ทักษิณ พ่นกลางวง ขรก.อัดแก๊งสนามหลวงคนพาล - นอกกติกา

ทักษิณ พ่นกลางวง ขรก.อัดแก๊งสนามหลวงคนพาล - นอกกติกา

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2549 19:10 น.

ทักษิณ จับข้าราชการระดับสูงล้างสมอง อ้างให้ยึดความเป็นกลางดูแลเลือกตั้ง แต่ร่ายยาวเหตุผลเกาะเก้าอี้แน่น ดิสเครดิตพวกแก๊งก๊วนสนามหลวง บิ๊ก ขรก.ใจกล้าฮึดแนะทักษิณปรับปรุงตัวเอง ขณะที่อธิบดีกรมวิชาการเกษตรประจานกลางงานเคยเสนอทางออกให้เข้าเฝ้าฯ คลี่คลายวิกฤตแต่หายจ้อย ด้านพ่อเมืองสุโขทัย เชลียร์ออกนอกหน้า

วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญคณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือนระดับสูง ตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ 76 จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการจำนวน 480 คน มาประชุมหารือ แนวทางการปฏิบัติราชการหลังยุบสภาผู้แทนราษฎร อนึ่ง นายกฯ ใช้เวลาชี้แจงครั้งนี้นานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เมื่อมีสถานการณ์การเมืองเกิดขึ้น ต้องย้อนไปที่ตั้งแต่สวนลุมฯ คือความที่เราให้เสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยในการแสดงความคิดเห็น แม้ว่าจะด่าจะอะไรเราก็ปล่อย ทีแรกไปเล่นงานตน เรื่องของสมเด็จพระสังฆราช เรื่องวัดพระแก้ว เมื่อตรงนั้นได้คำตอบก็ย้ายเรื่อง เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย สรุปแล้วเป็นความขัดแย้งของผลประโยชน์ที่ขอแล้วไม่ได้ และความเชื่อมโยงบุคคลในสภากับนอกสภามีมาอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งรวมกันมารอบทำเนียบ ในคืนวันหนึ่ง ถึงแม้สถาบันการเมืองจะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของบุคคล แต่เมื่อดูพฤติกรรมต่อเนื่องก็เห็นได้ชัด ตั้งแต่สวนลุมฯ มาลานพระบรมรูปฯ และมาสนามหลวง

เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าเวทีที่ถูกต้องในระบอบรัฐสภา ระบบประชาธิปไตยไม่ถูกนำมาใช้ รัฐบาลจะเปิดอภิปรายทั่วไปก็ไม่เห็นด้วย รัฐบาลจะทำอะไรก็ไม่เห็นด้วย ยังขาดคำเดียวว่าจะแก้รัฐธรรมนูญมาตราเดียว ห้ามทักษิณเล่นการเมือง เพราะฉะนั้นวันนี้จึงจำเป็นต้องยุบสภา เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ปวงชนเพื่อปวงชน เมื่อมีความขัดแย้งของสังคมทางความคิด ซึ่งมองโลกแง่ดี เป็นเรื่องความคิดเท่านั้น ไม่มองเรื่องผลประโยชน์ คือเอาชนะทางการเมือง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การสอบถามประชาชนเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ประชาชนจะบอกว่าเชื่อ ก็ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ไปฟ้องประชาชน ไปฟ้องเลย อันนี้ไม่ดี โลกาภิวัตน์ก็ไม่ดี ประเทศไทยควรปิดตัวเองได้แล้ว กางมุ้งครอบซะ อย่าไปทำอะไรให้ไปฟ้องประชาชนเลย ขณะเดียวกันคนที่บอกว่าโลกาภิวัตน์ดีก็ไปบอกประชาชน แล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ

ไม่ใช่ไปบอกว่าประชาชนรากหญ้าไม่ฉลาด เพราะฉะนั้น ผมจะตัดสินใจแทนประชาชน อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรม ตามระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นจึงกราบบังคมทูลขอให้พระกรุณายุบสภา เมื่อยุบสภาแล้วก็เป็นสิ่งที่ชอบ แต่ปรากฏว่าพอยุบสภาเสร็จก็ไม่พอใจ เกรงว่าเราจะได้เสียงประชาชนกลับเข้ามาอีกก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการมาตราเดียว เลยมีการเรียกร้องในเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งผมเข้าใจดี สไตล์คนตะวันตกชอบเจรจา โดยใช้ฮาร์ดคอร์ หมายถึงการเล่นลูกแรงสุด โยนคู่ต่อสู้ไปติดข้างฝา ข้อดีของฮาร์ดคอร์จะดีคู่ต่อสู้อ่อนแอกว่าก็จะยอมแพ้ แต่ส่วนที่เสียก็คือว่า ถ้าคู่ต่อสู้แข่งแรง ตัวเองจะม้วนกลับยาก ดังนั้น การเจรจาจึงเป็นอาร์ทคอร์ และเมื่อเรายืนนั่นแน่น ทำให้ม้วนกลับไป จึงเป็นที่มาของการบอยคอตไม่เลือกตั้ง นายกฯ กล่าว

รัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุไว้ว่า ถ้าพรรคการเมืองหนึ่งไม่ลงเลือกตั้งถือว่าไม่ผิดกติกา เพราะฉะนั้น วันนี้พยายามให้ทุกฝ่ายได้บรรลุแนวทางประชาชนตัดสินใจ อย่างเกรงกลัวอำนาจ อิทธิพล

