คอป.ตั้งทีมลงพื้นที่หาความจริงม็อบเสื้อแดง

“ คอป. ” ตั้งทีม “Truth Seeking” ลงพื้นที่ “ หาความจริง ” ม็อบแดงเม.ย.-พ.ค. “ คณิต ” ยอมรับ “ ยาก-ท้าทาย ” ที่สุด เปิดเว็ปไซต์ระดมข้อมูลจากประชาชน

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นาย คณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.) เป็นประธานจัดการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ว่าด้วยการสอบสวนความจริงหรือ Truth Seeking (ทีมงานค้นหาความจริง) ที่ได้จัดจ้างบุคลากรที่มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญด้าน การสืบสวน สิทธิมนุษยชน เอ็นจีโอ และองค์กรที่เกี่ยวข้องมาร่วมดำเนินการประมาณ 30 คน โดยมีวาระการทำงานเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะลงพื้นที่เพื่อสอบสวน และค้นหาความจริง จากกลุ่มผู้ชุมนุม หรือกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุม เม.ย. - พ.ค. ที่ผ่านมา

 นายคณิต กล่าวว่า การทำงานของคอป.ขณะนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควร มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 3 ชุดประกอบด้วย 1 .อนุกรรมการค้นหาความ มีนาย สมชาย หอมละออ เป็นประธาน 2 .อนุกรรมการเยียวยา มีนพ.รณชัย คงสกนธ์ และ 3 .คณะอนุฯกรรมการวิชาการศึกษาวิจัย มีนาย สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล คณบดีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธาน โดยจะรายงานต่อสาธารณชนภายใน 6 เดือน ทั้งนี้ เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วงเดือนเม.ย. - พ.ค. 53 ถือว่าเป็นภารกิจที่มีความยากและท้าทายที่สุด หลังจากการฝึกอบรมครั้งนี้ ทีมงาน Truth Seeking จะเริ่มดำเนินการภาคสนามทันที โดยเริ่มจากการลงพื้นที่สอบถามข้อมูลจากพยานรู้เห็นเหตุการณ์ และรวบรวมหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุมาวิเคราะห์ร่วมกับหลักฐานการถ่ายภาพ และวิดิโอคลิป ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากมาตรวจสอบ ซึ่งการดำเนินงานของคอป.เป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนเนื่องจากต้องการให้เห็นภาพรวมของความขัดแย้ง รวมไปถึงการกำหนดเวลาในการนำเสนอรายงาน Interim Report ฉบับแรกในช่วงกลางเดือนมกราคม 2554 ถือว่าเป็นงานท้าทายมาก

 “ ในเร็วๆนี้คณะกรรมการมีแผนที่จะลงพื้นที่ จ.อุดรธานี และอุบลราชธานี เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความไม่สงบ เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางจิตใจ เพราะบาดแผลที่เกิดจากภายนอกนั้นรักษาไม่ยาก แต่แผลที่ค้างอยู่ในใจต้องใช้เวลา คอป.จะลงพื้นที่พบกับประชาชนให้มากที่สุด ” นายคณิต กล่าว

 นายคณิต กล่าวต่อว่า นอกจากคอป.จะลงพื้นที่ไปหาข้อมูลแล้วหากประชาชน หรือองค์กรใดต้องการจะให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งในกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัดในช่วงเม.ย.-พ.ค. 53 ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ข้อมูลอิเล็กทรอนิค ได้ทั้งทาง www.thaitruthcommission.org  หรืออีเมล์trc@oja.go.th ตู้ปณ. 56 ปณจ. หลักสี่ กทม. 10210 หรือติดต่อด้วยตนเองที่สำนักงานคอป. อาคารบี ชั้น 9 ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. 10210 หมายเลขโทรศัพท์ 02143-8353

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการฝึกอบรมครั้งนี้มีวิทยาทั้งในและต่างประเทศ อาทิ นาย โฮเวิร์ด วาร์นีย์ ที่ปรึกษาด้านการค้นหาความจริงสถาบันนานาชาติการเปลี่ยนผ่านเพื่อความยุติธรรม จากเมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ เซียร์ร่าลีโอน และติมอร์ตะวันออก ,นายวิทิต มันตราภรณ์ จากคณะนิติศาสตร์, นายโอมายูน อาลิซาเด้ห์ ผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ(กรุงเทพฯ) ,นายคริสตอฟ เพชชู ผู้แทนประจำสำนักงานประเทศกัมพูชาของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และนาย แพททริก เบอร์กีส ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียของศูนย์ระหว่างประเทศว่าด้วยความยุติธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

 อีกทั้งการจัดอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ คือ แนวคิดสำคัญ : กฎหมายระหว่างประเทศและกระบวนการยุติธรรมช่วงเปลี่ยนผ่าน ,ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เช่น กฎบัตรแห่งสหประชาชาติ การก่อกำเนิดของคณะกรรมการซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน ปฏิญญาสากลของสิทธิมนุษยชน การประชุมโลกสิทธิมนุษยชน ณ กรุงเวียนนา, สนธิสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ( ICESCR,ICCCPR& Ops,ICERD,CEDAW,CAT,CRC,CMW,CRPD&CPAPAD ) ,กลไกของกฎหมายไทยรวมถึงการออกกฎหมายภายในประเทศ กล่าวคือ รัฐธรรมนูญแห่งราชาอาณาจักรไทยและวิธีพิจารณาความเรื่องการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน,กระบวนการยุติธรรมช่วงเปลี่ยนผ่าน : แนวความคิดเบื้องต้น และ ประเด็นการบอกเล่าประสบการณ์ของคณะกรรมการ Truth Commision ประเทศติมอร์ตะวันออก

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์