´สุริยะใส´ เสนอรัฐบาลทบทวนสื่อของรัฐทั้งระบบ

"ครป.สนับสนุนแนวคิด"


นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แถลงวานนี้ (5 พ.ย.) ว่า ครป.สนับสนุนแนวคิดการปฏิรูปบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ตามแนวทางของคณะกรรมการบริหาร หรือ บอร์ด อสมท และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท คนใหม่ ที่ชูแนวคิดสัมมาปัญญา เน้นการนำเสนอข่าวสาร และสาระต่อสังคม โดยไม่มุ่งแสวงหากำไรเป็นหลัก ที่ผ่านมา รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แปรรูป บมจ.อสมท ทำให้กำไรที่ได้จากกิจการ บมจ.อสมท ต้องนำมาแบ่งปันให้ผู้ถือหุ้น แทนที่จะคืนกำไรให้ประชาชนและสังคม อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดังนั้นบอร์ด บมจ.อสมท ต้องทบทวนการจัดสรรรายได้ เพื่อคืนกำไรแก่สังคม

เลขาธิการ ครป. กล่าวต่อไปว่า เพื่อสนองนโยบายและแนวคิดของบอร์ดชุดใหม่ ควรนำช่วงเวลาหลัก หรือไพร์มไทม์ คือ เวลา 16.00 - 21.30 น. มานำเสนอรายการข่าวสาร และสาระ เปิดเวทีให้ภาคประชาสังคม สามารถเข้าถึงและถกแถลงวาระแห่งชาติ ได้อย่างเสมอภาค ไม่ใช่นำช่วงดังกล่าวไปสนองผลประโยชน์หรือกำไรผู้ถือหุ้นเท่านั้น นอกจากนี้ ต้องกล้าทบทวนสื่อที่อยู่ในกำกับของ บมจ.อสมท ทั้งระบบ คือสถานีวิทยุ 62 คลื่น ธุรกิจในเครือยูบีซี กว่า 100 ช่อง สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 และช่อง 3

"ต้องตอบโจทย์การปฏิรูปสื่อ"


นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า บอร์ด อสมท จะต้องตอบโจทย์การปฏิรูปสื่อที่สังคมเคยวางรากฐานไว้กับรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ระบุว่า ทรัพยากรคลื่นความถี่ เป็นทรัพยากรสื่อสารสาธารณะ แต่รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลักไก่และฉวยโอกาสกับกลุ่มทุนบางกลุ่มแปรรูป บมจ.อสมท เอาทรัพย์สินของประชาชนไปแปลงเป็นหุ้นขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ และขัดต่อเจตนารมณ์การปฏิรูปสื่อ ดังนั้นบอร์ด บมจ.อสมท ชุดใหม่ ต้องกล้าปฏิรูป บมจ.อสมท อย่างจริงจัง โดยหามาตรการที่จะวางรากฐานให้คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) เข้ามากำกับดูแล บมจ.อสมท ในฐานะที่เป็นทรัพยากรสาธารณะได้ในอนาคต ซึ่งขณะนี้มีการตีความว่า บมจ.อสมท อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่เมื่อกระทรวงการคลังถือหุ้นและดูแล ดังนั้นเราถือว่า บมจ.อสมท ต้องอยู่ในความดูแลของ กสช.

เลขาธิการ ครป.กล่าวด้วยว่า รัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ต้องกล้าทบทวนคลื่นวิทยุและโทรทัศน์ที่อยู่ในกำกับของกองทัพด้วย เพื่อสนองนโยบายสร้างความสมดุลและความสมานฉันท์ เพราะที่ผ่านมา ทรัพยากรคลื่นในการกำกับของกองทัพ ได้ถูกจัดสรรเพื่อสนองผลประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่าผลประโยชน์ของสังคม และกลายเป็นแหล่งทุจริตคอร์รัปชั่นในกองทัพด้วย ขณะนี้เป็นช่วงการทบทวนผังรายการช่วงปลายปี ดังนั้นรัฐบาลควรนำเรื่องคลื่นความถี่มาทบทวนทั้งระบบ

"แนวความคิดสร้างความเชื่อมั่น"


ด้านนายวิทยาธร ท่อแก้ว กรรมการและในฐานะโฆษกคณะกรรมการ บมจ.อสมท กล่าวว่า หลังจากที่ราคาหุ้น อสมท ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 11 เดือนที่ 27.75 บาทต่อหุ้น เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2549 ทางคณะกรรมการ อสมท ชุดใหม่ มีแนวความคิดที่จะหาแนวทางสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบัน โดยจะไปให้ข้อมูลรายละเอียด (โรดโชว์) กับนักลงทุนสถาบันที่ลงทุนในหุ้น อสมท โดยคาดว่าจะดำเนินการภายหลังการประชุมคณะกรรมการในวันที่ 10 พ.ย.นี้

โฆษกคณะกรรมการ อสมท กล่าวอีกว่า สาเหตุที่คณะกรรมการ อสมท ต้องการชี้แจงให้กับนักลงทุนทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะแม้ว่ากระทรวงการคลังจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถึงร้อยละ 65.80 และธนาคารออมสินร้อยละ 11.48 แต่ก็มีผู้ถือหุ้นรายย่อยและนักลงทุนสถาบันรวมทั้งพนักงาน อสมท

"พัฒนาไปในแนวทางที่ถูกต้อง"


ถือหุ้นอีกร้อยละ 23 จึงต้องสร้างความมั่นใจ แต่ยอมรับว่า อารมณ์การลงทุนในหุ้นขึ้นอยู่กับความรู้สึกของนักลงทุน ดังนั้น จึงต้องไปสร้างอารมณ์การลงทุนที่แท้จริง

นายวิทยาธร กล่าวด้วยว่า แนวทางของ อสมท ที่พัฒนาให้เป็นสังคมอุดมปัญญาิ เป็นแนวทางที่ถูกต้อง และต้องสร้างให้มีคุณธรรมด้วย อสมท เป็นสื่อของประชาชน ต้องมองผลประโยชน์ของประชาชน และผู้ถือหุ้นในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะต้องพัฒนาเนื้อหา รูปแบบและผู้ผลิตรายการให้มีความหลากหลายและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากที่สุดในฐานะสื่อของประชาชน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์