ธาริตล้วนๆ

โฟกัสข่าวใหญ่ในหลายๆ วันที่ผ่านมา ชื่อของ "นาย ธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กลายเป็นชื่อหลักที่ถูกพูดถึงแทบทุกวัน

เรียกว่าหากไม่นับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ แล้ว

นายธาริต นี่แหละถือว่ามีข่าวบ่อยครั้งมากที่สุด

เรียกว่าเป็นข้าราชการประจำที่ฮิตฮอตแซงหน้านัก การเมือง หรือรัฐมนตรีหลายๆ กระทรวงก็ว่าได้

แต่ไม่แน่ใจว่านายธาริต จะเป็นปลื้มกับการตกเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งหรือไม่!?

เพราะแต่ละเรื่องที่ออกมาไม่ใช่ข่าวดีสักเท่าไหร่

นับตั้งแต่ยุคศอฉ.ครองเมือง (จริงๆ ตอนนี้ก็ยังครอง อยู่นั่นแหละ) ช่วงพันตูกับม็อบแดง นายธาริต ออกทีวีรวมการเฉพาะกิจบ่อยครั้ง ในนามศอฉ.

จนกลายเป็นบทบาทที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง เพราะทำ ให้ภาพของนายธาริต แนบแน่นกับอำนาจรัฐ ทั้งๆ ที่โดยตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม

แม้สังคมโดยองค์รวมจะรู้ว่า "การเมือง" ต้องเข้าไปก้าวก่ายแน่นอน ไม่ต่างจากตำรวจ

แต่การออกมาเลือกข้างอย่างประเจิดประเจ้อ กลายเป็นปัญหาความน่าเชื่อถือเมื่อต้องมาทำงานสอบสวนคดี เกี่ยวกับม็อบ และอื่นๆ ในตอนนี้

จนมีคำถามว่านายธาริต ทำงานสนองการเมืองมากเกินไปหรือไม่!?

หลายๆ คดีที่มีผลออกมาดูเหมือนรัฐบาลจะได้ประโยชน์จากดีเอสไอ มากเป็นพิเศษ

ช่วงนี้เองนายธาริตเจอทีเด็ดพรรคฝ่ายค้านและ "เฮียเม้ง" ที่เปิดตัวแฉเรื่องการจ่ายเงิน 1.5 แสนบาทให้ภรรยานายธาริต

เรื่องคดีความหรือการสอบสวนหาความผิดกรณีเงิน 1.5 แสนบาท ไม่แน่ชัดว่าผลจะออกมาอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ คือนายธาริต ได้รับผลกระทบในทางลบแน่นอน

รวมไปถึงผลงานล่าสุดคือการตีปี๊บเรื่องจดหมายขู่ฆ่า

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ต้องปิดเงียบ และสืบสวนอย่างลับๆ มากกว่าการออกมาประโคมข่าวใหญ่โต และจัดทีมรปภ. คุ้มกันอย่างเอิกเกริก

การประโคมข่าวเป็นวิสัยของนักการเมือง เพื่อหาเสียง ขอคะแนนความเห็นใจ และดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามไปในตัว

แต่มาเกิดกับข้าราชการประจำ แถมเป็นผู้นำหนึ่งในองค์กรด้านยุติธรรม ซึ่งมีโครงการคุ้มกันพยานไว้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่ชี้เบาะแสคดีความต่างๆ

ถ้าขนาดอธิบดีดีเอสไอ ได้รับจดหมายขู่ฆ่ายังผวา จัดหาบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง

แล้วคนที่อยู่ในโครงการคุ้มครองพยานของดีเอสไอ จะรู้สึกอย่างไร

ถามจริงเถอะทำอะไรเคยคิดอย่างรอบด้าน ถึงผลดี ผลเสียที่จะตามมาหรือไม่!?