สหรัฐห้ามยุ่ง มาร์คกร้าว ต้องรอส่งบูท

นายกรัฐมนตรี กร้าวรัฐบาลสหรัฐไม่มีสิทธิ์กดดันไทย ชี้ ต้องจอดเครื่องบินตบยุงรอ ป้อง"ศิริโชค โสภา" มีสิทธิ์เปิดห้องขัง พบ "วิกเตอร์ บูท" ยันไม่มีต่อรองให้ป้ายสี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาวชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาส่งเครื่องบินมารอรับตัวนายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามข้ามชาติว่า มันเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องบินมาเมื่อไหร่ดังนั้นเครื่องบินต้องจอดรอ เพราะว่าเราต้องมีกระบวนการที่จะต้องไปทำงานของเราอยู่ เพราะมีทั้งข้อกฎหมาย มีทั้งคดีที่สองที่สหรัฐยื่นมาและประเด็นรายละเอียดเรื่องแนวปฏิบัติด้วย สำหรับคดีที่สองที่สหรัฐยื่นถอนฟ้องนั้น นายกฯ กล่าวว่า อัยการเป็นผู้ส่งฟ้องฉะนั้นส่วนนี้ต้องไปหารือกันว่าจะเดินต่อไปอย่างไร

ส่วนตามกระบวนการที่ค้างอยู่แบบนี้ภายในเวลา 3 เดือนจะพิจารณาทันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าไม่ทันกฎหมายอนุญาตขยายเวลาในคดีแรกได้อยู่แล้ว ถ้าสมมติว่าถ้าคดีที่สองมันเดินไป คดีแรกก็ไม่ได้มีปัญหาว่าจะต้องส่งตัวกลับภายใน 90 วัน จริงๆแล้วมันยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องได้ข้อยุติก่อน ตนก็จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจะได้พูดคุยซักซ้อมทำความเข้าใจกัน 

ด้านทางการสหรัฐจะเข้าใจกระบวนการดังกล่าวของฝ่ายไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สหรัฐฯควรจะเข้าใจว่าจริงๆแล้วกระบวนการยังไม่จบตามกฎหมายเป็นดุลพินิจของฝ่ายบริหารอีกชั้นหนึ่งด้วย ดังนั้นไม่ควรจะเข้าหรือมากดดันอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นเรื่องที่เราจะดำเนินการของเรา 

ส่วนหาก สหรัฐฯถอนคดีไปตอนนี้จะทันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องไปถามอัยการและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องอีกที อัยการเป็นผู้ส่งฟ้อง ส่วนการจะแสดงเจตนาถอนฟ้องเข้าใจว่าสหรัฐจะไปยื่นที่กระทรวงการต่างประเทศ แต่คนถอนต้องเป็นอัยการ ซึ่งจะปรึกษาหารือกันก่อนเพราะมันมีหลายแง่มุม ดังนั้นรัฐบาลยังพอมีเวลา เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของฝ่ายไทย และเป็นไปตามกฎหมายของเราไม่เกี่ยวกับว่าเครื่องบินมาจอดรอนานเท่าไร และไม่มีการการเตะถ่วงมันเป็นสิทธิ์ของเราว่าเราจะดำเนินการตามความเหมาะสมอย่างไร ตนว่าทุกประเทศต้องเคารพอธิปไตยและสิทธิของแต่ะประเทศที่มีตามกฎหมาย ตามสนธิสัญญา เราไม่ไปบิดพลิ้วไม่ไปปฏิบัติตามกฎหมายหรืออะไรทั้งสิ้น เราจะทำตามกฎหมายตามข้อตกลง แต่อะไรที่เป็นดุลพินิจของเราเรามีเวลาในการดำเนินการมันป็นสิทธิ์ของเรา ด้านจำเป็นต้องพูดคุยกับทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีการสอบถามมาจะยืนยันไปตามนี้ เพราะเป็นสิทธิของเราที่จะพิจารณา และเงื่อนเวลามีอยู่ในกฎหมาย ซึ่งเราดำเนินการตามเงื่อนไขของกฎหมาย 

