ภาคปชช.เซ็งมาร์คใช้แผนปรองดองหาเสียง

"คณิต"เผยพร้อมพิจารณา กก.ที่"วีระ"เสนอ จำเป็นต้องเอา"แดง"ร่วมก็จะทำ เพื่อไทยจี้"อภิสิทธิ"ศึกษาแบบ"เนลสัน เมนเดลลา" อย่าแค่ซื้อเวลา ภาคประชาชนเริ่มเซ็ง"มาร์ค"จ้องหาเสียง ล่าสุดขอถอนตัว เหลือแต่กลุ่ม"ประเวศ"


"คณิต"ประเดิมขอคำแนะนำ"วีระ"


นายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม-19 พฤษภาคม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ทางโทรศัพท์ว่า ในวันที่ 14 มิถุนายนจะเดินทางไปพบนายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำ นปช.เพื่อขอคำแนะนำในการร่วมแก้ปัญหาทางการเมือง และจะต้องไปฟังจากทุกฝ่าย แต่ตอนนี้ถือว่าให้นายวีระเป็นจุดเริ่มเพราะถือว่านายวีระเป็นคนใต้เหมือนตน คงพูดกันรู้เรื่องและคงมีคำแนะนำที่ดี กับนายวีระนั้นก็รู้จักกันมาแต่เก่าก่อน คาดว่าคงจะมีอะไรที่ดีจากนายวีระกลับมา


เมื่อถามว่า จำเป็นต้องให้นายวีระเสนอเงื่อนไขเป็นพิเศษหรือไม่ นายคณิตกล่าวว่า ตนมองว่านายวีระเป็นคนหนึ่งที่มีความหวังดีกับบ้านเมือง ส่วนแนวทางดำเนินการอย่างไรก็ว่าไป เมื่อถามว่าจำเป็นต้องชวนนายวีระร่วมเป็นทีมงานแก้ปัญหาหรือไม่ นายคณิตกล่าวว่า ถ้านายวีระยังติดคดี แล้วแนะนำว่ามีใครที่เป็นประโยชน์ ตนลองพิจารณาดู เพราะนายวีระกว้างขวางในวงการเมือง เพราะอยู่มาหลายพรรคการเมือง ทั้งประชาธิปัตย์ ความหวังใหม่ และไทยรักไทย ซึ่งเป็นเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งยังเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย



จำเป็นต้องเอา"แดง"ร่วมก็จะทำ


นายคณิตกล่าวถึงความพร้อมของคณะกรรมการว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มองเลย ถ้าจำเป็นก็ต้องตั้งฝ่ายเสื้อแดงมาเป็นพวกก็ต้องทำ "ที่แอฟริกาใต้ที่มีฆ่ากัน เขาก็ปรองดองกันได้ มีหลายประเทศที่เราสามารถศึกษาโมเดลว่าทำอย่างไรให้เกิดความสงบ แล้วเอามาประยุกต์ใช้  สังคมไทยน่าจะเป็นสังคมปรองดองง่าย คิดอย่างนั้นผมจึงอาสามา" นายคณิตกล่าว และว่า คณะกรรมการอิสระแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของตน ในอดีตตนไปเกี่ยวข้องเป็นครั้งที่สามแล้ว ครั้งแรกคือเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ แต่ทั้งสองครั้งยังไม่ยากเท่าครั้งนี้ อยากให้สื่อติดตามด้วย อย่าให้เหมือนกรณีกรือเซะหรือตากใบที่เงียบหาย เพราะการแก้ปัญหาไม่ใช่แค่ย้ายคนแล้วจบ ส่วนกรณีมีการเสนอแนวคิดนิรโทษกรรมคดีละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังให้ความเห็นไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบรายละเอียด


