ศอฉ.ห่วงอาวุธที่แดงยึดยังไม่ได้คืน

ศอฉ. ห่วงอาวุธที่โดนยึด ยังไม่ได้คืน เตรียมให้มหาดไทย หาวิธีให้แดงคืนอาวุธโดยไม่มีความผิด ยืนยัน ต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มั่นใจ 6 ศพ ไม่ได้มาจากอาวุธทหาร...

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2553 ที่ กองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

แถลงผลการประชุม ศอฉ. ว่า การประชุมมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรับฟังด้วยก่อนที่จะเดินทางกลับ โดยที่ประชุม ศอฉ. มีความเป็นห่วงเรื่องอาวุธปืนสงครามที่มีการยึดไปจากการปฏิบัติหน้าที่ ของทหารแสดงบนเวทีการชุมนุมว่ายึดอาวุธไปส่วนหนึ่ง แต่ไม่มีการส่งคืนตามที่กองทัพร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นมีการตรวจยึดจับอาวุธบางส่วนแต่ไม่ครบ 68 รายการ ที่แจ้งหายไป ที่ประชุมให้กระทรวงมหาดไทยไปตรวจสอบข้อมูลวิธีการปฏิบัติรูปธรรมว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้ประชาชนนำอาวุธสงคราม หรือ อาวุธปืนเถื่อนที่อยู่ในครอบครอง มาคืนเจ้าหน้าที่รัฐ โดยกำหนดวัน เวลาชัดเจนว่า ช่วงเวลาใดจะไม่มีความผิด หลังจากการดำเนินการเรื่องนี้แล้วคงจะกำหนดวันปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อปราบปรามอาวุธปืนเถื่อนในอนาคต โดยกระทรวงมหาดไทยรับเรื่องไป และจะมาชี้แจงที่ประชุมอีกครั้ง

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่ายังมีความจำเป็น

เพราะเจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างมี ประสิทธิภาพ และ ทำงานง่ายขึ้น ถามว่ากระทบการดำรงชีวิตประชาชนหรือไม่ ก็มีแต่น้อยมาก แต่อาจส่งผลกระทบภาพลักษณ์ประเทศ แต่ที่ประชุมมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่สังกัดใน ศอฉ.ทำรายละเอียด คือ เงื่อนไขแต่ละหน่วยเห็นว่างานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยมีเงื่อนไขอะไรที่ตั้ง เป็นหลักเกณฑ์ว่า เมื่อถึงเวลานี้แล้วจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่น ตำรวจ และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต้องไปทำเงื่อนไขหลักเกณฑ์การสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหาคดีต่างๆ ดำเนินการถึงขั้นไหนแล้วถึงเหมาะสมที่จะประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไม่นัดหมายวันที่ชัดเจนว่ามาเสนอเมื่อไหร่ แต่ ผอ.ศอฉ. เร่งรัดให้เร็วที่สุด คาดว่าจะมีผลในเร็วนี้

เมื่อถามถึงเหตุยิง 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม ที่ผลการชันสูตรเป็นอาวุธสงคราม

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าผลการพิสูจน์ไม่ใช่ว่าเกิดจากปืนทราโว้หรือปืนเอ็ม 16 มีลักษณะการยิงกระสุนปืนบนลงล่าง และ ล่างขึ้นบนหลากหลายลักษณะ ที่ผ่านมา ศอฉ. ไม่สามารถอธิบายศพทุกราย ซึ่งต้องว่าไปตามหลักฐาน เราพร้อมเข้าสู่กระบวนการแต่สิ่งที่ยืนยันคือวันนั้นหลังเจ้าหน้าที่เข้าไป ระยะหนึ่งแล้วหยุดการเคลื่อนไหว เพื่อปล่อยให้ประชาชนออกจากทางแยกปทุมวันไปทางสนามศุภชลาศัย มองไม่เห็นเหตุผลว่า จะไปฆ่าคนเพื่อประโยชน์อะไร ดังนั้น ที่วัดปทุมวนารามเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งยังเข้าไม่ถึงพื้นที่จะมีภาพที่อยู่บน รางรถไฟ แต่รางรถไฟก็มีภาพกลุ่มชายชุดดำใส่ไอ้โม่งมีอาวุธสงครามยิงมาที่เจ้าหน้าที่ และยิงโต้ตอบกลับไป ซึ่งมีรอยกระสุนทั้งพื้นที่ที่ยิงไปและกระสุนที่เขาโต้ตอบ ซึ่งเป็นการยืนยันว่ามีชายชุดดำที่มีอาวุธสงครามอยู่จริง ทั้งนี้ สื่อมวลชนก็ทราบดีว่ามีคนอาศัยเขตอภัยทานนำอาวุธสงครามมาซ้อนไว้

เมื่อถามว่า ในเหตุการณ์ป่วนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ประชุมได้พูดถึงหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพูดถึงเหตุการณ์ป่วนเมืองต่างๆ