ต่อข้อถามว่า ฝ่ายของรัสเซียมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากเรื่องนี้มีความกระทบกระเทือน ซึ่วเราก็ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ดังนั้นจะมาบอกว่าต้องยุติภายใน 1-2 วันมันเป้นไปไม่ได้ เพราะเราต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศของเราก่อน ส่วนจะกลายเป็นว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ตรงกลางระหว่างประเทศมหาอำนาจสองประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ ก็เป็นธรรมดา แต่ถ้าเราสามารถทำทุกอย่างได้ตรงไปตรงมาและสามารถอธิบายได้หรือหาทางออกที่ดีได้จะเป็นประโยชน์ที่สุด ตนจึงได้ย้ำกับทุกหน่วยงานว่าอย่าไปตกอยู่ภายใต้การกดดันของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เราต้องพิจารณาตามกฎหมายและสนธิสัญญา รวมถึงการยึดถือผลประโยชน์ของชาติ ในฐานะรัฐบาลมีหน้าที่ในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกมิตรประเทศ และมิตรประเทศของเราก็ควรจะต้องเข้าใจถึงการที่เราต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้

ต่อข้อถามว่าทำไมทางการสหรัฐฯ และรัสเซียจึงมีความต้องการตัวนายบูทเป็นพิเศษ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามทั้ง 2 ประเทศว่าทำไมจึงมีความวิตกกังวลกันมาก ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศก็ยืนยันว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีความสำคัญกับทั้งสองประเทศ ซึ่งเราก็ทราบมาตั้งแต่ต้น ตนจึงย้ำว่าเราจะดำเนินการตามข้อตกลงและกฎหมาย รวมถึงยึดผลประโยชน์ของชาติโดยจะดำเนินการด้วยความรอบคอบและคำนึงถึงสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศทุกประเทศ และเราก็คาดหวังว่ามิตรประเทศจะเข้าใจเราเช่นกันว่าการดำเนินการใดๆเมื่อมีความละเอียดอ่อน มีกฎหมายและมีสนธิสัญญากำกับอยู่เราต้องดำเนินการตามความถูกต้อง

ส่วนกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทเดินทางไปพบกับนายบูทในเรือนจำจนถูกวิจารณ์ว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีประเด็นเรื่องการไปใช้อำนาจอะไรทั้งสิ้น แต่เรื่องนี้คงต้องถามนายศิริโชค ทั้งนี้ตนเข้าใจว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ออกมายืนยันทั้งหมดแล้วว่าไม่มีกรณีที่ไปใช้อำนาจ หรือการไปต่อรองอะไรทั้งสิ้น แต่คนที่ต้องรับผิดชอบคำพูดมากกว่าคือคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา และสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลและกระบวนการยุติธรรม เพราะมันใช่เรื่องจริง เมื่อถามว่า ส.ส.สามารถเข้าไปผู้ต้องหาในเรือนจำได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนธรรมดาก็เข้าไปได้ เพราะทุกอย่างมีระเบียบอยู่ 

แต่การที่ นายบูท เป็นผู้ต้องหาคดีสำคัญและคดีระหว่างประเทศถือว่าเหมาะสมที่นายนศิริโชคจะเข้าไปหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีสิทธิ์และกฎระเบียบอยู่ ส่วนการเข้าไปเยี่ยมนายบูทคงต้องถามนายศิริโชคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตนไม่ได้เป็นคนมอบหมายให้นายศิริโชคไปพบกับนายบูท แต่เมื่อไปพบมาแล้วตนก็ได้สอบถามเรื่องที่นายศิริโชค พยายามอธิบายต่อสภาฯเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา และเห็นได้ว่าแม้จะมีผู้เสนอข้อมูลมามากเกี่ยวกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบาลไม่เคยปรักปรำอะไรต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเราฟังข้อมูลจากทุกด้าน

ด้านคดีของนายบูท เกี่ยวโยงกับคดีเครื่องบินสัญชาติจอร์เจียที่ขนอาวุธจากเกาหลีเหนือมาจอดที่ประเทศไทยอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูด เมื่อเรารับข้อมูลอะไรมาเราก็นำมาพิจารณาเท่านั้นและไม่เคยไปกล่าวหาใคร แต่คนที่กล่าวหารัฐบาลถ้ามาอยู่ในฐานะเดียวกับพวกตนและได้เห็นข้อมูลหลายอย่าง ป่านนี้คงสร้างเรื่องใหญ่โตไปแล้ว แต่เราให้ความเป็นธรรมกับทุกคนว่าถ้าแม้มีผู้ส่งข้อมูลเข้ามา หลักฐานและพยานไม่ชัดเจนเราก็ไม่ไปกล่าวหาและปรักปรำใคร

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์