พท.เย้ยแผนปรองดองแค่ขายฝัน


วันเดียวกัน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า แผนปรองดองที่นายอภิสิทธิ์ระบุ เป็นเพียงการขายฝันรายวันว่าจะเกิดสันติสุขขึ้นในประเทศ เพราะนายอภิสิทธิ์พูดกับทำตรงข้ามกัน ล่าสุด ผลสำรวจของเอแบคโพลล์ 66.3 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าปฏิรูปประเทศไทยล้มเหลว สะท้อนว่าแผนนี้ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น ขณะที่การเสนอชื่อคณะกรรมการตามแผนปรองดองทั้ง 4 คณะล้วนเป็นกลุ่มบุคคลที่อยู่ข้างรัฐบาล อีกทั้งรัฐบาลยังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมากล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามและสามารถจับกุมคุมขังได้ตลอดเวลา แค่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์จบการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่เป็นต้นแบบประชาธิปไตย แต่ความคิดในเรื่องปรองดองน่าจะต่ำกว่ามาตรฐานสากล เพราะแทนที่จะเปิดการเจรจากับฝ่ายตรงข้าม กลับปรองดองแบบเลือกข้างกับฝ่ายของตนเองเท่านั้น


ชูศึกษาแบบ"เนลสัน เมนเดลา"


นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า อยากเสนอให้นายอภิสิทธิ์มีวิสัยทัศน์ใหม่ในบรรยากาศที่ฟุตบอลโลก 2010 กำลังฟีเวอร์ที่แอฟริกาใต้ที่มีนายเนลสัน เมนเดลา เป็นอดีตประธานาธิบดีผิวสีคนแรก ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นรัฐบุรุษและเป็นบุคคลสำคัญของโลก หลังจากเคยถูกรัฐบาลแอฟริกาใต้ชึ่งเป็นคนผิวขาวคุมขังถึง 27 ปี ระหว่างที่มีนโยบายเหยียดผิวจนนำไปสู่สงครามกลางเมือง เมื่อได้รับอิสรภาพเพียงไม่กี่ชั่วโมง นายเนลสันก็เรียกร้องให้คนในชาติไม่ว่าจะผิวขาว ผิวดำ ปรองดองกันเพื่อสร้างชาติ เพราะแอฟริกาใต้ถูกประชาคมโลกกีดกันจากนโยบายเหยียดสีผิว ต่อมาเมื่อได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีผิวดำคนแรก คนผิวขาวต่างอกสั่นขวัญแขวนเพราะกลัวจะถูกเอาคืน แต่นายเนลสันกลับทำสิ่งตรงข้ามที่ยิ่งใหญ่ คือเสนอแผนปรองดองโดยกล่าววาทะแห่งชาติว่า ถนนสู่ความปรองดองของชนชาติแอฟริกามีสองสายเท่านั้น คือ ความปรารถนาดี และการให้อภัยŽ จึงขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ไปศึกษาแบบอย่างนี้แทนที่จะสร้างภาพซื้อเวลาไปวันๆ โดยขอให้เปิดการเจรจาแผนสันติภาพให้ทุกฝ่ายมาคุย แล้วจึงทำแผนปรองดอง


จี้เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินตามเสียงเรียกร้อง


"วันนี้ดูโมเดลของนายเนลสันเขายิ่งใหญ่ คน 2 ผิวสีทะเลาะกันเขายังรักกันได้ แล้วนำชาติไปสู่ความยิ่งใหญ่ จัดฟุตบอลโลกให้คนทั้งโลกได้ดูกันแล้วรู้จักแอฟริกาใต้ เราคนไทยไม่ได้มีสงครามไม่มีการเหยียดผิว แต่รัฐบาลมุ่งกำจัดประชาชน นักการเมือง พรรคฝ่ายค้านด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ไม่หวังดี เป็นผู้ก่อการร้าย จ้องล้มสถาบัน นำความจงรักภักดีมาเป็นเครื่องมือกำจัดฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้ตนเองได้อยู่ในอำนาจเท่านั้น ซึ่งเป็นการทำลายชาติมากกว่าสร้างชาติ นายอภิสิทธิ์ต้องจริงใจไม่ใช่คิดว่าแผนปรองดองจะสำเร็จได้อีก 3 ปี ซึ่งเป็นการฝันลมๆ แล้งๆ เพราะรัฐบาลชุดนี้จะครบวาระในวันที่ 23 ธ.ค.2554"Ž นายพร้อมพงศ์กล่าว


นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน 24 จังหวัด เพราะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน องค์กรนิรโทษกรรมสากลก็ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์เรียกร้องให้ยกเลิกเช่นกันเพื่อให้การสืบสวนสอบสวนปราศจากการแทรกแซงและการรับรู้ข่าวสารของประชาชนไม่ถูกปิดกั้น


จ้องร้องปปช.เอาผิดดีเอสไอ"ละเว้น"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพร้อมพงศ์ได้นำภาพผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมของ นปช.ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจและถูกล่ามโซ่เนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาประกอบการแถลงด้วย โดยระบุว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุทั้งที่ผู้บาดเจ็บไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ขณะเดียวกันยังมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ชุมนุมวันที่ 10 เม.ย.จำนวน 13 ราย และเหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค.อีก 41 ราย ล่าสุดแกนนำพื้นที่โดยเฉพาะสายฮาร์ดคอร์ที่อุดรธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ มหาสารคาม อุบลราชธานี และอีกหลายจังหวัด ถูกข่มขู่คุกคามโดยไม่รู้ว่าจะโดนกระทำเหมือน อ้วน บัวใหญ่Ž หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ต้องตอบว่า ใครสั่ง


นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มี 2 มาตรฐานเนื่องจากไม่เอาผิดกลุ่มคนเสื้อหลากสีที่ไปปิดถนนที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไปชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัสมรภูมิ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมือนกับคนเสื้อแดงว่า จะไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในสัปดาห์หน้าฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่


กก.ติดตามฯติงรบ.อย่าฝืนกระแส 


นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ประธานคณะกรรมการเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวถึงปัญหาการไม่ยอมรับนายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด ที่ถูกแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คปอ.) จากฝั่งคนเสื้อแดงว่า เป้าหมายสำคัญที่ตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา ก็เพื่อทำให้ทุกฝ่ายยอมรับในกฎ กติกา การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม การจะไปให้ถึงเป้าหมาย คู่ขัดแย้งต้องยอมรับบุคคลที่มาเป็นกรรมการด้วย หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับ ผลการสอบสวนที่ออกมาก็มีปัญหาแน่นอน รัฐบาลต้องหาบุคคลที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายให้ได้ แต่หากหาคนที่มีคุณสมบัติแบบนี้ยากก็อาจให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายเสื้อแดงส่งตัวแทนฝ่ายละเท่าๆ กัน โดยมีคนกลางอีกส่วนหนึ่งมาร่วมเป็นกรรมการ ไม่เช่นนั้นจะล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มนับหนึ่ง



กต.เต้นเชิญองค์กรระหว่างปท.แจง


เมื่อถามว่า องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อนจะเริ่มกระบวนการสอบสวน นายจิตติพจน์กล่าวว่า มีหลายองค์กรที่เรียกร้อง เช่น ที่ประชุมรัฐสภายุโรปมีมติสำคัญออกมาทันทีภายหลังเหตุการณ์กระชับพื้นที่ รวมไปถึงกลุ่มฮิวแมนไรท์วอท์ช ที่แสดงความกังวลต่อการที่รัฐบาลยังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ทั้งที่ได้ผ่านพ้นสถานการณ์นั้นไปแล้ว ซึ่งอาจไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะอธิบายต่อนานาชาติได้


"รัฐบาลต้องเอาชนะใจประชาชนด้วยการให้ความเป็นธรรมแก่เขา ไม่ใช่ใช้อำนาจไปบังคับเขา เพราะอำนาจไม่เคยเอาชนะใจใครได้ รัฐบาลควรทบทวนแนวทางด้วย" นายจิตติพจน์กล่าว


นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ แถลงชี้แจงถึงกรณีที่องค์การนิรโทษกรรมสากลทำจดหมายเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบเหตุการณ์การชุมนุม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นกลางว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการที่มีนายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุดเป็นประธานแล้ว ส่วนขั้นตอนการดำเนินการตามแผนปรองดอง กต.จะเชิญสื่อต่างชาติ คณะทูตเข้ารับฟังการชี้แจง เริ่มจากสัปดาห์หน้าจะเชิญองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เอ็นจีโอ มารับทราบรายละเอียด ส่วนในปลายเดือนมิถุนายนจะเชิญองค์การนิรโทษกรรมสากลมาชี้แจงต่อไป 


