เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 ก.ค. นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง แถลงที่พรรคเพื่อไทย
ถึงกรณีที่รัฐบาลยืนยันว่าการใช้นโยบายประชานิยมของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่กระทบกับฐานะทางการคลังว่า จากการติดตามตัวเลขต่างๆ ของการดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดนี้พบว่า การใช้ประชานิยมของรัฐบาลตลอดระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมาได้ทำให้หนี้ประชาชาติ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 37 เปอร์เซ็นต์เป็น 42 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 4.2 ล้านๆ บาท โดยหนี้ต่อหัวของประชาชนเพิ่มขึ้นกว่าคนละ 2 หมื่นบาท เพราะในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั้นหนี้ต่อหัวของประชากรอยู่ที่ 5 หมื่นบาท แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นบาทแล้ว
ดังนั้นการใช้นโยบายลดแลกแจกแถมนั้นกระทบกับฐานะการคลังแน่นอน และนโยบายรัฐบาลในปีงบประมาณ 2554 นั้นเป็นงบประมาณขาดดุลมโหฬารที่สุดถึง 4.2 แสนล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้เป็นการกู้เงินมาเพื่อจ่ายดอกเบี้ย กู้มาแจกและกู้มาโกง ซึ่งถ้านำกรณีของรัฐบาลไปเทียบเคียงกับครอบครัวๆหนึ่ง จะพบว่าหากครอบครัวไหนจำเป็นจะต้องกู้เงินไปจ่ายดอกเบี้ย ที่เกิดหนี้นั้นอีกไม่นานก็คงต้องล้มละลาย
นายสุชาติ กล่าวว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในช่วงรัฐบาลชุดนี้พบลักษณะของการปั่นหุ้นเป็นระยะๆ โดยเป็นการปั่นหุ้นเป็นตัวๆ ไป ซึ่งก่อนหน้านี้จะพบว่ามีความพยายามที่จะปั่นหุ้นของธนาคารแห่งหนึ่ง แต่มาก็พบความเคลื่อนไหวที่จะปั่นหุ้นของไทยคม
ล่าสุดมีความน่าเป็นห่วงว่ากำลังมีความพยายามที่จะปั่นหุ้นการสื่อสาร โดยมีการปล่อยข่าวการแปลงสัญญาสัมปทานของบริษัทเอกชนให้เป็นในอนุญาตการสื่อสารในระบบ 2 จี จนทำให้บางบริษัทหุ้นขึ้นผิดปกติ จึงอยากจะให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เข้าไปตรวจสอบ เพราะทั้งหมดนี้น่าจะเข้าลักษณะของการปั่นหุ้นอย่างชัดเจน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
