ปลื้ม ยันแค่ลองงาน ยังไม่คิดเล่นการเมือง



“ปลื้ม”ยันแค่อยากลองงาน แต่ยังไม่คิดเล่นการเมือง ด้าน “นิพิฏฐ์” เชื่อ ทายาท ชวน หลีกภัย จะเป็นนักการเมืองที่ดีได้...

นายสุรบถ หลีกภัย กล่าวถึงกรณีการเข้ารับตำแหน่งรองโฆษกกระทรวงกระทรวงวัฒนธรรม ฝ่ายการเมืองว่า การเข้ามาทำงานนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะบิดา ไม่ได้ขัดขวางหรือสนับสนุน แต่อยากจะให้ตนลองอะไรที่หลากหลาย คือไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องมาเล่นการเมืองหรือไม่เล่นการเมือง ท่านเพียงแต่บอกว่าหากเป็นอะไรที่ตนเลือกแล้วก็ถือว่าตามนั้น

โดยส่วนตัวที่เข้ามาทำงานกระทรวงวัฒนธรรม เพราะสนใจในด้านนี้อยู่ก่อนแล้ว ถ้าถามว่าตรงนี้เป็นการปูทางด้านการเมืองหรือไม่นั้น ก็ตอบไม่ได้ คืออยากใช้คำว่า ขอลองดูก่อน ซึ่งตนไม่ได้เข้ามาลองแบบเด็กๆที่ไม่มีอะไร แต่จะตั้งใจทำงานเพื่อกระทรวงและเพื่อประชาชน เตรียมชงงานด้านวัฒนธรรมควบคู่โฆษกกระทรวง

นายสุรบถ กล่าวอีกว่า งานหลักๆคือ ตามตำแหน่งรองโฆษกกระทรวงฝ่ายการเมือง ส่วนการที่นายนิพิฏฐ์ ออกมากล่าวว่า เชื่อว่าตนจะเป็นนักการเมืองที่ดีได้นั้น หากถึงขั้นที่ตนเลือกที่จะเล่นการเมือง ก็ขอขอบคุณนายนิพิฏฐ์ที่เชื่อมั่นในตน เมื่อถามว่า ถือเป็นการชิมรางงานการเมืองได้หรือไม่ นายสุรบถ กล่าวว่า ตนรู้สึกว่าการเมืองเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน อยากจะลองดู

ส่วนจะมีโครงการอะไรที่อยากจะนำเสนอหรือไม่ นายสุรบถ กล่าวว่า ตนคิดว่าจะทำในด้านที่เกี่ยวกับการแสดง โดยเฉพาะเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็นโขน ลำตัด รำไทย ดนตรีไทย ตนจะนำมาทำเป็นร่วมสมัย เพื่อที่จะให้วัยรุ่นกลับมาสนใจในวัฒนธรรมไทยมากกว่าวัฒนธรรมชาวต่างชาติ ว่า วัฒนธรรมไทยมีเอกลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบและสวยงาม หากตนมีโอกาสคงต้องมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีวัฒนธรรม และเรื่องการเชิดชูคนดีที่ทางกระทรวงได้ทำอยู่ เพราะตนอยากให้ประชาชนทราบว่าการทำความดีมีคนมองเห็นและสนใจ ไม่ใช่ว่าทำดีแล้วหายไป

ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณี ที่แต่งตั้งนายสุรบถ หลีกภัย เป็นรองโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม ว่า ตนยังไม่ได้เรียนนายชวน ตนคิดว่าท่านคงทราบจากข่าวที่ออกมาเมื่อวานนี้(10 ส.ค.) 

ส่วนสาเหตุในการแต่งตั้งดังกล่าว เพราะมองลึกลงไปถึงบทบาทภายในพรรคด้วยหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องของพรรค แต่ในอนาคตตนคิดว่า นายสุรบถ น่าจะเป็นนักการเมืองที่ดี ตนหวังให้เป็นนักการเมืองที่ดี ดังนั้นก็ต้องสร้างสมประสบการณ์

“ผมบอกเขาว่า อายุเขาและประสบการณ์ของเขาควรที่จะฝึกงานด้านการเมืองได้แล้ว ก็โทรไปบอกเขาว่าหากสนใจงานด้านการเมือง ก็มาทำงานด้วยกัน เขาก็ตกลง ในส่วนของท่านชวนอาจจะยังไม่ทราบ แต่อาจจะทราบจากข่าวเมื่อวานแล้ว คือหลักๆผมโทรไปคุยกับเขาว่าประสบการณ์ของเขาน่าจะทำงานการเมืองอย่าง จริงจังได้แล้ว”

นอกจากนี้ นายนิพิฏฐ์ ในฐานะคณะทำงานต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเป็นห่วงกับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายกฯให้กำลังใจอยู่เรื่อยๆกับคระทำงาน ส่วนการนัดสืบพยานคดียุบพรรคนั้น จะต้องดูคำให้การของทางฝ่ายผู้ร้องก่อน จึงจะสามารถแก้คำให้การได้

เมื่อถามถึงแนวทางของพรรคจะมีการต่อสู้ในด้านใดบ้าง นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ทุกด้าน โดยการซักถามจะต้องซักให้คำให้การของฝ่ายพยานดูไม่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว ส่วนพยานปากหลังจะฟังพยานปากก่อนเบิกความไม่ได้ เพราะหากมีการฟังปากแรกเมื่อรู้ว่าคำให้การเป็นอย่างไร ก็จะมีการให้การสอดคล้องกับพยานปากแรกได้ ซึ่งเป็นหลักที่จะต้องไม่ให้รับฟัง ตนคิดว่าคนระดับสูงของ กกต.น่าจะทราบข้อกฎหมายเหล่านี้ แต่ทำไมจึงยังฟังพยานปากแรกอยู่

ทั้งที่อ้างพยานอยู่แล้ว จึงมีข้อสงสัยว่าต้องการอะไรกันแน่ ทั้งนี้ ตัวพยานเบิกความจะดีกว่า ในพยานสำคัญ เพราะเวลาที่เขียนคำให้การจะเขียนอย่างไรก็ได้ แต่จะเป็นจริงหรือไม่นั้น ต้องมีการซักถาม โดยหลักหากเป็นปฏิปักกันมาเบิกความ ความน่าเชื่อถือจะน้อยลง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นทุกครั้ง หากเป็นเรื่องข้อเท็จจริง แต่ต้องเห็นจริง หรือรู้จริงจึงจะมีน้ำหนัก เมื่อถามว่าทางพรรคมีการประเมินอย่างไร นายนิพิฏฐ์ ตอบว่า ตนคิดว่าประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนหรือต้นเดือนธันวาคมน่าจะเสร็จสิ้น ส่วนแนวทางในการรองรับนั้นตนบอกไม่ได้ คนทุกคนต้องเตรียมตัวทั้งนั้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์