เติ้ง เซ็งท่าที แม้ว สับปลับปิดช่องเจรจา - เตือนสติไร้ประโยชน์

เติ้ง เซ็งท่าที แม้ว สับปลับปิดช่องเจรจา - เตือนสติไร้ประโยชน์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2549 16:29 น.

พ่อเติ้ง ชมเปาะ ลูกท็อป เด็กรุ่นใหม่ไฟแรง เผยทนไม่ได้พฤติกรรมการเมืองสับปลับ ชี้ แม้ว กลับกลอก ทำแนวทางหันหน้าเจรจาขององคมนตรีมืดมน ปิดทางประนีประนอม ดักคอ กกต.เตรียมหาช่องทางเปิดสภาให้ ทรท.หากไม่ได้ ส.ส.ครบ 500 แย้มขึ้นเวทีที่สุพรรณฯ อัดเต็มที่ เมินเตือนสตินายกฯ เชื่อไร้ผล เพราะบริวารเป็นพิษ

วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการที่พรรคไทยรักไทย ออกสารฉบับที่ 1 ที่มีเนื้อหาพาดพิงอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ตอนนี้กำลังทางพรรคได้ส่งตัวแทนของพรรคไปคุยประสานงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอยู่ในเรื่องเนื้อหาของสารพรรคไทยรักไทยที่ออกมาอยู่ เมื่อถามถึงกรณีที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รองเลขาธิการพรรค ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีที่รุนแรง นายบรรหาร กล่าวว่า แกเองก็เป็นเด็กหนุ่มที่ทนดูไม่ได้ และเขาเองก็รู้เหตุการณ์ดีมาทั้งหมด เพราะเขาติดตามเหตุการณ์และติดตามตนเองมาตลอด จึงรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังทางการเมือง และอาจรับไม่ได้กับแถลงการณ์ของพรรคไทยรักไทยอีกทั้งเป็นนักการเมืองหนุ่ม จึงต้องตอบโต้ หรือระบายออกเขาเองก็บอกว่าเขาทนไม่ไหวจึงต้องมาให้สัมภาษณ์ ต้องปล่อยให้เขาออกมาระบายหน่อย

นายบรรหาร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ไป จ.สระแก้ว โดนขว้างขวด ที่สุพรรณฯ มีคนจะทำแต่เขาขอร้องไว้ เพราะเข้าใจว่าเป็นความรู้สึกของประชาชนที่มีทั้งพอใจไม่พอใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็เหมือนบ้านใครบ้านมัน

เมื่อถามต่อว่า การเมืองในตอนนี้เล่นกันแรงมากกันเกินไปหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตรงนี้จะต้องเอาความจริงมาพูดกัน และเนื้อหาของสารพรรคไทยรักไทยนั้น ตนเองก็ยังไม่ได้เอามาอ่าน เมื่อถามต่อว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วมีความจำเป็นหรือไม่ที่หัวหน้าของอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องเปิดเวทีชี้แจงพร้อมกัน หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอดูก่อน แต่เอาไว้ไปฟังในวันที่ 10 และ 14 มี.ค.ที่ จ.สุพรรณบุรีนี้ เนื้อหาวันที่ 10 ยังเบาๆ แต่วันที่ 14 มี.ค.จะหนักหน่อย ที่วัดป่าเลไลยก์