นายกฯ กล่าวว่า ขอชี้แจงข้าราชการว่าช่วงนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของความขัดแย้งทางความคิด ของการเอาชนะ ข้าราชการอยู่รอดปลอดภัยที่สุด ก็ขอให้ยึดหลักกฎหมาย ยึดหลักรัฐธรรมนูญ ยึดกติกาในการเป็นข้าราชการที่ดีวางตัวเป็นกลางดีที่สุด

รักผมก็ไม่ต้องแสดงออก หรือเกลียดผมก็อย่าเพิ่งมั่นใจ นิ่งๆ ไว้ดีที่สุด ถือเป็นหลักที่ดี เป็นข้าราชการที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วงนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการปรับความคิดทางสังคม ของการปรับกระบวนการต่อสู้ทางการเมืองของพรรคการเมือง คือพรรคเมืองมันต้องบริหารจัดการที่ดี ถ้าหากขาดการบริหารจัดการที่ดี อยู่ไม่ได้ อยากเรียนเพื่อนข้าราชการว่า ให้เข้าใจประเด็นให้ครบถ้วนว่า จริงๆ แล้วถ้าท่านยึดหลักแน่นๆ ไม่มีปัญหา พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ได้ประกาศชัดเจน ข้อที่ 1 เมื่อเลือกตั้งเสร็จ สมมติว่าชนะ แต่บังเอิญว่าคะแนนที่ได้เกิดแพ้คะแนนที่งดออกเสียง หรือที่กาช่องไม่ลงคะแนนกับพรรคอื่นๆ เล็กๆ น้อยๆ มากกว่าคะแนนที่พรรคไทยรักไทยได้ ตนจะไม่เป็นนายกฯ อันนี้ชัดเจน เพราะตนเคารพการตัดสินใจ ถ้าสมมติว่าฝ่ายค้านฟ้องได้ดี ฝ่ายสนามหลวงสามารถฟ้องได้ดี แล้วประชาชนเชื่อ ตนถึงได้คะแนนน้อยก็ต้องยอมรับ นี้คือกติกาของประชาธิปไตย ข้อที่ 2 เมื่อมาแล้วจะปฏิรูปการเมืองทันที โดยการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 313 เพื่อนำไปสู่การตั้งคนกลางจำนวนหนึ่ง และคนกลางนี้จะไปออกกติกาเพื่อตั้งคนกลางอีกทีหนึ่ง ชุดใหญ่ในสภา เพื่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยเอาผลวิจัยของอธิการทั้งหลายมาเป็นต้นแบบ สถาบันพระปกเกล้า กรรมการที่เป็นกลางทั้งหลายที่ไม่มีส่วนได้เสียทางการเมืองก็นำไปเป็นหลัก

นายกฯ กล่าวว่า แม้แต่วันนี้กติกาวันนี้ ก็เป็นกติกาที่เขาไม่ได้ร่าง รวมทั้งกฎหมายลูกก็ไม่ได้ร่าง พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลที่ร่าง และผมได้ปฏิบัติตามกติกาที่เขาร่าง และผมก็ชนะมาแล้ว 2 ครั้งแล้วมาบอกว่ากติกานั้นใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นบอกว่าเดินตามกติกา ตามรัฐธรรมนูญ ตราบใดมีกติกาอยู่จะไม่หนีจากการไม่เคารพกติกา แต่ถ้าหากคนทั้งหมดเห็นว่า กติกาไม่ดีจะปรับปรุง แต่ตราบใดใช้อยู่ก็ต้องเคารพนั้นคือหลัก เพราะฉะนั้นตนก็พร้อมที่จะให้มีการแก้กติกา ถ้าหากไม่ดี ไม่ขัดขืนใดๆ ทั้งสิ้นและพยายามให้แก้กติกาเสร็จเรียบร้อยเร็วๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ปี บวกลบ 3 เดือน แล้วใช้กติกาใหม่ แล้วเชิญผู้บอตคอตวันนี้มาร่วมใช้กติกา ตนบอกกำหนดชัดเจน ไม่วอกแวก

