จตุพรเปิด3คลิปสลายชุมนุม จวกรัฐเห็นค่าซากตึกมากกว่าชีวิตคน

สภาป่วน! ประท้วง"จตุพร"อภิปราย "บุญยอด"ถูกเชิญออกห้องประชุม


เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 31 พ.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เตรียมขึ้นอภิปราย แต่ถูก นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงว่า นายจตุพรไม่มีสิทธิในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะจะขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เนื่องจากนายจตุพรเป็นหนึ่งในผู้เสนอยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลและยื่นถอดถอนรัฐมนตรี แต่วันนี้ นายจตุพรมีสถานะเป็นผู้ต้องหา แต่กลับมาใช้สิทธิในฐานะคู่กรณี โดยขอใช้สิทธิอภิปราย อย่างไรก็ตาม การที่นายจตุพรขอใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ตนไม่ติดใจ แต่ไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เพราะถือว่าผลประโยชน์ขัดกัน อย่างไรก็ตาม พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้วินิจฉัยให้นายจตุพรสามารถอภิปรายได้ เพราะการเป็น ส.ส.มีสิทธิในการอภิปราย

ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนได้ลุกฮือประท้วงการทำหน้าที่ของ พ.อ.อภิวันท์ และเรียกร้องให้ถอนตัวจากการทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยให้เหตุผลว่าอาจเป็นการใช้เวทีสภาเป็นเครื่องมือสนับสนุนผู้ก่อการร้ายที่กระทำผิด แต่ พ.อ.อภิวันท์วินิจฉัยว่า ยังไม่มีหมายจับนายจตุพรมา และทราบว่าจะมีการออกหมายจับหลังมีพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ จากนั้นได้ให้นายจตุพรขึ้นอภิปราย แต่ถูก นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง ทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย มีการส่งเสียงตะโกนด่าทอกันจนพ.อ.อภิวันท์ ต้องเชิญนายบุญยอดออกจากห้องประชุม

"ตู่"สวนรัฐถ้านปช.เผาเมืองจริง ทำไมไม่จับมือเผามาลงโทษ


เวลา 23.30 น. นายจตุพรอภิปรายว่า สถานะคดีของตนเหมือนนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ถูกตั้งข้อหายึดสนามบินและไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่ผ่านมาได้ไปดีเอสไอและรับข้อกล่าวหาแล้ว ดีเอสไอตั้งข้อหาเพิ่มเป็น 5 ข้อหา ซึ่งตนรับข้อกล่าวหาทั้งหมด ดังนั้นสถานะตนจึงไม่แตกต่างจากนายกษิต ส่วนหลังปิดสมัยประชุม ถ้าจะมีการออกหมายจับตนก็ขอให้ทำเลยทั้ง 5 คดี "การอภิปรายของผม เพื่อทวงความยุติธรรมให้แก่วีรชนที่ถูกกระสุนปืนบาดเจ็บ ล้มตาย แต่นายสุเทพบอกคนตายบางคนมีพฤติกรรมเคยต้องคดีต่างๆ นั้น นายสุเทพไม่มีสิทธิตัดสินเหมารวมว่า ทุกคนต้องมีพฤติกรรมเช่นนั้น"


นายจตุพรกล่าวว่า อาคารต่างๆ ที่ถูกเผา ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน มาลีนนท์ ธนาคารกสิกรหลายสาขานั้น หากกลุ่ม นปช.เผาจริงทำไมรัฐบาลไม่หาคนผิดมาลงโทษ จะเป็นเหตุผลเดียวกับที่เคยมีการเผารถเมล์หรือไม่ ทำไมตึกเกษรพลาซ่าจึงไม่ถูกเผา ทั้งที่ลูกสาวและลูกเขยของเจ้าของตึกเกษรเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ทำไมเสื้อแดงจึงไปเผาตึกเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามปลุกกระแสพวกตนพาคนมาตาย ถ้าตนนำมา แล้วใครเป็นคนฆ่าคนเหล่านั้น ทั้งที่คนเหล่านั้นมาขอหีบบัตรเลือกตั้ง แต่รัฐบาลกลับให้หีบศพแก่คนเหล่านี้