เมื่อถามต่อว่า หนังสือปกน้ำเงินของพรรคชาติไทย จะเน้นชี้แจงในเรื่องใดเป็นพิเศษ นายบรรหาร ตอบว่า ยังไม่ทราบว่าจะเน้นเรื่องใดเป็นพิเศษ เมื่อถามว่า มองท่าทีของนายกฯ อย่างไรที่บอกว่าไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องของหลายฝ่าย นายบรรหาร ตอบว่า เป็นเรื่องของท่าน เราคงก้าวก่ายไม่ได้ แต่ตอนนี้กระแสแรงขึ้นทุกวัน และวิธีของกลุ่มผู้ชุมนุมก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่น่าเป็นห่วงแต่พรรคชาติไทยคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เมื่อถามต่อว่าองคมนตรีออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน นายบรรหาร กล่าวว่า มันคงจะยาก ที่จริงแล้วถ้ามีการถอยเสียบ้างคงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ไม่มีการถอย อย่างที่ตนเคยบอกแล้วว่าคนใกล้ตัวนายกฯ มีปัญหา เลยโยงไปถึงตัวท่านคนรอบข้างนายกฯ นี่สำคัญมาก และมีอยู่จริงตามที่สื่อนำเสนอไปว่าเป็นใครบ้าง คงไม่ต้องพูดถึงชื่อ เมื่อถามต่อว่า การที่บอกว่ายากหมายถึงท่าทีของใคร นายบรรหาร ตอบว่า มันคงจะยากหมดทุกอย่าง จะถอยอย่างไร หรือจะให้มาเจรจา จะเจรจากันอย่างไร เมื่อถามต่อว่า นายกฯ พูดบนเวทีว่ายอมทุกอย่าง แต่พอลงมาก็พูดอีกอย่างหนึ่ง นายบรรหาร ตอบว่า พวกคุณก็เห็นกันอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่เอาความจริงมาพูดกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีพลังเงียบที่ออกมาเรียกร้องให้ยุติโดยการเปิดไฟหน้ารถ นายบรรหาร ตอบว่า ไม่ได้ผลหรอก เพราะทิฐิของคนมันมีเยอะ น่าจะลดทิฐิกันบ้างก็ไม่มีปัญหา ผมไม่อยากรื้อฟื้นความหลัง มันผ่านไปแล้ว และคงไม่มีอะไรที่จะฝากถึงนายกฯ เพราะเมื่อ 2 วันก่อนท่านเองก็ทำไม่ถูก ฝากอะไรไปก็เป็นคนละเรื่องคนละราวทุกที ก็ไม่ต้องฝากไป ผมถึงอยากบอกผมไม่อยากจะทำที่ จ.สุพรรณฯ ไม่อยากทำให้เกิดเรื่องเกิดราว มันก็อาจมีบ้างซึ่งต้องระงับอารมณ์กันหน่อย ที่จริงถ้าพูดตอนนี้เอาความจริงมาพูดกันก็ไม่มีปัญหา รัฐบาลได้เปรียบอยู่แล้ว เอาแบบตรงไปตรงมาสิ

เมื่อถามว่ามองความแตกแยกในบ้านเมืองที่ขณะนี้เริ่มกระจายไปถึงบุคคลชั้นสูงในราชนิกุลต่างๆ แล้ว นายบรรหาร กล่าวว่า คนระดับบนและกลางรู้เห็นอะไรแล้วมากมาย แต่คนระดับล่างยังไม่รู้เท่าไหร่ เพราะยังติดเรื่องประชานิยมซึ่งถือว่าเป็นปัญหา และตนก็คงไม่เตือนอะไรแล้ว หลังจากนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งสองฝ่ายก็คงจะต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

เมื่อถามถึงการรับสมัคร ส.ส.ระบบแบ่งเขตวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปว่า ในหลายพื้นที่มีผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยเพียงพรรคเดียว นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ต้องจับตามองกันให้ดีและบางเขตที่มีพรรคเล็กๆ ไปส่งก็จับตามองย้อนหลังเช่นกัน เพราะบางที กกต.ที่เป็นผู้ใหญ่ไม่รู้หรอก เพราะบางที่ กกต.ระดับล่างรู้เรื่องด้วยหรือเปล่าเดี๋ยวจะเสียหาย เพราะไม่น่าเป็นไปได้ที่บางจังหวัดจะมีครบ

กกต.กลาง ต้องตรวจสอบให้ดี เพราะว่าผู้สมัครบางคนผมถามยังบอกว่าจำไม่ได้ไม่รู้จักหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรคเป็นใครไม่รู้จักกันเลย มันเป็นอย่างนี้มันก็แปลกประหลาด นายบรรหาร กล่าว

