มาร์คปัดส่งไกรศักดิ์-สุขุมพันธุ์เจรจาปรองดอง

งงยังไม่รู้ใครมีอำนาจตัดสินใจในพรรค เพื่อไทย ยันการเจรจาต้องเป็นเรื่องของผลประโยชน์ชาติเท่านั้น รับยังมีการเคลื่อนไหว แต่ก็ถือว่ามีเสถียรภาพขึ้นมาก

เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเจรจากับพรรคเพื่อไทยในกระบวนการสร้างความปรองดองว่า ยังไม่มีการเจรจาอะไรกับทางรัฐบาล เรื่องนี้เริ่มต้นจากที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ ต่อมามีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และเมื่อวันที่ 7 ก.ย. มีการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่เรื่องการมาพูดจากันเป็นเรื่องเป็นราวนั้น ยังไม่เห็นความชัดเจน

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าทูตของประเทศต่างๆ เข้ามามีบทบาทในเรื่องการเมืองภายในประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องที่มีการอ้างกัน และคิดว่าคนที่เกี่ยวข้องคงจะต้องชี้แจงเองมากกว่า ว่าไปพบปะกับใครอย่างไร หลายประเทศมีความห่วงใยเวลาที่สถานการณ์ในบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย แต่บทบาทคงไม่ใช่ลักษณะที่เป็นทางการ เท่าที่ฟังดูเหมือนมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันมากกว่า

เมื่อถามว่า เส้นแบ่งระหว่างความห่วงใยกับการก้าวก่ายกิจการภายในประเทศอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกประเทศเวลาที่เขาสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะมีเส้นแบ่งอยู่แล้ว และบอกเสมอว่าเป็นเรื่องภายในของเรา แต่ถ้ามีอะไรที่ช่วยได้เขาจะช่วยก็เหมือนเวลาที่เราเสนอตัวกับบางประเทศ แต่จะไม่แทรกแซงกิจการภายใน ขอยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของเราเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯเคยมอบหมายให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ารชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนพรรคในการพูดคุยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการมอบหมายในเรื่องการพูดคุย ทั้งนี้เราน่าจะมองไปในอนาคตมากกว่าว่า ถ้ามีความสนใจในการที่จะมาร่วมกระบวนการปรองดองจะให้มีการคุยกันอย่างไรหรือไม่ ตนยังยืนยันเหมือนเดิมว่า การจะพูดคุยกันต้องเป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติเท่านั้น และปัญหาใหญ่ที่สุดของชาติวันนี้คือ ปัญหาความรุนแรงที่ต้องมาช่วยกันแก้ไข

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยโยนว่าอยากให้รัฐบาลและนายกฯเป็นผู้นัดหารือนั้น ตนไม่รู้ว่าจะนัดกับใคร เพราะโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความชัดเจนจะให้เป็นหัวหน้าพรรค ประธาน ส.ส.พรรค  ประธานกรรมการประสานงาน (วิป) หรือบุคคลที่ออกแถลงการณ์ ขณะนี้ตนไม่สามารถไปรู้ได้ว่าภายในพรรคเพื่อไทยใครจะเป็นคนที่สามารถตัดสินใจได้ในเรื่องแบบนี้ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องไปจัดการให้เรียบร้อยก่อน ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่มีทางทราบว่าสิ่งที่คุยไปนั้นสามารถเป็นตัวแทนของพรรคได้หรือไม่ หากพรรคเพื่อไทยต้องการจะปรองดองจริง พรรคเขาต้องมีความชัดเจนว่าเจตนารมณ์ที่จะมาร่วมแก้ไขปัญหา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแค่การเจรจา แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามผลักดันเรื่องการปรองดองทั้งหมด ซึ่งเราอยากจะเชิญชวนทุกภาคส่วนให้มาร่วม เราพร้อมรับฟังคนว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไร และเรื่องการปรองดองก็ไม่ใช่เรื่องการต่อรองผลประโยชน์เป็นเรื่องการกำหนดทิศทางของประเทศให้ชัดเจนร่วมกันว่าเราต้องการให้บ้านเมืองเรามีความสงบสุขได้อย่างไร

กรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย และระบุว่าการสร้างความปรองดองไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ยังไม่มีใครตอบได้ นายบรรหารอาจจะมีประสบการณ์ก็มองเห็นว่ามันยากเช่นเดียวกับที่ทุกคนมอง วันนี้ถ้ามีใครที่อยากเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง รัฐบาลก็ต้อนรับไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย แต่จะทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับแต่ละฝ่าย ว่ามีความตั้งใจ มีความจริงใจ มีความสามารถที่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ในฐานะรัฐบาลตนไม่ปฏิเสธใครที่ต้องการทำสิ่งที่ดีสำหรับบ้านเมือง แต่จะทำกันได้หรือไม่อย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขณะนี้ในภาพรวมของบ้านเมืองถือว่ามีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยังมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างชัดเจน ขณะเดียวกันความพยายามในการที่จะแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาพื้นฐานของสังคมก็มี ความก้าวหน้าไปโดยลำดับ และอย่างที่เคยพูดไปแล้วว่าต้องการเสถียรภาพอย่างน้อยในสิ้นปีนี้ เพื่อให้กลไกต่างๆที่ทำงานในด้านนี้สามารถสร้างผลงานออกมา ตนได้ติดตามการทำงานของคณะกรรมการทุกชุดและเร่งรัดแนวคิดของรัฐบาลที่มีการ ผลักดันในหลายๆ เรื่อง

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์