ขวางตั้งพล.ร.7 เชื่อใช้เป็นเครื่องมือการเมือง

“เสด็จพี่”ชี้เตรียมรายละเอียดศอฉ.ผลาญงบ 5 พันล้าน เฉลี่ยวันละ 35 ล. ฉะนัดคู่กรณีเปิดเซฟเจอเพชรอยู่ครบแค่ละคร


วันนี้ ( 27 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย

กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่ากระทรวงกลาโหมเตรียมเสนอตั้งกองพลทหารราบที่ 7 จ.เชียงใหม่ (พล.ร.7)  ว่า การเสนอตั้งพล.ร.7 ภายใต้งบประมาณกว่าพันล้านบาทว่า ตนเชื่อว่ามีความต้องการของฝ่ายการเมืองที่หวังแปรเปลี่ยนจุดประสงค์เดิมที่ต้องการสกัดกั้น ปราบปรามยาเสพติด มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองใช้กับคนเสื้อแดงที่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากประชาชนภาคเหนือให้การสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงต้องการทำลายแนวร่วม ตนอยากเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์แสดงวุฒิภาวะ อย่าเอื้อประโยชน์ให้ทั้งกองทัพในเรื่องงบประมาณและฝ่ายการเมือง โดยใช้งบประมาณซึ่งมาจากภาษีประชาชน ซึ่งนับแต่ตั้งศอฉ.จนถึงวันนี้ ใช้งบไปแล้วกว่า 5 พันล้านบาท เฉลี่ยวันละกว่า 35 ล้านบาท หรือเดือนละพันกว่าล้าน ถามว่าเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง ซึ่งเราจะนำรายละเอียดมาเปิดเผยต่อไป และกระทรวงกลาโหมเสนอวาระตั้งพล.ร.7 เข้า ครม.เมื่อไหร่จะยื่นกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบทันที

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา เลขานุการรัฐมนตรียุติธรรม

ได้เชิญเจ้าของร้านจิวเวลรี่ที่ร้องว่าเพชรของกลางหายพร้อมด้วยตำรวจ ทหาร และดีเอสไอ ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการเปิดตู้เซฟเก็บของกลางที่เก็บไว้ที่ดีเอสไอเพื่อเปิดตรวจสอบนับจำนวนเครื่องประดับที่ดีเอสไอรับมาเป็นของกลางในคดีก่อการร้าย 40 รายและ พบของกลางอยู่ครบพร้อมอ้างว่าปัญหาเกิดจากความเข้าใจผิดในหน่วยนับเครื่องประดับนั้น  คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยวิเคราะห์ว่าเรื่องนี้น่าจะมีเงื่อนงำ และน่าจะเป็นแค่ละครฉากหนึ่งที่สร้างขึ้นภายหลังการสมยอมระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าของ เหมือนเล่นละครปาหี่ตบตาประชาชนเท่านั้น แต่เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำความผิดจริง นายกฯต้องตั้งกรรมากรตรวจสอบ เชื่อว่าเมื่อเกิดเรื่องก็นำมาคืนเหมือนกรณีเพชรซาอุฯ กรณีนี้นัดหมายเปิดเซฟแล้วเจอของอยู่ครบก็เช่นกันคงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างขึ้นมารักษาภาพลักษณ์เจ้าหน้าที่รัฐ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์