เข็นป็อกคุม หวั่นป่วน ตร.3พันรับมือ

ศอฉ.ตั้งวอร์รูมจับตาแดงชุมนุม มอบ “อนุพงษ์”ผบ.เหตุการณ์ คาดแดงมาเต็มที่แค่พันคน ตร.ไม่ประมาทระดม 3 พันนายคุมเข้ม ศอฉ.ประกาศห้ามแดงใช้เครื่องขยายเสียง เชื่อแดงไม่รุนแรง ขอบคุณแดงวางดอกไม้เรือนจำสงบ

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.)พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)แถลงภายหลัง ศอฉ.ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ในวันที่ 17 - 19 ก.ย.ว่า ที่ประชุมได้เตรียมรับสถานการณ์ในช่วงวันที่ 17-19 ก.ย. ซึ่งทางฝ่ายข่าวได้ชี้แจงข้อมูลถึงกรณีที่กลุ่ม นปช.ไปวางดอกไม้บริเวณพื้นที่เรือนจำของ กทม.และต่างจังหวัด เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ศอฉ.ต้องขอขอบคุณผู้ที่มาร่วมกิจกรรม และไม่ทำให้เกิดความสับสน และรุนแรง ส่วนการติดตามสถานการณ์ในวันที่ 18-19 ก.ย.ทาง บก.ศอฉ.ได้เปิดเป็น บก.ติดตามสถานการณ์ โดยผบ.ทบ.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ทั้งนี้ในพื้นที่กทม. และเชียงใหม่ได้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อพร้อมปฎิบัติภารกิจ หากมีสถานการณ์เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงว่า มีการจัดเจ้าหน้าที่ โดยการเน้นการตั้งจุดตรวจ สายตรวจ มีความพร้อมที่จะรับสถานการณ์ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้ง บก.ศอฉ.เพราะเกรงว่า จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดเป็นข้อกังวล แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีความประสงค์ดี แต่มีข่าวสารส่วนหนึ่ง มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามฉกฉวยสถานการณ์ จึงเตรียมป้องกันเอาไว้ ซึ่งการตั้ง บก.ศอฉ. จะครอบคลุมไปถึงจังหวัดที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนจังหวัดอื่นๆเป็นหน้าที่ของ กอ.รมน.ภาค ซึ่งจะมีการติดต่อประสานข้อมูลกัน ส่วนข่าวอาวุธได้สูญหายจากค่ายทหารที่ จ.ลพบุรี ตนได้พยายามตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่พบข้อมูลเรื่องนี้ ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้ให้หน่วยทหารทุกหน่วยที่มีคลังอาวุธดำเนินการตรวจสอบ เพราะมีระเบียบหลักเกณฑ์การรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์อยู่แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานกับแกนนำ ให้มีการปฏิบัติให้อยู่ในกรอบและพื้นที่ที่กำหนด ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เตรียมพร้อมในขณะนี้มีจำนวน 6 กองร้อย หรือ 3000 นาย อย่างไรก็ตามประเมิน จะมีผู้มาร่วมชุมนุมกว่า1,000 คน ในวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งมีความกังวลถึงกลุ่มที่มีความคิดต้องการความรุนแรง ไม่อยากให้สถานการณ์จบลงง่ายๆซึ่งมีบางส่วน อยากสร้างปัญหา ก็ไม่อยากให้เกิด กลุ่มพวกนี้ที่เคยทำแล้วหนีไปยังมีความคิดที่จะทำอะไรต่ออีกหรือไม่ ซึ่งเราต้องคอยเฝ้าระวัง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว พ.อ.สรรเสริญ ได้แจกประกาศศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือมั่วสุม ฉบับที่ 2 ระบุว่า ตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี นครราชสีมา ขอนแก่น และอุดรธานี มีความจำเป็นต้องกำหนดลักษณะ การกระทำที่ต้องห้ามหรือในการชุมนุมมั่วสุม เว้นเพิ่มเติมจากที่ได้ประกาศศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เรื่องมิให้การชุมนุมหรือมั่วสุม วันที่ 8 เม.ย.ไปแล้ว

เพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติได้โดยเร็ว และป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามข้อ 1 แห่งข้อกำหนด ออกตามความในมาตราข้อที่ 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงออกประกาศดังนี้ 

1.ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้เป็น(5)ของข้อ 1 แห่งประกาศศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เรื่องมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุม วันที่ 8 เม.ย “(5)โดยใช้เครื่องขยายเสียง หรือใช้เวทีติดตั้งเครื่องขยายเสียง หรือใช้ยานพาหนะติดตั้งเครื่องขยายเสียง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 
2.ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สัญญาบัต รหรือเทียบเท่า เป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้ และ 3.ประกาศนี้มีผลบังคับใช้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 16 ก.ย. โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์