ภาคปชช.ขอทำงานอิสระไม่โยงรัฐ


รายงานข่าวจากภาคประชาสังคม แจ้งว่า ในการประชุมปฏิรูปประเทศไทยวันที่ 17 มิถุนายนนี้ จะมีการกำหนดแผนงานของภาคประชาชน เพื่อจัดทำโครงสร้างในข้อ 2 ของแผนปรองดองตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเสนอ โดยนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี รับปากว่าจะเป็นประธานสมัชชาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงชื่อ) เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนมาปฎิรูปองค์กรต่างๆ เท่านั้น ขณะที่จะมี ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโสและนักวิชาการอาวุโสในแขนงต่างๆ ร่วมเป็นกรรมการ โดยการขับเคลื่อนจะเป็นอิสระไม่ยึดโยงกับรัฐบาลหรือฝ่ายการเมือง เพื่อที่ว่าหากเปลี่ยนรัฐบาลองค์กรนี้จะยังทำหน้าที่ต่อไปได้ อีกทั้งต้องการลดความหวาดระแวงจากอีกฝ่ายว่าองค์กรนี้จะเป็นเครื่องมือของรัฐบาล


ล่าสุดเริ่มถอยเซ็ง"มาร์ค"จ้องหาเสียง


รายงานข่าวแจ้งว่า แต่ล่าสุด หลังจากนายอภิสิทธิ์แถลงแผนปรองดองเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน และประกาศเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยบางส่วนมองว่า นายอภิสิทธิ์กำลังใช้เรื่องนี้หาเสียงทั้งๆ ที่เคยตกลงเป็นการภายในว่าจะไม่ทำให้ประเด็นนี้เป็นเรื่องการเมือง ควรให้ภาคประชาชนขับเคลื่อนด้วยตัวเองทั้งหมด หลายองค์กรที่เคยคิดจะเข้าร่วมจึงขอถอนตัวออก


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคีเครือข่ายตระกูล ส.ของ ศ.นพ.ประเวศ อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ฯลฯ จะยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะเกรงว่าความขัดแย้งในสังคมจะไม่ได้รับการแก้ไข  


การเมืองใหม่ฉะรบ.แค่ซื้อเวลา


นายสำราญ รอดเพชร รักษาการรองโฆษกพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวว่า แม้นายกรัฐมนตรีอาจมีเจตนาดีที่จะแก้ปัญหาแต่ก็มีวาระแฝงเร้นคือซื้อเวลาในการบริหารประเทศ โดยการปรองดองต้องอยู่บนพื้นฐานการบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นการจับมือกันระหว่างผู้ก่อการร้าย


นายประพันธ์ คูณมี รักษาการผู้อำนวยการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า หากรัฐบาลจะผลักดันแผนปรองดองเพื่อเป็นการซื้อเวลาให้รัฐบาลอยู่ยาว เชื่อว่า ศ.นพ.ประเวศ วะสี และนายอานันท์ ปันยารชุน อาจกังวลว่าจะตกเป็นเครื่องมือในการซื้อเวลาและกลายเป็นเครื่องมือไปอุ้มนักการเมืองที่บริหารประเทศล้มเหลว


นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารปพรรคประชาธิปัตย์กล่าวตอบโต้พรรคการเมืองใหม่ว่า นายกฯตั้งใจเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม หาก ก.ม.ม.ไม่เห็นด้วย อยากให้เสนอให้ชัดว่าต้องการอะไร จะให้ยุบสภาหรือไปไล่ล่าคนเสื้อแดง อย่าเอาแต่วิจารณ์เหน็บแนมคนอื่น เพราะพรรคการเมืองต้องทำงานให้ประชาชนรู้สึกว่ามีคุณธรรม มีวิธีแก้ปัญหา กรณีที่ ก.ม.ม.ไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการอิสระฯ ตนคิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นบทเรียนต่อไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์