ประชุมงบพุ่งเป้าชำแหละกองทัพหมกเม็ดซื้ออาวุธ

ฝ่ายค้าน รุมชำแหละงบประมาณกระทรวงกลาโหม ชี้ หลายรายการคล้ายมีการหมกเม็ด ชี้แจงได้ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะกรณีการซื้อเครื่องบินกริพเพน เรือเหาะ และรถหุ้มเกราะ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรตลอดทั้งวันพุ่งเป้าไปที่ มาตรา 6 งบประมาณของกระทรวงกลาโหมจำนวน 170,285,022,900 ล้านบาท โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายขอปรับลดร้อยละ 10 จากงบทั้งหมด 1.7 แสนล้านบาท เนื่องจากเห็นว่า เป็นงบประมาณที่มากเกินไปทั้งที่สังคมยุคโลกาภิวัฒน์ที่เน้นเรื่องการทำสงครามการค้า เรื่องปัญหาสังคมแต่ประเทศไทยยังมุ่งแต่สะสมอาวุธที่มีราคาแพง ไม่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงสวนทางกับทั่วโลกที่พยายามลดการสะสมอาวุธเพื่อสันติสุข ขณะที่รถยานเกาะล้อยางที่ก่อนหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ได้ทำเรื่องคัดค้านถึงความเหมาะสมแต่ทางกองทัพกลับอ้างว่าไม่ได้รับการประสานจาก สตง. จึงทำให้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมนำไปอ้างว่า สตง.ไม่คัดค้าน  

ด้าน ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงความไม่โปร่งใสในการบริหารงบประมาณของกองทัพ ว่ามีความพยายามปกปิดรายละเอียดหลายเรื่อง และตั้งราคาไว้สูงเกินจริงอาทิ ตั้งงบซ่อมแซมห้องแถว 10 คูหาใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท การจัดซื้อเครื่องจีที 200 การจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน และ ตั้งงบ 120ล้านบาทไว้สำหรับซื้อรถหุ้มเกราะแลนซ์โรเวอร์วีเอสจากสหราชอาณาจักรกันกระสุนคันละ 6 ล้านบาทจำนวน 20 คันเพื่อใช้รับรองผู้นำที่จะมาประชุมอาเซียนที่ จ.ระยอง เพียงเพื่อผู้บริหารระดับสูงในคณะรัฐมนตรีต้องการจะนำรถเหล่านั้นมาใช้งานเองภายหลังเสร็จงาน  

ร.ท.ปรีชาพล อภิปรายอีกว่าที่ตนติดใจและขอปรับลดคือ การจัดซื้อปืน 50,000 กระบอก รถถัง 7,200 ล้านบาท เฮลิปคอปเตอร์ลาดตระเวน 1,800 ล้านบาท และรถบรรทุกขนาดใหญ่ซึ่งตนติดใจเพราะมีราคาที่แพงและไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ทั้งนี้ยังมีการจัดซื้อรถบรรทุกของกองทัพตกคันละ 3 ล้านบาทแต่กองทัพขอลดได้แค่คันละ 1,500 บาท ถ้าเทียบกับที่ชาวบ้านซื้อมอเตอร์ไซต์ฟีโน่ยังลดได้มากกว่านี้อีก 

ร.ท.ปรีชาพล อภิปรายว่านอกจากนี้ยังมีความไม่ชอบมาพากลมีการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ 16 ลำที่เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางรายอย่างชัดเจนจนศาลปกครองมีคำพิพากษาว่าผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงกลาโหมและกองทัพจำนวน 9 คน ต้องตกเป็นจำเลยในเรื่องดังกล่าว หลังจากที่บริษัทที่ถูกกีดกันนำเรื่องไปฟ้องร้องยอมรับว่าการจะตรวจสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้แต่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่า สตง.ยังเคยถูกข่มขู่กลับมาหลังจากลงไปขอเอกสารเพื่อตรวจสอบ