นายจตุพรกล่าวต่อว่า ศอฉ.ทำแผนผังแสดงพฤติกรรมคนกล่าวหาหมิ่นสถาบัน โดยอ้างว่ามีคนของพรรคเพื่อไทยต้องการล้มสถาบันเพราะเขียนบทความในหนังสือความจริงวันนี้ ทั้งที่บทความทุกเรื่องไม่ถูกกล่าวหาข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งมีนายสุเทพเป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ มีการประชุมครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม และมีมติ 2 ใน 3 ของคณะกรรมการให้คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นคดีพิเศษ อยากถามนายสุเทพว่า คดีนายพิชา วิจิตรศิลป์ แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ที่ไม่นำนายทหารนายตำรวจที่รับยศชั้นนายพลเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ ถามว่าคณะกรรมการพิเศษส่งเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการสอบสวนแล้วหรือยัง


นายจตุพรกล่าวอีกว่า ดา ตอร์ปิโด ถูกดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล นำคำพูดของดา ตอร์ปิโด ไปพูดซ้ำ แต่คดีที่ยังอยู่ในการสอบสวนของอัยการ คดีกลับไม่ไปไหน ทำไมไม่ทำคดีนี้เป็นคดีพิเศษ


ย้ำรัฐบาลยัดเยียดข้อหาก่อการร้าย-เผาเมืองให้กลุ่มเสื้อแดง

นายจตุพรอภิปรายด้วยว่า แผนปรองดองนั้น นายกฯควรเริ่มที่ตัวเองก่อนและจะเชื่อได้อย่างไรว่าคนที่นายกฯแต่งตั้งจะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และจะไม่เหมือนกรณีสปก.4-01 ช่องหอยม่วงเช่นกัน ต้องการให้เมืองไทยมีทีวีแห่งความตายหรือ เพราะการปิดกั้นสื่อระวังจะเป็นเหมือนรวันดาและเหมือนเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 ภูมิใจกับคำว่าพวกตนพาคนมาตายโดยพวกท่านฆ่าใช่หรือไม่ ข้อหาก่อการร้ายคือข้อหาภัยสังคมในสมัยก่อน บ้านเมืองจะอยู่แบบนี้หรือ ขอบอกไปยังนายกฯและนายสุเทพด้วยเพราะตนอภิปรายด้วยหัวใจและความรู้สึก เสรีภาพของตนจะมีไม่กี่วันก็ไม่เป็นไร แต่รัฐบาลจะไล่ล่าและกดหัวประชาชนนั้นจะทำได้นานเท่าใด ตนไม่หวังว่าการอภิปรายจะเกิดการเปลี่ยนแปลง


นายจตุพรยังอภิปรายถามถึงสาเหตุที่โดนตั้งข้อหาก่อการร้าย โดยยกทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายอดิศร เพียงเกษ พร้อมระบุว่า แค่คำอภิปรายก็สามารถนำตั้งข้อหาก่อการร้ายได้ ส่วนเรื่องอาวุธที่ ศอฉ.นำมาแถลง นายจตุพรอภิปรายว่า เป็นการยัดเยียดอาวุธ และการเผาอาคารสถานที่ต่างๆ ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน มาลีนนท์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ไม่สามารถจับคนร้ายได้เลย จึงสงสัยว่าจะเป็นการเผากันเอง เพื่อที่จะหาหลักฐานมาปรักปรำพวกตนว่าก่อการร้าย


นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า นายจตุพรกำลังอภิปรายหรือกำลังแก้ข้อกล่าวหาก่อการร้าย


ถามนายกฯ-สุเทพ ทุกศพที่ตายทำไมไม่ชันสูตรตามกม.