วันนี้หลายคนถามผมว่า ทำไมไม่เสียสละ ถามว่าคนทำตามกติกาต้องเสียสละให้กับคนที่ไม่ทำตามกติกา และในสังคมจะมีคนเคารพไหม อย่างเช่นท่านขับรถต่อคิวตรงคอสะพาน มีคนขับแทรกเข้ามา หน้าตาทะมึงทื่อ ขับรถโกโรโกโส ท่านก็บอกว่าปล่อยมันไป เพราะฉะนั้นก็จะมีคนมาตัดตรงคอสะพานเป็นประจำ เพราะว่าเราสุภาพ เราจะยอมให้คนพาลไปก่อนคนพาลก็เลยได้ดีในสังคมนี้ ถ้าผมปล่อยตรงนี้อีกหน่อยใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีจะถูกแบล็กเมล์ ต่อไปถ้ากลุ่มนี้บอกว่า พูดไม่รู้เรื่องจะออกมาเดินขบวน ก็ขาสั่น เหมือนในอดีตที่เรามีรัฐบาลที่ไม่เข้มแข็ง มีพรรคเล็กพรรคน้อย มีมุ้ง 5 คน 7 คนต่อรอง มาพูดกับนายกฯ ขาสั่น เพราะกลัวจะถอนตัว เดี๋ยวรัฐบาลยุบ สิ่งเหล่านี้เราโดนมามากแล้ว เรากำลังจะเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ผมจะไม่ยอมให้ลูกใหม่เป็นอย่างนี้ ต้องรักษากติกาตรงนี้ไว้ ต้องเป็นไปตามครรลอง และจะไม่มีปัญหา เมื่อผมเป็นนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งประชาชนเลือกมา เป็นจำนวนมาก แล้วจู่ๆ มีคนเสียผลประโยชน์ คนที่โกรธอย่างต่อเนื่องมารวมตัวกัน แล้วยอมเอาประชาธิปไตยเข้าแรก กลับการที่ต้องการให้คนๆ หนึ่งพ้นจากการเมือง ผมเข้ามาถูกต้องหรือเปล่า ผมจึงต้องยืนตามหลักกติกาไว้ ไม่ได้ต้องการไปดื้อดึง หรืออยากติดอะไรเลย นายกฯ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ทุกวันต้องยอมรับว่าเหนื่อยมาก ถ้ามีคนที่สามารถทำงานแทนได้ และตนออกไปอย่างคนที่มีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ออกแบบคนไร้ความรับผิดชอบ ก็อยากพัก แต่จะออกจากพรรคโดยให้กติกาเสียหาย เพราะมีการกรรโชกกติกาแบบนี้ รับไม่ได้ เรียนตรงไปตรงมาเลยว่ารับไม่ได้ พร้อมออกโดยวิถีทางประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นถ้าวิถีทางประชาธิปไตยให้พ้น ก็ขอขอบคุณ เพราะอย่างน้อยผมได้รักษาระบบประชาธิปไตยเอาไว้ ประชาธิปไตยต้องไม่ถูกฉีกขาดบนมือ เพราะฉะนั้นจะรักษาประชาธิปไตยเอาไว้ จะไม่ยอมให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า มีเหตุการณ์อยู่แน่นอนตอนนี้ ความรุนแรง ผมขอประประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ผมไม่ต้องการเห็นความรุนแรงในสังคมนี้ คนที่พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น 3-4 ครั้งที่ผ่านมาอย่างน้อยก็ 3 ครั้งที่น่าจะเป็นฝีมือคนๆเดียวกัน อันนี้ก็ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องไว้หน้าใครทั้งสิ้น และไม่ต้องมาบอกผมว่าจะจับใคร ถ้ามันถูกต้องก็จับเลย ถูกตัว ดำเนินคดีเด็ดขาด ขอประณามอย่างรุนแรงผู้ที่ไปวางระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ ทั้งที่หน้าหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ หน้าสันติอโศก และหน้าบ้านพล.อ.เปรม ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ ผมอยากให้เหตุการณ์วันนี้จบโดยเร็ว แต่แน่นอน เราจะไม่ยอมยุติ ด้วยการเสียสละประชาธิปไตย เราจะไม่ยอมให้ประเทศถอยหลัง เพราะชีวิตและประเทศต้องเดินหน้าต่อไป

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ข้าราชการผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะก็ขอให้ทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด ยึดหลักกฎหมาย ความเป็นธรรม ความเป็นกลาง ทำหน้าที่ให้ดีและหากคนไม่ไหว ถูกใครมากดดัน เข้ามาขอพบได้ จะรอรักษาความเป็นธรรมและเป็นกลาง เพราะวันนี้ผมยังเชื่อมั่นและเคารพการตัดสินใจของประชาชน ถ้าประชาธิปไตยไม่ยึดประชาชน ไม่รู้จะมีประชาธิปไตยไว้ทำไม ก็จะเป็นประชาธิปตาย

นายกฯ กล่าวว่า มีคนที่จะพูดไม่ตรงตลอดเวลา เพื่อให้เกิดการดูหมิ่นเกลียดชังเขา ขนาดพูดไม่ตรงเนี่ย ไม่แข่งขันกันเลยในการลงเลือกตั้งเลย ทั้งๆที่กฎหมายเลือกตั้งก็มีอยู่ ใส่ร้ายป้ายสี แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบพรรค ทุกประการ ตอนนี้ที่อยู่ในฐานะที่ต้องยอมใช้กฎหมายน้อยหน่อย ยอมโดนว่าข้างเดียวมาตลอด วันนี้ที่ต้องลุกขึ้นพูดเพราะต้องการยึดระบบไว้ ไม่ต้องการให้เกิดระบบกดหมู่อยู่เหนือกฎหมาย หรือเกิดกบฎหรือเกิดวิธีการที่ให้กลุ่มชนไว้กรรโชกรัฐบาลและประชาชน ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดอย่างนี้ขึ้นในประเทศไทย และไม่ต้องการเป็นผู้สร้างเพรสสิเด๊นเคส

