเดี่ยวพรรคประชาธิปัตย์นั้นถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะสิ่งที่ตนทำ ตนทำคนเดียว.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์