นายจตุพรกล่าวว่า ขอถามนายกฯและนายสุเทพว่า ทุกศพที่เสียชีวิตทำไมไม่เข้าสู่การชันสูตรพลิกศพตามกฎหมายอาญา ซึ่งจะทำให้รู้ว่าทหารตายเพราะอะไร ประชาชนตายเพราะอะไร เพราะพวกท่านต้องการหลบข้อหาฆาตกรใช่หรือไม่ จึงมาใช้ข้อหาก่อการร้ายและล้มล้างสถาบันกับพวกตน ทหารแตงโมบอกตนว่ารถหุ้มเกราะที่นำมาใช้นั้นนำมาเก็บศพด้วย ส่วนกรณีพระที่มาชุมนุมนั้น มาขอบิณฑบาตชีวิตแต่กลับมาจับสึกและคุมขังเลยด้วยตำรวจและทหาร ส่วนส.ว.ที่มาคุยนั้นยังไม่ทันไร นายกฯก็สั่งการแล้ว ปฏิบัติการนั้นเวลาฆ่าประชาชนก็มีข่าวว่ารองนายกฯโดนยิงบ้าง ทำแบบนี้เพื่อเบนความสนใจ ถามว่าคนที่เสียชีวิตนั้นหากเป็นผู้ก่อการร้ายแล้วกระทรวงพัฒนาสังคมฯจ่ายเงินให้ทำไม


จากนั้นได้นำภาพถ่ายการปฏิบัติของทหารต่อพระสงฆ์ ผู้หญิง และเด็กที่มาร่วมชุมนุมระบุว่าเป็นการไม่เหมาะสม มีการใช้ทหารแต่งเป็นพระ ซึ่งต้องการทวงความยุติธรรมให้แก่คนตาย นอกจากนี้ นายจตุพรยังนำภาพที่วัดปทุมวนารามมาแสดง และภาพชายชุดดำซุ่มยิงตามที่ต่างๆ และระหว่างการอภิปรายมีการเปิดคลิปภาพ คลิปแรกเป็นภาพเจ้าหน้าที่ควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม คลิปที่ 2 เป็นคลิปพลแม่นปืนที่ ศอฉ.เคยอธิบายแล้วกรณีเจ้าหน้าที่ยิงใส่ขาผู้ชุมนุมที่เตรียมจุดไฟแช็กเผารถน้ำมัน


นายอรรถพรลุกขึ้นประท้วงอีก ระบุว่า คลิปที่นำมาแสดงเป็นคลิปที่เคยมีการเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตมาแล้วและไม่ได้มีอะไรบ่งบอกว่านายกฯ สั่งฆ่าประชาชนแต่อย่างใด


ด้านนายจตุพรอภิปรายต่อว่า มาตรการปรองดอง กรรมการที่ตั้งขึ้นจะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ที่บอกว่าโรดแม็พถูกใจคนเพราะคนต้องการความสงบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่นายจตุพรอภิปรายนั้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคน ประท้วงนายจตุพรเป็นระยะในเรื่องผิดข้อบังคับการประชุม ข้อ 61 ทำให้การอภิปรายของนายจตุพรสะดุดเป็นช่วง ๆ ขณะเดียวกันนายจตุพรใช้คลิปช่วงที่สลายการชุมนุม 3 ชุด เปิดประกอบในการอภิปราย

"กษิต"โต้"จตุพร" ไม่เคยทำผิดข้างนอกแล้วใช้สภาฟอกตัว
 

จากนั้นนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ใช้สิทธิพาดพิงชี้แจง ว่า สถานะตัวเองไม่เหมือนนายจตุพร เพราะไม่มีเอกสิทธฺ และข้อหาต่างๆของตนก็อยู่ในกระบวนการ เมื่อมาเป็นรมว.ต่างประเทศก็ไม่เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯอีกเลย ไม่เคยไปทำความผิดนอกสภาแล้วมาฟอกตัวเองในสภาเด็ดขาด ที่สำคัญคือปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต เพื่อประโยชน์ของชาวไทย ขณะที่นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ใช้สิทธิพาดพิงแช่นเดียวกันโดยกล่าวว่า “คนที่พาประชาชนมาชุมนุม มาตาย คือนายจตุพร พรมพันธุ์” ด้านณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม. ในฐานะกรรมการพรรคประชาธิปัตย์ ใช้สิทธิพาดพิงยืนยันครอบครัวตนที่ถือหุ้นเกสรพลาซ่าที่ไม่ถูกเผานั้น ไม่เกี่ยวพันกับคนเสื้อแดง แล้วถ้าจะบอกว่า ที่เซ็นทรัลเวิลล์ถูกเผา เพราะผู้ถือหุ้นเซ็นทรัลเวลล์ เป็นญาตินายกฯ นามสกุลเวชชาชีวะบ้าง จะว่าอย่างไร