เมื่อถามต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นให้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครพรรคเล็กในเรื่องนี้ นายบรรหารกล่าวว่า เราเดาเรื่องนี้ไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น ถึงวันนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรกับ กกต. ทั้งเรื่องความเป็นกลาง เช่น ที่มาบอกว่าถ้ามาบอกว่าไม่ส่งผู้สมัคร และจะยุบพรรคแต่มาดูรัฐธรรมนูญ ถูกกฎหมายเลือกตั้งก็ไม่เป็นเช่นนั้น การทำเช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นกลางจริงหรือไม่ และตอนนี้ ยังออกมบอกอีกแล้วว่าถ้าไม่ครบ 500 อาจจะมีวิธีอีกแล้ว

พูดนำร่องมาอีกแล้วว่าจะเปิดสภาฯ อีกแล้ว พูดนำร่องอีกแล้ว ไม่น่าเลย กกต.ต้องวางตัวเป็นกลาง นายบรรหารกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

หัวหน้าพรรคชาติไทย ยังได้กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งล่าสุดนายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา ได้ออกมาเสนอว่าอาจจะแก้ไขนักการเมืองถือหุ้นได้ว่า อาจารย์โภคินหรือ ผมให้แก้มาแล้ว ผมว่าต้องให้คนกลางจริงๆ มาไม่ใช่กลางอยู่ในภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ผมไม่เชื่อหรอก เป็นไปไม่ได้หรอก แล้วถ้าจะกลางจริงๆ ก็ต้องไปดูว่าสภาเป็นของใคร ปัญหามันเยอะแยะ ผมถึงบอกว่าที่นักวิชาการเขาออกมาเย้วๆ ให้นายกฯ ลาออก เอาคนกลางเข้ามา ร่างรัฐธรรมนูญมาควบคุมการเลือกตั้งมันถึงเป็นอย่างนี้ นี่นะความเป็นของคนมีความรู้ ทั้งนี้ นายบรรหาร ยังกล่าวในเชิงประชดโดยเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งวันที่ 2 เกิดขึ้น และแม้ไม่มี ส.ส.ครบ 500 คนก็ยังเชื่อว่ารัฐบาลจะพยายามผลักดันให้เปิดสภาได้

รัฐบาลท่านก็ลากไปอย่างนี้แหละ ผมว่าน่าจะมี แต่ว่าอะไรจะกระทบหรือจะเปิด ก็มากันอีกตอบไม่ได้ รัฐบาลเขาเก่งมีความสามารถ เก่ง ไม่ต้องห่วงเขาเก่ง เดี๋ยวเขาก็เปิดได้ เขาได้ทุกวิธีแหละ ทุกวิธีทางแหละอย่าไปบอกว่าเปิดไม่ได้สิ เขามีทุกวิถีทางอย่าง เช่น กกต.ก็นำร่องมาแล้ว เราเปิดได้อย่าไปดูถูกฝีมือเขา ไอ้แค่นี่เอง ฝีมือง่ายๆ นายบรรหาร กล่าวอย่างประชดประชัน

นายบรรหาร ยังกล่าวถึงบทบาทของฝ่ายค้านจากนี้ไปว่า ถ้าสภามีพรรคไทยรักไทยพรรคเดียว ฝ่ายค้านก็ตรวจสอบนอกสภา เพราะที่สุดผิดถูกอย่างไรเดี๋ยวก็มีข่าวออกมาเอง แต่มันก็คงจะน่าแปลกเพราะมีรัฐสภาพรรคเดียวไม่มีฝ่ายค้าน มันจะเหมือนสภาสิงคโปร์ สภาสิงคโปร์มีฝ่ายค้านเพียง 2 คนมันก็สนุกดีนะ ลองทดลองแบบนี้บ้างเพื่อจะดีขึ้น แต่จะยาวนานแค่ไหน ตอบไม่ได้ เพราะสิงคโปร์มันประเทศเล็ก แต่เรามันใหญ่ ค่าใช้จ่ายแต่ละปีมันเยอะไม่เหมือนกัน ก็ภาวนาให้รัฐบาลไปด้วยความราบรื่น

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์