ชัย ย้ำ ปรองดอง คือทางออกประเทศ

"ประธานสภาฯ" ระบุ กม.นิรโทษกรรมเดินหน้าได้เลย เพราะ ภท.เคยเสนอเข้าสภามาแล้ว ชี้ "ปรองดอง" คือทางออก

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้(14 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร

กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าแผนปรองดองที่เสนอโดยรัฐบาลมีจุดประสงค์เพื่อซื้อเวลา ว่า เรายังไม่เห็นการกระทำ หรือผลของการทำงาน ดังนั้นจึงควรรอดูว่าในการดำเนินการมีการทำงานอย่างไร ขณะนี้เพิ่งเริ่มต้นดำเนินการแผนปรองดองเท่านั้น ตอนนี้เหมือนหม้อข้าวต้มที่อยู่ในเตา ข้าวยังไม่เดือด จะมาบอกว่าข้าวจะสุกหรือจะดิบมันเป็นไปไม่ได้ ต้องรอดูจังหวะต้องรู้เวลา
              
“ขณะนี้ไม่มีทางใดที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ มีแต่ทางปรองดองและสมานฉันท์ที่นายกรัฐมนตรีดำเนินการอยู่ แนวทางอื่นๆยังมองไม่เห็น” ประธานสภาฯ ย้ำ

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีแนวคิดออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ร่วมชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.)

บางส่วน จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความปรองดองได้หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบนโยบายเรื่องนี้ เพียงแต่ได้รับทราบข่าวจากสื่อยังไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลจะต้องการอย่างไร ทั้งนี้กฎหมายทุกฉบับมีอยู่ในสภาอยู่แล้ว ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ก็ได้มีบรรจุอยู่ในระเบียบวาระของสภาผู้แทนราษฎรสามารถหยิบขึ้นมาพิจารณาหรือแปรญัตติใส่ข้อความได้เลย ส่วนการพิจารณาขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลและฝ่ายค้านจะเอาด้วยไหม ทุกอย่างมีอยู่ในสภาหมด ทำได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ในสภา กฎหมายมาจากฝ่ายนิติบัญญัติถ้าฝ่ายนิติบัญญัติเสียงส่วนใหญ่เห็นอย่างไร ก็เอามาบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ทั้งนั้น

“ส่วนตัวผมอะไรที่เป็นเสียงข้างมากนั้นเห็นด้วย เพราะบรรยากาศกาศในขณะนี้เราต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบากัน แต่ก็แล้วแต่เสียงข้างมากนะ ผมมิบังอาจมาชี้ขาด อะไรเกิดประโยชน์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมผมเห็นด้วย” นายชัย กล่าว

เมื่อถามว่าเป็นห่วงเสถียรภาพของรัฐบาลซึ่งมีเสียงปริ่มน้ำหรือไม่

นายชัย กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์การพิจารณากฎหมายไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องเสียงข้างมากข้างน้อย หากที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่เห็นว่ากฎหมายจะมีประโยชน์กับประชาชนเสียงที่มีอยู่ก็รวมกันได้ อย่างไรก็ดี การแก้ปัญหาต่างๆ รัฐบาลต้องมีความเด็ดขาด ส่วนตัวมองว่าเสียงของรัฐบาลมีเพียงพอ  ที่ว่ามีเสียงอย่างนี้อย่างนั้น ก็เหมือนฟังเสียงกบเสียงเขียดมันร้องกัน.