"สุเทพ"อัด"ตู่"ใจโหดเหี้ยม รับจ้างสร้างสังคมแตกแยก   


เวลา 01.20 น. วันที่ 1 มิถุนายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลุกขึ้นชี้แจง พร้อมตั้งคำถามว่า มีคนไทยหลายล้านคนในวันนี้ ตั้งคำถามว่าหัวใจนายจตุพรมันทำด้วยอะไร ถึงทำได้ขนาดนี้ ถ้าคนไม่โหดเหี้ยมในกมลสันดานแบบนี้ คงไม่สามารถรับจ้างคนพาคนมาจำนวนมาก ทำให้สังคมไทยแตกแยกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การแก้ปัญหาของเราทำเพื่อประชาชนไม่ได้รับจ้างใครมาโดยเห็นแก่อามิสและนายเก่า ตนจะไม่นำคลิปที่ทำร้ายหัวใจคนไทยมาเปิดทั้งที่มีอยู่เหมือนกัน เพราะตนไม่อยากตอกย้ำให้คนไทยด้วยกันเองเกลียดชังกันมากกว่านี้


 
อำมหิตฆ่าได้แม้กระทั่งพวกเดียวกัน


“ผมอยากย้ำคุณจตุพรด้วยครับว่า กินข้าววัดมาก็มาก อยู่วัดมาก็มาก สิ่งที่คุณทำนั้น บาปมหาศาลมาก”นายสุเทพกล่าว และว่า ยืนยันการดำเนินคดีทุกอย่างกดำเนินการตามขั้นตอน ในคณะกรรมการคดีพิเศษมีกรรมการหลายคน เป็นอดีตประธานศาลก็มาก และที่ประชุมเห็นตรงกันว่าคดีนี้ต้องเป็นคดีพิเศษ และมติเป็นเอกฉันท์ ไม่ใช่ 2 ใน 3  อย่างที่นายจตุพรตั้งใช้ให้คนเข้าใจผิด มติในวันนั้นเป็นการพิจารณาพฤติกรรมรวมๆทีทำกับชาติไทยนี้ ไม่เคยมีครั้งไหนที่มีกลุ่มคนแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นระบบ พวกหนึ่งใช้เวทีปลกระดมให้ประชาชนที่แสดงออกถึงความรักชาติรักประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือ ถือว่าอำมหิต เพราะคนเหล่านั้นบริสุทธิ์จริงๆ ขณะเดียวกันก็แบ่งงานให้อีกกลุ่มก่อการร้ายฆ๋าคนไทยด้วยกัน นายจตุพรอาจเป็นคนเก่งกาจเชี่ยวชาญในการพูดจาปลุกระดม แต่วิญญูทั้งหลายตัดสินใจได้ เหตุการณ์ที่เกิดที่แยกคอกวัวไม่ใช่เรื่องรัฐสร้างฉาก มีแต่พวกใจดำอำมหิตโฉดช้าเท่านั้นที่ทำได้เพราะฆ่าได้แม้กระทั่งพวกเดียวกัน เป็นครั้งแรกที่ตนได้เห็นว่าคนเหล่านี้อำมหิตจริงๆ