ผมไม่ต้องการสร้างเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยว่าต่อไปนี้ ถ้ารวมตัวกันแล้วรัฐบาลที่แม้ประชาชนจะไว้ใจอย่างไรก็ไม่สามารถอยู่ได้เพราะกลุ่มคนกลุ่มนี้ บางคนเป็นขาประจำ ทุกรอบล้มรับบาลทุกรอบไปร่วมเดินขบวนกับเขาทุกรอบ บางคนก็เป็นสัญลักษณ์ มันเกิดอะไรขึ้น ถึงวันนี้แล้วผมต้องการให้เห็นว่า ประชาธิปไตยคืออำนาจของประชาชน ผมถึงต้องการว่าทุกคนรักษากติกา ข้าราชการทุกคนทำตามกติกาไม่ต้องวอกแวกแล้วให้ประชาชนตัดสิน ประชาชนตัดสินแล้วยังไงก็ต้องเคารพ ผมก็ต้องเคารพ วันนั้นท่านจำเอาไว้เลยนะครับ ถ้าวันนึงผมมาตะแบงอีกชี้หน้าด่าผมได้เลย สมมติว่าพรรคไทยรักไทยได้คะแนนน้อยกว่าคนที่งดลงคะแนนบวกกับพรรคอื่นแล้วผมยังจะเป็นนายกอีกท่านชี้หน้าด่าผมได้เลย ผมไม่เป็นแน่นอน แล้วถ้าผมเป็นมาแล้ว สมมติว่าผมชนะมาแล้วผมปฏิรูปกาเมืองไม่แก้ 313 ท่านก็ด่าผมได้เลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมพูดคือสิ่งที่ผมทำ ไม่อย่างนั้นประชาชนไม่เลือกผม เพราะเขาเชื่อว่าผมพูดแล้วผมทำ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า อยากจะบอกเพื่อนข้าราชการว่า ไม่ต้องอึดอัดอะไรเลย แล้วไม่ต้องห่วงว่าถ้าเดินต้องเสี่ยง เชื่อฟังรัฐบาลเดี๋ยวไอ้พวกนั้นเข้ามา เดี๋ยวจะซวย หรือว่าไม่เอาใจรัฐบาลเกิดรัฐบาลยังอยู่ต่อเดี๋ยวจะซวย ท่านไม่ต้องห่วงตรงนี้ มีอะไรไม่ได้รับความเป็นธรรมมาบอกผมได้เลย ข้าราชการระดับ 10 และ 11 อย่างนี้พบได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ท่านวางตัวให้สบายเลยแต่ว่าขอให้ท่านยึดหลักให้ดี ไม่ว่าตนบอกยังงี้แล้วท่านไปทำ ไปเขียนอะไรอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นทางที่ไม่ถูกต้อง ตนไม่รักในสิ่งเหล่านี้ ตนเป็นคนราศีตุลแต่ว่าชอบความเป็นธรรม ไม่เชื่อถามเลขา...วันนี้บางคนบอกว่าตนดาวเสาร์อยู่ราศีกรกฎ บางคนบอกว่าลักขณาอยู่ราศีกรกฎเสาร์ทับลัคพอดี ตนบอกว่าไม่ใช่ ลัคนาตนอยู่ราศีตุล

เมื่อหลายวันตนไปพบกับชาวบ้านและได้พระมาทุกรูปแบบ ได้ยันต์ ได้น้ำมนต์ ได้เทียน เพราะทุกคนบอกว่าตนกำลังถูกกระทำ โดนเล่นของ บางคนบอกว่ารูปของตนถูกไปใช้เป็นสัญลักษณ์เบื้องต่ำอยู่บางองค์กร ตนจึงบอกว่าตนยึดมั่นในความดี พระพุทธเจ้าสอนไว้แล้วให้ยึดมั่นในกรรมดี ถึงวันนี้เขาไม่เข้าใจสักวันเขาจะเข้าใจเรา ต้องอดทนที่จะอยู่กับกรรมดี แต่ถ้าเราไม่อดทนกับกรรมดีแน่นอนว่าสักวันก็ต้องหัก เพราะฉะนั้นถ้าตนมาถึงขนาดนี้แล้วถ้าไม่ยึดมั่นในกรรมดีอยู่อีก ตนก็สมควรตาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นรักษาการนายกรัฐมนตรีได้ถามข้าราชการว่ามีใครอยากจะถามอะไรตนหรือไม่ ให้ถามได้อย่างไม่ต้องเกรงใจให้ถามได้เลย ถ้าคนใดที่อีกนานจะเกษียนอายุราชการไม่กล้าถามให้คนที่เกษียรปี 49 ถามก็ได้ ถามให้สบายใจ และถามเพื่อเป็นบันทึกว่าวันหลังจะนำได้ยืนยันว่าได้มีการถามแล้ว และตนก็ได้ตอบแล้ว เพราะตนเป็นที่เปิดเผยตรงไปตรงมา ง่ายไม่มีอะไรหรอก หลายคนที่ไม่เข้าใจตนนำไปคิดหลายชั้น คิดซับซ้อนทั้งที่จริงๆแล้วตนเป็นคนชั้นเดียว บางทีก็ครึ่งชั้นเท่านั้น