ขณะที่ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การทำงานของ กมธ.งบประมาณไม่ให้ความใส่ใจกับงบประมาณในการซื้ออาวุธของทัพในหลายกรณีไม่ว่าจะเป็นการซื้อเรือเหาะของกองทัพบก304 ล้านบาทเพื่อใช้ในราชการ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการทำสัญญาไม่ผ่านการพิจารณาของอัยการสูงสุดพบว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณจัดซื้อไปแล้ว100%โดยที่ไม่มีการขอให้บริษัทคู่สัญญาของรัฐส่งสินค้ามาให้ทดลองใช้ก่อนเพื่อตัดสินใจซื้อ 

พ.ต.ท.สมชาย อภิปรายอีกว่าในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. มีหนังสือลับวันที่ 28 เม.ย.52 ชี้แจงไปยังเลขาธิการป.ป.ช.เรื่องราคาเรือเหาะกับเครื่องไม่รวมกล้องราคา 98 - 112 ล้าน ตนสงสัยว่าทำไมตัวเลขคลุมเครือ เมื่อเชิญฝ่ายกองทัพมาชี้แจง ทราบว่า ราคา 102 ล้านบาทเมื่อไปตรวจสอบกับศุลกากร ดูใบกำกับภาษี ของบริษัทแอเรียอินเตอร์เนชั่นแนลสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาแค่ 1.5 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 50 ล้านบาทเท่านั้น  

พ.ต.ท.สมชาย อภิปรายว่าเช่นเดียวกับการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนจากสวีเดนก็มีความไม่ชอบมาพากลเช่นกันเพราะมีข้อมูลมาว่ามูลค่า 1.9หมื่นล้านบาทโดยประมาณในการจัดซื้อฝูงบินนั้นยังไม่รวมอุปกรณ์อื่นๆที่ต้องใช้ควบคู่กับตัวเครื่องด้วยเข่น จรวด ราคาประมาณ 20 ล้านบาทต่อหนึ่งชิ้นรวมทั้งกระสุนซ้อมยิงที่มีมูลค่าประมาณ 4พันบาทต่อหนึ่งนัดซึ่งกองทัพอากาศต้องใช้ปีละ 5 หมื่น นัด เป็นต้น ส่วนตัวไม่ปฎิเสธการเสริมสร้างควมเข้มแข็งของกองทัพอากาศแต่ทว่าการจะจัดซื้อต้องมีความโปร่งใสและคุ้มค่าต่อเงินภาษีของประชาชน ที่น่าสนใจที่สุด คือการซื้อรถหุ้มเกราะล้อยางจากยูเครนที่จนถึงวันนี้มีการจ่ายเงินไปแล้วกว่า 500 ล้านบาทแต่ยังไม่เห็นรถสักคัน และยังมีความผิดปกติตรงที่การใช้เครื่องเรือมาติดใส่รถทั้งๆที่ไม่มีสายการผลิต ซึ่งในเรื่องสายการผลิตจะเป็นปัญหาต่อการดำเนินการซ่อมบำรุงในอนาคตที่จะหาอะไหล่ได้ยาก”พ.ต.ท.สมชาย กล่าว 

พ.ต.ท.สมชาย อภิปรายตอนท้ายอีกว่าการจัดซื้ออาวุธของกองทัพยังไม่ได้เป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมของไทยด้วยอย่างในกรณีการจัดซื้อชุดปราบจลาจลจำนวน 66ล้านบาทก็ไปสั่งซื้อที่ประเทศอินโดนีเซียที่มีราคาต่อชุดประมา 1.3 - 1.6 หมื่นบาท ทั้งๆที่ในไทยก็สามารถผลิตได้เพราะไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีซับซ้อนซึ่งสามารถผลิตได้ในราคาประมาณ9 พันบาทต่อหนึ่งชุดเท่านั้น

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์