บึ้ม!! บ้านป๋า ฉายเงาทรราช บ้านเมืองหวนสู่กลียุค

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2549 16:50 น.

แผ่นดินกำลังลุกเป็นไฟ!! หลังเกิดเหตุระเบิดวชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นเขตพระราชฐาน และป้อมยามหน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หาใช่เรื่องสร้างสถานการณ์ธรรมดาไม่ แต่มีความพยามยามจาบจ้วงผู้แทนพระองค์ฯและดึงสถาบันเบื้องสูง มาต่อรองเกมการเมือง แต่หากรัฐบาลจะสบช่อง ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อกำหราบ กลุ่มผู้ชุมนุมไล่ทักษิณ บ้านเมืองก็จะหวนคืนสู่กลียุค อย่างเช่นการประกาศภาวะฉุกเฉินในยุค รสช.เมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา

เหตุคนร้ายปาประทัดยักษ์ เข้าไปภายในรั้ววชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งเป็นบ้านพักของ ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช ผู้บังคับการวชิราวุธฯ จำนวน 3 จุดใกล้กับกำแพง, โรงจอดรถหลวง และบริเวณประตูอัศวพาหุ ด้านถนนพิชัย รวมทั้งพบกล่องบรรจุมูลสัตว์จำนวน 1 ถุง และมีกระดาษขนาดเอ 4 เขียนด้วยปากกาเมจิกสีดำ ข้อความว่า ไอ้ปิ๋ง อย่าใช้สถาบันวชิราวุธ มาทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย จากพวกกู กลุ่มโอวี เมื่อคืนวาน (9 มี.ค.)

รัฐบาลประกาศเปรี้ยงทันทีว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ เพียงเพื่อต้องการทำลายความน่าเชื่อรัฐบาล โดยพุ่งประเด็นว่า เป็นเรื่องดิสเครดิตชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวด้านงานความมั่นคง หรือเพื่อสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง

ไอ้โม่ง...ตัวการใหญ่ ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุการปาประทัดยักษ์ เข้าใส่ ร.ร.วชิราวุธฯ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน และยังอยู่ในเส้นทางที่มีขบวนเสด็จผ่าน หาใช่เป็นเรื่องการสร้างสถานการณ์ธรรมดา ด้วยเหตุผลที่รัฐบาลกล่าวอ้างในข้างต้น ถือเป็นอีกหนึ่งปาหี่ ที่รัฐบาลสรุปเหตุการณ์ที่ไร้ความรับผิดชอบ ในที่สุดก็หาตัวคนผิดไม่ได้ เช่นเดียวกับกรณี ปราระเบิดที่ทำจากพลาสติกใส่บริเวณสวนหย่อมริมรั้วบ้านพระอาทิตย์ เลขที่ 102/1 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. ที่ตั้งของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 4 พ.ย. 48

2 ธ.ค.48 ชายฉกรรจ์ 5 คน บุกเข้าล็อคตัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แล้วปาอุจจาระรวม 13 ถุง ใส่ป้อมยาม ประตู-หน้าต่างอาคารสำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

8 ธ.ค. 48 มือมืดปาระเบิดใส่ตู้โทรศัพท์ ริมรั้วสวนลุมพินี สถานที่จัดรายการเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร

1 ม.ค. 49 ชายฉกรรจ์บุกปาอุจจาระใส่ริมรั้วสวนลุมพินี ด้านอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6

20 ม.ค. 49 ชายฉกรรจ์จุดประทัดก่อกวนระหว่างการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร

และ22 ก.พ.49 มือมืดวางระเบิดใต้ม้านั่งซีเมนต์บริเวณสวนหย่อมของสันติอโศก หลัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ หลังประกาศนำกลุ่มสันติอโศกเข้าร่วมชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างการใช้วัตถุคล้ายระเบิด เช่น ประทัด หรือปาอุจจาระ โดยมือมืด ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมืองหลวง แม้จะต่างวาระต่างเวลา โดยที่รัฐบาลนี้มักจะอ้างว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ และไม่เคยสนใจติดตามคดี

