ทนายแดงเตรียมอุทธรณ์16มิ.ย.หลังศาลไม่ให้ประกันตัว11แกนนำ



ทนายแดงเตรียมอุทธรณ์16มิ.ย.หลังศาลไม่ให้ประกันตัว11แกนนำ ยันไม่หลบหนีกองเชียร์ไม่พอใจแห่ล้อมรถคุมขัง

ศาลไม่ให้ประกัน 11 แกนนำ-แนวร่วม นปช. เกรงหลบหนี เสื้อแดงแค้นปิดถนนรัชดาล้อมทุบรถเรือนจำ ทนายเผยเตรียมยื่นอุทธรณ์ 16 มิ.ย. บ่ายครึ่ง คอมมานโดกองปราบหิ้ว 11 แกนนำ -แนวร่วม นปช.ส่งดีเอสไอยื่นฝากขังศาลอาญาคดีก่อการร้าย ค้านประกัน 8 แกนนำฮาร์ดคอร์ เว้น"วีระ - เหวง - ก่อแก้ว"

ศาลอาญายกคำร้อง 11 แกนนำ นปช.ขอประกันตัว

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ศาลอาญา มีคำสั่งยกคำร้องที่ 11 แกนนำ นปช. ยื่นคำร้องขอประกันตัวหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกคดีก่อการร้าย โดยศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวไป ผู้ต้องหาจะหลบหนี


เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. ศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์ประกันแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 11 คน จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง


กระทั่งเวลา 13.00 น. หลังกลุ่มผู้คนเสื้อแดงทราบว่าศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว แกนนำ นปช.  กลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจต่างแสดงความไม่พอใจ พูดจาตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และจับกลุ่มกันยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ  ก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนประมาณ 50 คน จะวิ่งกรูชักชวนกันออกไปรวมตัว ใช้รถจักรยานยนต์ ยืนและนอนขวางปิดถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาออก หน้าศาลอาญา เนื่องจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวแกนนำ นปช.ทั้ง 11 คน ขึ้นรถเรือนจำ นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำคลองเปรม โดยอ้อมด้านหลังศาลอาญาไปออกทางประตูศาลแพ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามที่อารักษาบริเวณศาลจนระดมกำลังไปอำนวยความสะดวกให้รถบัสเรือนจำ และเมื่อรถบัสเรือนจำมาวนมาถึงถนนรัชดาภิเษกหน้าศาลอาญา กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนพยายามยื่นช่อดอกไม้ให้แกนนำ ผ่านรั้วลูกกรง ขณะที่บางส่วนทุบรถและตะโกนโห่ร้อง จนเจ้าหน้าตำรวจคอมมานโดกองปราบปรามต้องมาอารักขารอบรถและกันกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเปิดทางให้รถเรือนจำผ่านออกไปได้ในที่สุด โดยเหตุการณ์วุ่นวายอยู่นานราว 15 นาที เพียงแต่ทำให้การจราจรติดขัด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ด้านนายคารม ทนายแกนนำ นปช. กล่าวว่า ที่ศาลชั้นต้นไม่ให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลว่าคดีมีอัตราโทษสูง เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี แต่ไม่ได้มีเหตุผลว่า หลักทรัพย์ประกันตัวน้อยเกินไป หรือเกรงผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ดังนั้นจึงจะเตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัวในวันที่ 16 มิถุนายน นี้เวลาประมาณ 13.30 น. โดยจะบรรยายคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เห็นว่า  ผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งเวลานี้อยู่ระหว่างที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2550 ซึ่งเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) มีอำนาจขอหมายค้น หมายจับ และคุมขังผู้ต้องสงสัย ดังนั้นการที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีจึงไม่มีทางทำได้ นอกจากนี้การตั้งข้อหาก่อการร้ายกับแกนนำในคดีนี้เป็นคดีการเมือง ไม่เข้าข่ายกระทำผิดข้อหาก่อการร้ายตาม ป.อาญา ม.135/1-3  รวมทั้งสิทธิได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นสิทธิของผู้ต้องหาตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะชี้แจ้งให้ศาลอุทธรณ์ทราบพฤติการณ์ของผู้ต้องหาแต่ละคนมากยิ่งขึ้น อาทิ ในส่วนของนายวีระ นพ.เหวง และนายก่อแก้ว แม้พนักงานสอบสวนดีเอสไอจะไม่คัดค้านการประกันตัว และเข้ามอบตัวเอง อีกทั้งช่วงหลังไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุม แต่ก็ไม่ได้รับประกันตัว

คอมมานโดคุม11แกนนำยื่นฝากขังศาล ค้านประกัน 8แกนนำฮาร์ดคอร์

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ ,นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา , นายวิภูแภลง พัฒนภูมิไท,นายนิสิต สินธุไพร และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. รวม 8 คน และนายภูมิกิติ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดา คนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ,นายอำนาจ อินทโชติ และนายสมบัติ มากทอง กลุ่มการ์ด นปช. อีก 3 คน รวม 11 คน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้หรือสนับสนุนผู้อื่นให้กระทำความผิดฐานก่อการร้ายตาม ป.อาญา ม.135/1- 3 และ ม.83-86 มีอัตราโทษสูงสุดประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุก 3 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 – 1,000,000 บาท


โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ผู้ต้องหาร่วมกันชุมนุมในนามของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำซึ่งมีวัตถุประสงค์เดียวกันเพื่อเรียกร้องให้ยุบสภาโดยเร็ว การชุมนุมมีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายใช้ความรุนแรง ก่อวินาศกรรม มีและใช้อาวุธปืนสงครามและวัตถุระเบิดที่มีความร้ายแรงตอบโต้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ รวมทั้งประชาชนที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม โดยผู้ต้องหาได้สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยปลุกระดม ปลุกปั่นให้ผู้ชุมนุมเกลียดชังรัฐบาลและให้มีการเผชิญหน้าถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบ เช่นเหตุการณ์บุกรุกรัฐสภา สถานีดาวเทียมไทยคม การต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงแรมเอสซีปาร์ค การปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารที่สถานอนุสรณ์สถานแห่งชาติ สี่แยกคอกวัว บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวมทั้งการเผาสถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้าในกทม. และศาลากลางจังหวัดหลายแห่ง จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก พฤติการณ์ของผู้ต้องหาดังกล่าวยังเป็นการร่วมแรงร่วมใจหรือรู้เห็นเป็นใจ มีเจตนากระทำผิดร่วมกันฐานก่อการร้าย ขณะที่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบพยานบุคคลที่สำคัญอีก 80 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆทางนิติวิทยาศาสตร์อีกจำนวนมาก จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 11 คน เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 – 26 มิถุนายน นี้

ขณะที่ผู้ต้องหา 8 คน ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ  ,นายขวัญชัย , นายวิภูแภลง ,นายนิสิต ,นายยศวริศ , นายภูมิกิติ ,นายอำนาจ และนายสมบัติ มีพฤติการณ์นิยมความรุนแรงก้าวร้าว ใช้อาวุธปืนและมีส่วนร่วมในการก่อความไม่สงบวุ่นวาย หรือกระทำผิดกฎหมายมาแล้ว ซึ่งแม้ว่าเหตุการณ์รุนแรงและความวุ่นวายต่างๆจะสงบลง แต่สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจจากเหตุการณ์รุนแรงต่างๆที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นหากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะหลบหนีหรือก่อความวุ่นวายขึ้นซ้ำอีก พนักงานสอบสวนจึงขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวแกนนำและการ์ด นปช.ทั้ง 11 คน ขึ้นเฮลิคอร์ปเตอร์ จาก ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี มาลงที่ กองบังคับการกองปราบปราม เปลี่ยนมาขึ้นรถบัสเดินทางมาฝากขังที่ศาลโดย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดกองปราบปราม ตามประกบคอยรักษาความปลอดภัย เมื่อมาถึงบริเวณศาลตำรวจคอมมานโดและกำลังตำรวจจาก บก.น. 2 รวมประมาณ  1 กองร้อย คอยดูแลความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 100 คนเศษ ที่เดินทางมาให้กำลังใจ แต่เจ้าหน้าที่ศาลไม่อนุญาตให้เข้ามาในบริเวณศาล โดยนำแผงเหล็กมากั้นไว้


ด้าน นายคารม พลทะกลาง ทนายความ นปช. กล่าวว่า ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวนคนละ 1,000,000 บาท เพื่อขอประกันตัว แกนนำ นปช. พร้อมยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง โดยยอมรับว่ากังวลเรื่องการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากแกนนำ บางคนมีข้อหาอื่นนอกจากก่อการร้าย แต่หวังว่าแกนนำทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ยังไม่สามารถเดินทางมาที่ศาลได้เนื่องจากติดภารกิจต่างจังหวัด แต่ จะเดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายในสัปดาห์นี้


ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ได้เดินทางมาให้กำลังใจ แกนนำ นปช. โดยกล่าวว่า คนเสื้อแดงไม่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลยกโทษหรือนิรโทษกรรม ตนเห็นว่าการที่รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้เข้าร่วมชุมนุมนั้นเป็นเพียงเกมการเมืองที่รัฐบาลเอามาบังหน้าในการสั่งฆ่าประชาชนเท่านั้น

"คณิต"มอบปลัดยธ.ประสานกลุ่มหารือเย็นนี้ หวังได้ข้อมูลจากวีระเพิ่ม


 

นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง กล่าวถึงกรณีข้อเท็จจริงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตนเองมอบหมายให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ประสานงานติดต่อไปที่กลุ่มอื่นๆ เพิ่มอีก ซึ่งเท่าที่ทราบจะเป็นในช่วงวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ส่วนจะติดต่อใครได้นั้น คงต้องรอความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง


ขณะที่เรื่องการพบปะหารือกับแกนนำ นปช.อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น นายคณิต กล่าวว่า ก็เป็นไปด้วยดี ซึ่งได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์มาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ก่อนตนจะเดินทางกลับ นายวีระยังระบุด้วยว่า หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะส่งผ่านมาให้อีก ซึ่งตนก็หวังจะได้ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์