วันก่อนผมก็ปราศรัยที่ชลบุรี เพราะชลบุรีมีมอเตอร์เวย์ ผมก็บอกว่านี่นะ ประชาธิปไตยคือถนนมอเตอร์เวย์ ข้างในมีรถวิ่งมา 4 คัน มีรถไทยรักไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทย แล้วก็มหาชน คันเล็กบ้างใหญ่บ้าง คันเก่าบ้างใหม่บ้าง บังเอิญว่าขณะวิ่ง พรรคไทยรักไทย เป็นรถที่วิ่งนำอยู่ในมอเตอร์เวย์ 3 พรรคนั้นอยู่ข้างหลัง และบังเอิญว่ามีคนขับรถอีแต๋นอยู่ข้างทางเสียงดัง แต่มอเตอร์เวย์นั้นกันรถอีแต๋นไม่ให้เข้ามาวิ่ง คงวิ่งได้ข่างทาง วิ่งไปก็ชนรั้วไป แล้วส่งเสียงดัง 3 คันข้างหลังก็มองว่า มอร์เตอร์เวย์ถนนประชาธิปไตยนี้พังแน่ ก็เลี้ยวลงไปร่วมกับรถอีแต๋น แล้วจะให้ตนเลี้ยวลงไปได้อย่างไร ตนก็ขับต่อไป เพราะมีประชาชนรออยู่ที่หลายทาง จนสุด จะให้จอดรอหรือเลี้ยวไปเจออีแต๋นได้อย่างไร ก็มันเลยไปแล้ว แต่ก็ไม่ว่ากัน จะขับไปข้างทางก็ไม่ว่ากันอีแต๋นก็ขับกันไป แต่มันคนละระบบ ระบบกฎหมู่กับระบบประชาธิปไตยคนละเรื่อง ระบบการแสดงออกกับระบบประชาธิปไตยเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ระบบกฎหมู่กดดัน บีบคั้น เพื่อให้ประชาธิปไตย ต้องเสียสละประชาธิปไตยเพื่อกดหมู่รับไม่ได้ มันคนละระบบ ก็เลยต้องพูดให้ชัด ตนยึดพรินซิเปิล ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า แน่นอนว่าการเย้วๆ ไม่กี่คนมันเรื่องธรรมดา ของสังคมประชาธิปไตย แต่เย้วๆ แล้วรัฐบาลประชาธิปไตยยอมแพ้ ไม่มีใครรับได้ในโลกนี้ มันมีสองปัจจัยคือ 1 ความขัดแย้งทางความคิดที่ตามไม่ทันว่าขบวนการคิดใหม่ทำใหม่กับขบวนการคิดเก่าทำเก่ามันขัดแย้งกันอยู่ ทั้งสองแนวทางทั้งฐานบนและล่าง 2.เป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนบุคคลและความต้องการเอาชนะทางการเมือง โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ซึ่งบางคนไม่เข้าใจ ก็มาหาว่านายกฯดื้ออย่างนี้ ทำไมไม่ลาออกซะ คามจริงถือว่าออกไปแล้ว การยุบสภาถือว่านายกฯออกไปแล้ว ตีความแฃ้วก็ชัดเจน วันนี้ถือว่าผมรอนายกฯคนใหม่ตามกระบวนการประชาธิปไตยเข้ามาแทนผม ซึ่งอาจจะเป็นใครก็ได้ หรือเป็นตนอีกครั้งก็ได้ โดยหลักการแล้วถือว่านายกฯทักษิณ คนเดิมพ้นหน้าที่ไปแล้ว แต่นายกฯทักษิณหลังเอกตั้งอาจจะกลับมาแทนนายกฯทักษิณคนเดิมก็ได้ หรือไม่ใช่ก็ได้ นั่นคือระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นวันนี้ตนรู้ว่าได้พ้นแล้ว และรัฐธรรมนูญมาตรา 215 บอกว่าต้องรักษาการอยู่ จนกว่าจะมีคนใหม่มาแทน นั่นคือหลักของมัน ดังนั้นตนยืนอยู่บนหลักตรงนี้ ใครคิดว่าไม่ถูกก็มาบอก และเรื่องของการพูดจากันเรื่องธรรมดา เกิดขึ้นได้ วันนี้เข้าใจผิดวันหน้ามาพูดกันก็ได้ บางคนเคยยกพวกยิงกัน ตอนนี้เป็นเพื่อสนิทกันก็มี อยู่พรรคไทยรักไทยทั้งคู่ด้วย วันนี้ตนไม่ได้คิดว่าคนที่ขัดแย้งและด่าตน เสียๆหายๆ จะเป็นสิ่งที่พูดกันไม่ได้

พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวว่า อยากบอกผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ช่วงนี้ตนจะเดินทางตรวจราชการมากหน่อย อย่างน้อยถ้าได้ทำหน้าที่ต่อเรื่องต่างๆ ที่ได้สั่งการไปหากติดขัดจะได้แก้ไขและสั่งการให้รวดเร็ว หรือถ้าใครมาเป็นนายกฯแทน ก็จะได้บอกไปว่าเรื่องที่ทำไปแล้วมีอะไรดี ไม่ได้ ก็อยากบอกว่าเวลาไปตรวจราชการขอให้มีเวลากับการตรวจราชการมากหน่อย ประชาชนที่จะมาพบขอให้เป็นธรรมชาติ อย่าได้ไปชวนและอย่าให้ไปไปซื้อดอกไม้เยอะแยะเลย ตนต้องการไปดูวานจริงๆ ถ้าจะปราศรัยก็เป็นเรื่องปราศรัยตอนเย็น แต่กางวีนอยากได้งานเยอะๆ บางวันเหนื่อย ก็อยากจะตรวจราชการเยอะๆ อยากดูตามนโยบายที่ให้ได้ทำไปว่ามีปัญหาและควรเขาใจมากขึ้นตรงไหน และขอให้ให้สั่งการแนวนี้ให้หมด ส่วนเรื่องของการเลือกตั้งการปราศรัยหาเสียงเอาไว้ตอนเย็นๆ ตอนเลิกงานแล้วค่อยว่ากัน ตนต้องรีบทำงานเพราะไม่รู้ว่าจะทำได้อีกกี่วัน ตราบใดที่ยังทำหน้าที่อยู่ก็จะทำสุดความสามารถ