รองนายกฯ อภิปรายอีกว่า นายจตุพรเป็นแกนนำสำคัญของขบวนการที่วางแผนมากันเป็นอย่างดี ส่วนกรณีไฟไหม้ที่ไม่สามารถจับกุมคนเผาได้นั้น แสดงให้เห็นชัดว่า ทั้งหมดที่ทำมา โยนความผิดให้คนอื่นทั้งสิ้น พยายามให้เห็นว่าเป็นการสร้างฉาก สร้างเรื่องของเจ้าหน้าที่ เป็นนักการเมืองมา 30 ปี เพิ่งเคยเห็นคนอย่างนายจตุพรที่ประกาศไล่ล่าเอาชีวิตตน ชีวิตนายกฯ และลูกเมีย ทั้งนี้นายสุเทพยังยืนยันว่า ไม่ได้มีการยัดเยียดข้อหา แต่เป็นพฤติกรรมของพวกท่าน จึงต้องให้ดีเอสไอทำเป็นคดีพิเศษ


รองนายกฯ กล่าวว่า ตำรวจทหารที่มาทำหน้าที่ไม่เคยมองประชาชนเป็นศัตรู ภาพที่เอามาแสดงให้เห็นว่าทหารกำลังใช้กระบองตีคนเสื้อแดงจนสลบ ตนให้คนไปดูแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการตีลูกกรงของห้องแถวที่เสียงดัง แล้วมีเสียงคนห้าม ไม่ใช่เสียงที่เกิดจากการตีคนของทหาร อย่างไรก็ตาม จะให้สอบสวนเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ว่ามีการกระทำในลักษณะนั้นได้อย่างไร ซึ่งตนต้องขอความเป็นธรรมให้แก่เจ้าหน้าที่ที่มาทำงานให้บ้านเมืองในครั้งนี้ด้วย


นายสุเทพยังอภิปรายว่าได้ดูฉากยุติการชุมนุม เห็นการทอดทิ้งมวลชนของนายจตุพรอย่างน่าละอายที่สุด เห็นการแตกตื่นของคุณจตุพร 2 ครั้ง และเชื่อว่านายจตุพรไม่ได้คิดจะร่วมเป็นร่วมตายกับผู้ชุมนุม หากมีโอกาสก็พร้อมจะหนีก่อนเสมอ

โชคร้ายคนไทย “จตุพร”เกิดมา ร่วมมือ“แม้ว”ถล่มชาติไม่เลิก 
 

"ที่นายจตุพรบอกว่าใช้แต่หนังสติ๊กโต้ตอบทหารเท่านั้น นายจตุพรไม่ปัญญาอ่อนหรอก แต่เป็นโชคร้ายของแผ่นดินไทยและคนไทยที่มีนายจตุพรเกิดขึ้นมาในแผ่นดินนี้ และยังไปพูดในต่างประเทศ โดยเงินของพ.ต.ท.ทักษิณที่ไปว่างจ้างล๊อบบี้ยีสต์ บริษัทอัมส์เตอดัมเพื่อทำให้ต่างประเทศเห็นว่าพวกนายจตุพรถูกกลั่นแกล้ง ไม่มีการก่อการร้ายในประเทศ กลุ่มของนายจตุพรที่กำลังทำร้ายบ้านเมืองนั้นยังมีอาวุธร้ายแรงที่สำคัญคือพีทีวี สิ่งที่นายจตุพรพยายามแสดงออกมาตลอดเวลาคือความพยายามสร้างความเข้าใจผิดให้คนในบ้านเมืองนี้ หาว่านายกฯและผมใส่ร้าย ผมไม่ต้องแก้ตัว เพราะพฤติกรรมของนายจตุพรและพวกที่ปฏิบัติมาหลายเดือนนี้ กับสิ่งที่พวกผมทำ เชื่อว่าคนไทยที่รักบ้านเมืองวินิจฉัยได้ เคยเห็นว่านายจตุพรเป็นคนมีความสามารถ แต่ในวันนี้ความสามารถนี้ของนายจตุพร เป็นอันตรายต่อคนไทยและชาติไทยอย่างยิ่ง" นายสุเทพกล่าวตอนท้าย


จากนั้นเวลา 02.10 น. นายชัยสั่งพักการประชุม พร้อมนัดประชุมเพื่ออภิปรายอีกครั้งในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ เวลา 08.30 น. โดยนายจตุพรกล่าวในตอนท้ายว่า ตนได้จดบันทึกทุกประเด็นที่นายสุเทพชี้แจงแล้ว ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ตนจะมาตอบทุกประเด็น  



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์