โดยที่ประชุมมอบให้กระทรวงมหาดไทยโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ กอ.รมน. ไปตรวจสอบ และ สร้างความเข้าใจกับมวลชน อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินคดี และ ตรวจสอบการต่อสู้ของคนเสื้อแดงกับจ้าหน้าที่ เรามีคณะพนักงานสอบสวนดำเนินการ คือ ในเรื่องการชันสูตรศพ ทั้งตำรวจ ดีเอสไอ อัยการ แพทย์ อีกเรื่อง คือ สำนวนคดี ตอนนี้ผลพิสูจน์จากนิติเวชออกมาแล้วส่งพนักงานสอบสวนแล้ว สำนวนก็จะเดินไปคู่ขนาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการประกาศเคอร์ฟิวอีกหรือไม่ หลังจากมีเหตุการณ์ป่วนเมือง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การประกาศเคอร์ฟิวซ้ำยังไม่มีการพูดในที่ประชุม

แต่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ เพราะเหตุที่เกิดเป็นเพียงการทำลายขวัญมากกว่าสร้างความเสียหาย ส่วนที่เราต้องคง พรก.ฉุกเฉิน เพราะมีความจำเป็น แต่ทั้งนี้คงต้องมีการกำลังประเมินว่าแต่ละหน่วยงานจะมีความสัมฤทธิ์ผลในงาน ย่อยของตัวเองถึงขั้นไหนถึงจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ หรือ การดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดจะต้องทำถึงขั้นไหนถึงจะยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ได้ อย่างไรก็ตาม หลังการประเมินทางเจ้าหน้าที่ก็จะส่งข้อมูลให้ ศอฉ. พิจารณา และ มอบให้รัฐบาลพิจารณาอีกครั้ง

ส่วนการติดตามคดีของ นายอริสมันต์ ไม่ได้มีการพูดถึงในที่ประชุม พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บชน. กล่าวว่า

ตำรวจจะดำเนินการขยายผลเกี่ยวกับอาวุธสงครามที่มีการค้นพบจากสถานที่ต่างๆ โดยจะดำเนินการให้ครบตามที่สูญหายไป นอกจากนี้ จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมที่มีกฎภาพถ่าย และ ภาพเคลื่อนไหวที่ ไปเผาอาคารมาลีนนท์ สถานีโทรทัศช่อง 3 และ เซ็นทรัลเวอร์ อีก 2 คน รวมถึงจะมีการตรวจสอบสถานที่ต่าง ๆ ที่ถูกเผา และ ชายชุดดำที่ปรากฏตามสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีภาพชัดเจน ทางตำรวจจะออกหมายจับต่อไป ขณะเดียวกันตำรวจจะรายงานให้ ศอฉ. กรณีที่มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีทั้งกรณีที่ทำความผิดตามการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่ามีชื่ออะไรบ้างและควบคุมตัวอยู่ที่ไหน รวมถึงการกระทำผิดตามกฎหมายอาญา เช่น การวางเพลิง มีอาวุธปืนสงครามต่างๆ เราจะทำให้ชัดเจน และ จะนำข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับข้อมูลที่มีการแจ้ง คนหาย รวมถึงการตรวจสอบบุคคลที่สูญหายด้วย โดยเราจะมอบให้กับทุกสถานีทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดตั้งแต่ เดือนมีนาคม จนถึงปัจจุบันว่ามีคนสูญหายไปอย่างไรบ้าง เพื่อตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนกรณีที่มีการอบอ้างว่ามีประชาชนสูญหาย ถือเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ และ ยืนยันข้อเท็จจริง

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจจะดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มแกนนำที่ยังหลงเหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง

โดยเราจะทำงานร่วมกับทางกระทรวงมหาดไทย กรมสอบสวนคดีพิเศษทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในนครบาลและตำรวจภูธรจะต้อง ประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองเพื่อหาตัวชี้วัดในการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าจำเป็นต้องใช้อยู่หรือไม่ ในส่วนงานของตำรวจนั้นก็ต้องชี้แจงว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ เช่น เหตุอาชญากรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงว่ายังคงเกิดขึ้นมากน้อยแค่ ไหน ซึ่งทางตำรวจจะรวบรวมข้อมูลและนำไปสนธิกับข้อมูลอื่นเพื่อให้รัฐบาลพิจารณา ตัดสินใจ

เมื่อถามว่า ในที่ประชุม ได้มีการพูดถึงการสร้างสถานการณ์ ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวหรือไม่

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มีการพูดถึงเรื่องนี้ โดยในที่ประชุม ศอฉ.ได้ให้กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะที่เป็น ผบ.เหตุการณ์โดยตรงรวมถึงตำรวจภูธรภาค 5 กอ.รมน. ภาค ไปตรวจสอบเพิ่มเติม ทั้งกรณีการติดตามจับกุมเพิ่มเติม และการสร้างความเข้าใจในพื้นที่ และนำข้อมูลมา เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวัดปทุมวนาราม จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มีพนักงานสอบสวนดำเนินการเรื่องนี้ โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ การชันสูตรพลิกศพ ต้องดูผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และ สำนวนคดี ซึ่งในที่ประชุม ศอฉ. ได้รายงานเป็นภาพกว้างๆ ว่ามีหลักฐานเพิ่มเติมอย่างไร

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์