จากนั้น นายสุกิจ เจริญรัตนกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้กล่าวว่า ขอให้เวลาเพื่อให้กำลังนายกฯ และเข้าใจว่าวันนี้คงมีการถ่ายทอดสด ตนและเพื่อนข้าราชการในส่วนภูมิภาค เข้าใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีความศรัทธาและต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยุบสภา แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าการยุบสภาเป็นการตัดสินใจยิ่งใหญ่กว่าการลาออก ชาวบ้านเหล่านั้นไม่เข้าใจในโมเดิร์น แคปปิตอลไลเซชัน แต่เข้าใจว่าชีวิตของเขาดีขึ้น ความยากจนผ่อนคลายลง มีความมั่นใจและศรัทธาในรัฐบาลชุดปัจจุบันว่าถ้าได้บริหารราชการต่อไปจะแก้ปัญหาได้หมดสิ้น ตนเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศเชียร์นายกฯ แต่มีคนอยู่จำนวนหนึ่งที่บิดเบือนข้อเท็จจริง คนเหล่านี้เข้าใจทุกอย่าง แต่คนเหล่านี้ฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่เคารพกติกา ปัจจุบันการฉีกรัฐธรรมนูญก็มีในต่างประเทศ แต่ปัญหาของเราคือสื่อ ที่มีความเข้าใจไม่กระจ่างชัด ครึ่งๆ กลางๆ ก็ทำให้ข้อเท็จจริงยิ่งบิดเบือนไปใหญ่ ถ้าเราสามารถสรุปว่าอะไรคือเหตุ คือผล อะไรคือความชัดเจน ให้สื่อที่มีความเป็นกลางแล้วสังคมในกรุงเทพฯ จะเข้าใจมากขึ้น

ส่วนขาประจำ แกนนำทั้งหลายนั้นทำอาชีพอะไร ต้องให้สังคมได้รู้ มีรายได้มาอย่างไร เสียภาษีปีละเท่าไร คนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อระบบรัฐสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าว

ด้าน นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลุกขึ้นกล่าวบ้างว่า ความจริงเรื่องที่ไม่ค่อยเรียบร้อยอยู่ ก็อยู่ในความกังวลของหลายคน ตนในฐานะที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มีความกังวลอยู่ด้วยเช่นกัน ก็พยายามนำเสนอความเห็นในการพิจารณาหาทางแก้ไขอย่างไร ตนเคยนำเสนอนายกรัฐมนตรีไปแล้วในวันที่ 7 มีนาคม 2549 ด้วยหวังว่าจะมีการพิจารณาก่อนที่จะยุติการรับสมัครรับเลือกตั้ง โดย 1.ถึงแม้ นายกรัฐมนตรีจะทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่การทักท้วงจากกลุ่มคนที่น่าจะไม่เข้าข้างใดมาก่อนกลับมากขึ้นทุกขณะ และมีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่ยุติโดยง่าย ถึงแม้พรรคไทยรักไทยจะชนะการเลือกตั้งและสามารถเปิดสภาฯได้ก็ตาม 2.ภาระสำคัญยิ่งของไทย 2 ประการ ที่ต้องมีการวางแผน คืองานฉลองครบ 60 ปีทรงครองราชย์ หากเรื่องราวอย่างนี้ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป คงจะลำบาก ในการเตรียมการ รวมทั้งเรื่องไฟใต้โดยไม่นับรวมภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมที่อาจจะเกิดปัญหาตามมา 3.ผู้นำพรรคการเมืองและผู้นำกลุ่มประท้วงควรเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัว จะโดยร่วมกันขอเข้าเฝ้า หรือจะถูกเรียกให้เข้าเฝ้า ในทำนองเดียวกันกับเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 35 ซึ่งตนขอเสนอว่านายกฯ อาจจะต้องขอความกรุณาจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีให้กรุณาเป็นคนกลางในการหารือ และร่วมกันขอเข้าเฝ้า เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัยเพื่อยุติการขัดแย้ง หรือนายกรัฐมนตรีอาจจะเชิญผู้นำฝ่ายค้านและผู้นำการชุมนุมเข้าหารือและขอคำแนะนำจากประธานองคมนตรีก่อนที่จะเข้าเฝ้าหากมีความจำเป็นรวมทั้งควรดำเนินการก่อนที่กำหนดการรับสมัครการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้นเพื่อให้มีโอกาสทบทวนกรอบกำหนดการเลือกตั้ง เพื่อให้พรรคการเมืองที่เหลือมีโอกาสกลับเข้ามาสู่การเลือกตั้ง ซึ่งตนได้พยายามนำเสนอแต่อาจจะไม่ถึงนายกรัฐมนตรี

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตอบว่า หลายเรื่องได้มีการทำอย่างไม่เปิดเผย มีการประสานงานมาแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลและการเมืองมันเหมือนทำกับข้าว มันประกอบด้วยส่วนผสมลำดับ ของการปรุง และอุณหภูมิ สถานการณ์ในอดีตไม่สามารถมาก๊อปปี้กันได้ มันมีความคล้ายคลึงและความแตกต่างกันอยู่ตลอดเวลา ใช้ได้บางเรื่องและใช้ไม่ได้บางเรื่อง ถ้าคนไม่เข้าใจเรื่องการเมือง หลายคนก็มองผิวเผิน แต่การเมืองไทย ไม่ว่าจะศาสตร์ที่ไหน ก็เปิดตำราไม่เจอ มันเป็นการเมืองที่พิเศษ มันเหมือนทำกับข้าว ถ้าผักลงก่อน หมูลงทีหลังก็ไม่สุก หรือหมูลงก่อนแต่ไฟแรงไปหมูก็ไหม้ การทำกับข้าวถ้าคนทำคนละคนรสชาตก็ไม่เหมือนกัน บางครั้งใช้ส่วนผสมที่ต่างกันก็เรียกเป็นแกงเหมือนกัน สำคัญที่สังคมจะต้องเข้าใจว่าทุกสถานการณ์มีมากกว่าหนึ่งตัวแปร ตัวแปรที่ปรากฏและตัวแปรแทรกซ้อนมีกันอยู่ ถ้าแยกตัวแปรแทรกซ้อนออกไม่หมด ก็ไปใช้ตัวแปร ปรากฏเป็นตัวกำหนดว่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งบางทีสังคมภายนอกไม่เข้าใจ บางคนก็พูดไม่ครบ บางคนพูดโดยเอาวาระที่ตัวเองอยากเห็นเก็บไว้

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนเห็นการเมืองมาตั้งแต่ปี 2518 และก็อยู่รอบเวทีการเมืองมานาน พอที่จะรู้ว่าการเมืองคืออะไร เจ็บมาก็เยอะ จนซึ้ง จนเข้าใจ และตั้งใจอย่างยิ่งว่าจะปฎิรูปการเมืองโดยการปฎิบัติ ถ้าสังคมไทยใจอ่อนยอมแพ้คนพาล คนที่ทำตามกติกาก็จะหมดความหวัง แล้วรู้สึกว่าการทำตามกติกาเสียเปรียบ ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ยึดหลักกติกาเต็มที่ เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าทุกคนต้องอยู่ในกติกา ไม่พอใจก็วอร์คเอาท์ ไม่พอใจก็บอยคอต มันคงไม่ได้ หลายอย่างได้พยายามมาโดยตลอด ผู้ใหญ่หลายคนก็พยายาม บางคนกลายเป็นว่า พอมาใกล้ผม ก็หาว่าถูกผมซื้อ คำว่าศักดิ์ศรีของคนไม่เหลือ ไม่เคารพศักดิ์ศรีของคนเลย กล่าวหากันเลอะเทอะ