ขณะที่การปาประทัดใส่บ้านพักของนายชัยอนันต์ สมุทวณิช ใส่ ร.ร.วชิราวุธฯ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน ย่อมต่างจากการปาประทัดเข้าใส่สวนลุมพินี หรือสำนักสันติอโศก อย่างแน่นอน

เพราะเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในเขตพระราชฐาน ถือเป็นเรื่องจงใจที่หวังผลมากกว่าการสร้างสถานการณ์ ทั้งนี้ เพราะนายชัยอนันต์เป็นผู้ร่างฎีกาถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานรัฐบาลชั่วคราว ถือเป็นการประกาศเจตนารมย์ชัดเจน เช่นเดียวกับ ปรากฏการณ์สนธิและมหาจำลอง หลังตั้งตนเป็นปรปักษ์เพื่อขับไล่ทักษิณ ก่อนหน้านี้

บ้านเมืองเข้าขั้นกลียุค เพราะในช่วงบ่ายก่อนหน้านี้เกิดเหตุระเบิดบริเวณทางเท้า ข้างตู้ยามหัวมุมรั้วบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในฐานะเป็นผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โดยจุดที่คนร้ายเลือกปฏิบัติ ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์มีความมั่นคงสูงสุด และอยู่เยื้องกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงถือเป็นการท้าทายอำนาจและมีความพยายามดึงสถาบันเบื้องสูงลงมาเกี่ยวข้องเรื่องการเมือง

จากการวิเคราะห์ของหน่วยข่าว พบว่า เวลาที่ตั้งไว้นั้นเจตนาให้ตรงกับช่วงที่ พล.อ.เปรมอยู่บ้านและกำลังเตรียมออกจากบ้านเพื่อไปออกรอบตีกอล์ฟในเวลา 14.20 น. โดยเชื่อว่าเป็นการข่มขู่ พล.อ.เปรม โดยมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุได้มีการจัดประชุมองคมนตรีขึ้น อาจจะมีใครที่รู้เรื่องของการหารือในที่ประชุมจึงอยากที่จะแสดงกำลังให้ได้เห็น เป็นไปในรูปแบบที่จะอ้างเหตุในการประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้น นับเป็นการจาบจ้วงรัฐบุรุษเป็นครั้งที่สอง หลังจากมีการปล่อยปละให้มีการจาบจ้วงผ่านทางรายการโทรทัศน์

แม้ว่าการลอบวางระเบิดจะไม่ประสงค์ต่อชีวิตแต่ป๋าเปรม ซึ่งถือเป็นประธานองคมนตรี มีฐานะเป็นผู้แทนพระองค์ในหลายกิจการ เป็นหลักชัยของบ้านเมือง และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ไม่ว่าจะเกิดจากฝีมือของฝ่ายใด ถือว่ามีความพยามยามดึงสถาบันเบื้องสูง มาต่อรองเกมทางการเมือง ซึ่งถือว่าโง่..เลวบัดซบยิ่ง

พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป อดีตเสนาธิการทหารบก และนายทหารคนใกล้ชิด พล.อ.เปรม กล่าวเตือนสติกลุ่มผู้กระทำว่า อย่าทดสอบพลังกับบุคคลที่ไม่ควรทดสอบ และอย่าท้าทายอำนาจกับบุคคลที่ไม่ควรจะท้าทาย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่อยากให้วุ่นวายต้องรู้ว่าอะไรคืออะไร เช่นเดียวกับการตั้งข้อสังเกตุว่า รัฐบาลกำลังอาศัยสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่เป็นปกติในยามนี้ เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อจัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านทักษิณ ทั่วทุกอณูของประเทศในยามนี้ แต่ขอให้พึงสังวรไว้ว่า หาก"ทักษิณ"ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อสยบกลุ่มผูชุมนุมกลางท้องสนามหลวง นอกจากจะถูกทั่วโลกประณาม ถึงพฤติกรรมอธรรม การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว จะพังพินาศแล้ว รัฐบาลทักษิณ จะถึงจุดกัลปาวสาน อย่างเช่น คณะรสช.ยุคพฤษภาทมิฬ ยังล้มครืนภายใน 3 วันหลังประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา