ตำรวจระบุแก๊งรถตู้ ลูกน้องเสธ.แดง มือปาระเบิด ธ.กรุงเทพฯสีลม เชื่อมโยงเหตุบึ้มบิ๊กซีคาดหนีกบดานเขมร

ตำรวจระบุแก๊งรถตู้ ลูกน้องเสธ.แดง มือปาระเบิด ธ.กรุงเทพฯสีลม เชื่อมโยงเหตุบึ้มบิ๊กซีคาดหนีกบดานเขมร

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม  พล.ต.อ.ภาณุพงศ์  สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ10)  พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์  รองผบช.น. พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ผบก.ส.2  พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.สส. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5  พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1  พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5  ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไทและฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี  กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี)กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันประชุมคดีคนร้ายลอบวางระเบิดที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ และเหตุระเบิดตรงข้ามโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์

           
ก่อนเข้าห้องประชุม  พล.ต.อ.ภาณุพงศ์  เชิญสื่อมวลชน ร่วมแถลง กล่าวว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. สั่งการให้ตนติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดพร้อมทั้งปรับแผนการทำงาน โดยเน้นดำเนินการเป็น 3 ส่วน 1.ชุดสืบสวนสอบสวนให้มุ่งเน้นสืบสวนในช่วงก่อนเกิดเหตุ ขณะที่เกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ 2.ให้ พล.ต.ท.สัณฐาน  จัดชุดปฏิบัติการเชิงรุกกับกลุ่มผู้ต้องสงสัยต่างๆ ที่เรามีข้อมูลอยู่และได้ดำเนินการไปส่วนหนึ่งแล้ว และ 3.รรท.ผบ.ตร. เน้นย้ำให้พยายามแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนมีการดำเนินการและได้รับผลความคืบหน้าระดับหนึ่ง  โดยเฉพาะในการดำเนินการส่วนที่ 2 ชุดสืบสวนสอบสวนผลคืบหน้า คดีระเบิดหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ ท้องที่สน.ลุมพินี 


ในที่ประชุม พล.ต.ท.สัณฐาน พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.สส. ร่วมกับ พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์  ผกก.กก.3 บก.สส. พ.ต.ต.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน สว.กก.3 บก.สส. แถลงข่าวความคืบหน้าคดีระเบิดหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ โดยพ.ต.ต.สมบูรณ์ กล่าวว่า เชิญตัว น.ส.ปฏิภัค หรือเป็ด เอกอภิวัชร์ อายุ 41 ปี มาสอบสวน ซึ่งคดีระเบิดหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ หลังจากได้รวบรวมพยานหลักฐานพบว่า แผงวงจรไฟฟ้าที่ต่อระเบิด และสายไฟ จากการตรวจสอบปรากฏว่า ใกล้เคียงและคล้ายกันกับเหตุระเบิดและเหตุที่พบระเบิด 5 จุด ในท้องที่สน.ปทุมวัน สน.โคกคราม สน.บางชัน และสน.นางเลิ้ง 2 คดี


พ.ต.ต.สมบูรณ์ กล่าวต่อว่า แต่จุดที่สามารถขยายผลได้ คือ สน.โคกคราม ที่พบระเบิดต่างๆในรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ที่มาจอดทิ้งไว้ ที่ริมน้ำอพาร์ตเม้นต์ โดยพบแผงวงจรระเบิดที่ต่อไว้ เหมือนกับเหตุระเบิดท้องที่สน.ลุมพินี และอีก  4 สน.ดังกล่าว จากการตรวจสอบทราบว่า น.ส.ปฏิภัค เฝ้าสถานที่ที่รถนั้นจอดอยู่ หลังเชิญตัวมาสอบปากคำก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า นายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี เป็นคนขับมาจอด โดยมีนายเสก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ขับรถตู้มารับผู้ร่วมขบวนการออกไปซึ่งมีทั้งหมด  3 คน น.ส.ปฏิภัค ให้ข้อมูลด้วยว่า มีนายธนเดช หรือไก่ เอกอภิวัชร์ น้องชายตนเอง ร่วมมือด้วยโดยทั้ง 3 คนนั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน


พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดระเบิดที่ห้างบิ๊กซี ราชดำริ ก็มีการสืบสวนย้อนรอยกลับไป จนพบว่า น.ส.ปฏิภัค พักอยู่ในห้องตรงกับรถฮอนด้า ซีวิค หลังสืบสวนสอบสวนเชิงลึกทราบว่า น.ส.ปฏิภัค ก็ออกจากห้องพักไปแล้ว จนกระทั่ง บก.สส.ก็สามารถติดตามตัวมาได้ น.ส.ปฏิภัค ก็ยอมรับว่า รถฮอนด้ามีนายเกียรติศักดิ์ เป็นเพื่อนของน้องชาย และเคยมาที่บ้านหลายครั้ง เรียกว่า เป็นแก๊งรถตู้ โดยทั้งหมดมาด้วยกัน นายอ้วน เป็นคนขับ นอกจากนี้ยังในที่เขี่ยบุหรี่ในรถเก๋งฮอนด้าก็ยังพบ หมายเลขโทรศัพท์ซึ่งเป็นของนายผัน ไม่ทราบนามสกุล ตนเชื่อว่า เป็นคนในเครื่องแบบขณะนี้กำลังติดตามตัวอย่างใกล้ชิด
 

พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงมาถึงคดีที่สามารถจับกุมคนร้าย ที่ปาระเบิดที่หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม เป็นเด็กหนุ่มรูปหล่อสูงใหญ่ ผู้ที่นำระเบิดมาขว้างนั้นก็เป็นแก๊งรถตู้ โดยมี เสธ.ไก่ ซึ่งไม่ใช่ทหาร เป็นคนธรรมดาแต่เรียกกันว่า เสธ.ไก่ แก๊งนี้เป็นลูกน้องเสธ.แดง ทั้งหมด นี่คือกลุ่มของเสธ.แดงทั้งหมด แต่เหนือจากเสธ.แดง ก็มีอยู่ก็คือ"คนแก่"  อันนี้ต้องไปตีความเอาเองก็แล้วกัน


ผบช.น. กล่าวอีกว่า วงจรที่เห็นตนเชื่อว่า เชื่อมโยงกัน และคดีนี้ขึ้นกับดีเอสไอ ตนก็จะพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป เบื้องต้นต้องสอบปากคำบันทึกขั้นต้นไป ส่วนนายธนเดช หรือไก่ น้องชายน.ส.ปฏิภัค ไม่ได้อยู่บ้าน จากการสืบสวนทราบว่า อยู่ทางด้านชายแดนเขมร ทั้งนี้ต้องขอบคุณน.ส.ปฎิภัค ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จริงๆแล้วขั้นต้นตนบอกตรงว่า คิดเอาเป็นผู้ต้องหาด้วยซ้ำไป เพราะรถมาจอดอยู่เป็นเดือนไปแจ้งไม่บอกกล่าวอะไรเลย แต่พอดูคำให้การแล้วเชื่อว่า ให้การที่เป็นประโยชน์ ซึ่งก็จะมีการติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดต่อไป ถามว่า ทั้งหมดสามารถออกหมายจับได้แล้วหรือยังรวมทั้งน.ส.ปฎิภัค  พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า การออกหมายจับหรือไม่ต้องอยู่ที่ดีเอสไอ เพราะการสอบสวนไม่ได้อยู่กับตำรวจแล้ว
 
 

พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คดีระเบิดดังกล่าวมีการชี้แจงจากเหตุผล และผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจสอบ ทั้งหมดนั้นใช้วิทยาศาสตร์นำหน้าเพื่อเชื่อมโยงคดี แต่ละคดีในอดีตตัวละครที่เกี่ยวข้องเป็นใคร เชื่อว่า ตัวละครที่เกี่ยวข้องในอดีตมาเชื่อมกับคดีที่ห้างบิ๊กซี ราชดำริ ท้องที่สน.ลุมพีนี น.ส.ปฏิภัค ก็ให้ความร่วมมือบอกข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้อง หน้าที่ของฝ่ายตำรวจขณะนี้รับผิดชอบในส่วนของงานสืบสวนเราก็จะสืบสวนสนับสนุนกรมสอบสวนคดีพิเศษ



ถามต่อว่า จะนำคดีนี้ไปเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่วางระเบิดหน้าบริษัท คิงเพาเวอร์หรือไม่ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า คดีระเบิด คิงเพาเวอร์ไม่เชื่อมโยงคดีท้องที่สน.ลุมพินี และสน.โคกคราม แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์คดีระเบิดคิงเพาเวอร์ จะไปเชื่อมคดีท้องที่ สน.ประชาชื่น ขณะนี้อยู่ระหว่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ โดยการตรวจสอบนั้นละเอียดมาก แม้แต่การตัดสายไฟ องศาเฉียงของการตัด รอยคมต่างๆ ผู้ชำนาญของกองพิสูจน์หลักฐาน นักวิทยาศาสตร์มีความละเอียดรอบคอบ รวมทั้งกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจวัตถุระเบิดก็ประสานกัน ซึ่งสามารถตอบคำถามความเชื่อมโยงได้


เมื่อถามว่า นายอ้วน กับนายเสก ยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า กำลังติดตามตัว ตนจะวางระบบงาน แบ่งมอบหน้าที่กันทำ เชื่อว่า น่าจะติดตามตัวได้ ถ้าได้ตัวมาครบทีมสิ่งต่างๆ ก็จะเปิดเผยมาเองว่า ใครเกี่ยวข้อง ใครเป็นผู้จ้างวาน ถามว่า เหตุระเบิดเป็นไปได้อย่างสูงคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นกลุ่มเดียวกัน หลังตรวจสอบบางคดีสามารถเชื่อมโยงกันได้ บางคดีก็เกิดขึ้นโดดๆ ไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ ถามว่า กลุ่มคนร้ายยังมีความเคลื่อนไหวและคาดว่าจะทำต่ออีก พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า ผลการสืบสวนมาถึงระดับนี้ และรรท.ผบ.ตร. ก็มีการปรับแผนการทำงาน ระดมจุดตรวจจุดสกัด ถ้ากำลังไม่พอก็จะมีการสั่งภูธร 1 และ 7 เข้ามาร่วมแต่ขณะนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้


 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยคดีซอยรางน้ำ ตรงข้ามโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า ได้ภาพมาพอสมควร แต่ต้องตรวจสอบว่า ใช่คนร้ายหรือไม่ การที่จะระบุหรือยืนยันว่าเป็นคนร้ายต้องชัดเจนมากว่านี้ ถามว่า กรณีจะมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ 30 คน เกี่ยวกับคดีระเบิด พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า เป็นการปฏิบัติการเชิงรุกอาจจะมีอดีตข้าราชการ หรือข้าราชการ ที่มีความรู้ บางคนแต่มีความขว้างขวาง เป็นการแสวงหาความร่วมมือกับประชาชน และการปฏิบัติการเชิงรุกกับผู้ต้องสงสัยอีกส่วนหนึ่ง ส่วนรายละเอียดคดีก็จะส่งกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์