มีอยู่วันหนึ่งมีการเคลื่อนขบวน จากสนามหลวงมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ได้รับรายงานข่าวจากทุกภาคส่วนว่ามีเท่าไหร่ ตั้งแต่ 8000 -12000 บังเอิญเปิดทีวีนักข่าวคนหนึ่งก็รายงานว่า มีประชาชนนับแสนคนได้เคลื่อนมา สอบไปสอบมา กลายเป็นว่ากลัวโดนกระทืบถ้าบอกว่ามีมาน้อย ไม่พูดความจริง ผมไม่ต้องการให้ใครเข้าข้าง เพียงแต่ต้องการความจริงให้ปรากฏ ไม่เคยไปขอร้องใคร ตั้งแต่เป็นคนมา ยังไม่เคยไปขอให้สื่อคนไหนช่วยเชียร์เลย เพียงแต่ขอความเป็นธรรม นี้คือความเป็นจริง ไปกินข้าวกับสื่อก็ไม่เคยขอให้เชียร์ เพียงแต่ขอให้เป็นกลางเท่านั้น แต่บางฉบับมีความจริงอยู่สองเรื่อง แต่ไม่อยากพูด เพราะรัฐมนตรีขยิบตาให้แล้ว วันนี้ถ้าไม่มีใครเทคไซต์กติกาจะเกิดขึ้น แต่ถ้ามีคนเทคไซต์การเคารพกติกาจะมีปัญหา การไม่เคารพกติกา การเกเรจะได้ดี พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้มีการปล่อยข่าวลือมากเพื่อให้เราแตกความสามัคคี ในสังคม แม้กระทั่งในพรรคไทยรักไทยก็ยังโดนหมด โดนเป็นแถว บางครั้งก็มีโทรศัพท์มารายงานถึงกับนั่งขำ เพราะมันผ่านสิ่งเหล่านี้มาหลายรอบ การปล่อยข่าวข่าวลือ ตราบใดที่ยังนั่งอยู่ที่นี้ไม่มีหวั่นไหวอยู่แล้ว เพราะมีระบบตรวจสอบของตัวเองอยู่ ต้องนิ่งและท่านทั้งหลายอย่าไปหวั่นไหว ถ้าตนสงสัยเดี๋ยวก็เรียกมาชี้แจงเอง ถ้าไม่ได้เรียกไม่ต้องห่วงเลย ถ้าเรียกมาแสดงว่าตนไม่เชื่อในข่าวปล่อย ถามก็จบ ถึงบอกว่าคนทั้งรักและทั้งเกลียด อย่าเคลื่อนพลไปไหน ขอให้อยู่เป็นกลางไม่ต้องเอียงซ้ายเอียงขวา วันนี้ถามว่าตนเครียดหรือไม่ คิดว่ารัฐมนตรีเครียดกว่าตนอีก ตนไม่เครียด เพราะรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น และกำลังทำอะไรอยู่ กฎกติกา คืออะไร อยู่ในกติกาหรือไม่ ก็นิ่งไว้ เมื่อทำตามกฎเกณฑ์ก็จบไม่เห็นมีอะไร ลองเปิดตำราดู อัยการสูงสุด กฤษฎีกา ก็ไม่มีอะไรจริงๆ สมมติว่า ฝ่ายสนามหลวงจะอยู่ต่อ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าทำผิดกฎหมายบ้านเมือง หรือทำลายทรัพย์สินส่วนราชการ อย่าไปทำร้ายชีวิตคน เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลให้ดี การชุมนุมกันในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องธรรมดา เท่ห์ออก ไม่เห็นเป็นไรเลย นานาชาติจะได้รู้ว่ารัฐบาลนี้อดทนจริงๆ และไอ้พวกที่เคยออกมาว่า ปิดกั้นสื่อ บิดเบือนสื่อ วันนี้ขอให้กลับมาดูใหม่ ขออุทธรณ์ เพราะคนที่โดนคือตน จึงอยากบอกให้ทุกคนทำงานทุกอย่างไป ให้สมกับเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากนั้น นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมศาสนา ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนมองว่าขณะนี้ที่เกิดปัญหาอะไรต่างๆ ขึ้นมาได้มีการอ้างอิงอะไรต่างๆ ในเรื่องของสถาบันทางด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ตนคิดว่าสังคมในส่วนนี้ได้รับการหล่อหลอมได้รับการสั่งสอน ชี้แจงนำในเรื่องของทางหลักศาสนาโดยเฉพาะใน 5 ศาสนานี้ อาจจะน้อยจนเกินไป ในช่วงต่อไปนี้น่าจะเอาหลักทางด้านสังคมโดยเฉพาะพระธรรมคำสั่งสอนมาขับเคลื่อนให้มีการปฏิบัติอย่างแท้จริง และพี่น้องชาวพุทธ และพระคุณเจ้าทุกรูปมีความเป็นห่วงกลัวว่าจะมีอะไรแอบแฝง และตอนนี้เรามีธรรมยุติและหมานิกาย หามีภาพไม่ถูกต้องแล้วมีการแพ้ชนะอาจจะเกิดนิกายใหม่ขึ้นมา จนอาจจะไม่มีมหาเถระสมาคม ดังนั้นเราจึงต้องแก้ไขให้มีเวทีของพระคุณเจ้าและผู้นำศาสนาได้ออกมาพูด และชี้ให้เห็นว่าจะดำเนินการอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมตอนนี้ขาดมิติทางศาสนา จึงอยากขอให้หลังการเลือกตั้งและมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราขอหนึ่งมาตราให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติของเรา อาจจะเป็นเพราะว่าสิ่งนี้ไม่มีในรัฐธรรมนูญจึงให้มีความเข้าใจไม่ถูกต้อง โดยโครงสร้างของระบบราชการมิติศาสนาอ่อนลงไปเพราะไปอยู่ในกระทรวงที่ต้องรับนโยบาย จึงอยากขอให้มีทบวงจะได้มีพลัง และสามารถอยู่ในกลุ่มของความมั่นคง

ด้านนายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุดได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ขณะนี้นายกฯรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้งหลายอาจจะเป็นการรักษาการตามกฎหมาย การสั่งการราชการคงไม่มีเรื่องใหม่เท่าที่ควร แต่ในการหาเสียงไม่ควรใช้ข้าราชการ ส่วนรัฐมนตรีควรมอบหมายหน้าที่การสั่งปฏิบัติราชการให้ปลัดกระทรวงให้มากที่สุด และที่ทุกคนอยากจะเห็นคือตัวนายกรัฐมนตรีต้องใจเย็น สุขุม และสามารถรักษามาตรฐานตรงนี้ไว้ได้จะเป็นสิ่งที่ดี

ทันทีทีอัยการสูงสุดกล่าวจบพ.ต.ท.ทักษิณได้หัวเราะขึ้นมาทันที จากนั้นกล่าวว่า ตนเป็นมนุษย์ซึ่งถ้ามีอะไรมากระทบประสาทสัมผัสทั้ง 5 ก็อาจจะเกิดการปรุงแต่งบ้าง แต่จะพยายามสลัดให้เร็ว วันนี้ตนคิดว่าได้พยายามเย็นมากแล้ว และฝ่ายบ้านเมืองที่ใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ จนวันนี้กล้ายืนยันว่าเราใช้รัฐศาสตร์มากกว่านิติศาสตร์เยอะ แม้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายเยอะแยะ เพราะเรามีความอดทนอดกลั้นสูง

ผมนึกไม่ถึงว่าทำไมตัวผมเย็นได้ขนาดนี้ เมื่อก่อนใจร้อนกว่านี้เยอะ นั่งรถจากชลบุรีมาก็ฮัมเพลงไปบ้าง ก็พยายามอย่างยิ่ง และเติมความเย็นไปเรื่อยๆ ขอบคุณที่เตือน ก็มีคนพยายามเตือนเยอะ วันนี้งานก็พยายามทำแต่รูทีน และเรื่องเฉพาะหน้ากับปัญหาที่ต้องแก้ นอกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไร ต้อรอเลือกตั้งเสร็จ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์