วิเคราะห์ รบ.อภิสิทธิ์ต้องแยกแยะ อย่าเหวี่ยงแห กวาดล้างเสื้อแดง

ผ่านไป 5 วัน หลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้สำเร็จ   แกนนำรัฐบาลเริ่มยิ้มออก


แต่สิ่งที่ยังน่ากังวล และน่าตกใจคือมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ภาพความความสูญเสีย เป็นสิ่งที่ประเมินต่ำไม่ได้

วันนี้ แกนนำคนเสื้อแดง หลายคนมอบตัว และถูกคุมขัง  แกนนำบางส่วนยังหลบหนี  ขณะที่หลายคนยังเป็นผู้สาบสูญ


หลังสลายการชุมนุม มวลชนคนเสื้อแดงหลายพันคน  ถูกส่งตัวกลับภูมิลำเนา  อย่างผู้แพ้ จิตใจบอบช้ำ


ท่าทีของรัฐบาลหลังชนะศึก นปช.   เริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ   สถานะของรัฐบาลก็มีความแข็งแกร่ง  เห็นได้ชัดจากการเปิดเกมรุก"คนเสื้อแดง" อย่างมั่นใจ


แต่กระนั้น รัฐบาลและกองทัพก็ยังไม่นอนใจคลื่นใต้น้ำ  จึงยังคาประกาศเคอร์ฟิวไว้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม


ไม่มีใครตอบได้ว่า คนเสื้อแดงจะลุกฮือขึ้นมาต่อสู้รอบใหม่ เมื่อใด  ?


ล่าสุด พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน  รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)    ยอมรับว่า   "ขณะนี้กำลังมีคณะบุคคลพยายามที่ยกระดับ ปรับตัวเองขึ้นมา อ้างตัวเป็นแกนนำรุ่นใหม่    มีการลงมือทำการเชิญชวนให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลับมาชุมนุมใหม่   ซึ่งเท่ากับว่ากำลังมาก่อความวุ่นวาย กำลังกลับมาสร้างสถานการณ์ที่รุนแรงและร้ายแรงขึ้นอีก "


 สิ่งที่ดูสงบเงียบในกรุงเทพ อาจเป็นเพียงความสงบเงียบ ก่อนพายุใหญ่ก่อตัว  สายข่าวหลายแหล่ง ยืนยันตรงกันว่า หลายพื้นที่ในเขตเรดโซน มีความเคลื่อนไหวที่รอการปะทุ


ชาวบ้านในเขตเรดโซนหลายจังหวัด   เต็มไปด้วยอัดอั้น คับแค้นใจ   รอวันเวลาทวงคืน !!!


ประตูห้องน้ำในปั๊มน้ำมันหลายแห่งรอบกรุงเทพ  คือ ที่ระบายความแค้น  หลายประโยคไม่น่าเชื่อว่า ความรู้สึกของคนเสื้อแดง จะรุนแรงได้ขนาดนั้น

ถ้ารัฐบาลลำพองใจ คิดว่า  เอาอยู่และเปิดเกมรุก คนเสื้อแดงแบบเหวี่ยงแห  อาจเป็นการเร่งสงครามกลางเมืองรอบใหม่ ให้เร็วขึ้น


ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ รองคณบบดีคณะสังคมศาสตร์   มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  เตือนสติรัฐบาลประชาธิปัตย์ อย่างตรงประเด็นว่า " คนตายเกือบร้อย รัฐบาลจะต้องหามาตรการเยียวยา รัฐบาลต้องได้ใจคนเหล่านั้น  ให้พวกเขารู้สึกว่า รัฐบาลรับผิดชอบ  รัฐบาลเป็นรัฐบาลของผืนแผ่นดินไทย รัฐบาลไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์  นายกฯอภิสิทธ์ ต้องเป็นนายกฯของประชาชนทุกคน" 


" ความฮึกเหิม ความเศร้า ความเคียดแค้น ความชิงชัง เขามีเต็มหัวใจ รัฐบาลยังไม่ได้เยียวยาสิ่งเหล่านี้ รัฐบาลรู้สึกว่าชนะ   แต่จริงๆ ไม่ชนะ นี่คือความชนะบนความพ่ายแพ้ของประเทศไทยอย่างแท้จริง ห้ามพูดถึงความชนะ รัฐบาลต้องออกมาว่า เราได้ใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายอะไรก็ว่าไป  "

"ถ้า ศอฉ.ยังบอกว่า เขาคือผู้ก่อการร้ายอยู่ แรงปะทุเขาจะมีขึ้นมาก ต้องหาทางเยียวยาให้กับเขา คนที่ตาย คนที่บาดเจ็บอยู่ ผมเชื่อมั่นว่าคนที่ลงใต้ดินมันจะไม่ง่ายหรอกถ้าจะไม่มีหัว แต่ผมมีความเชื่อลึกๆ อยู่อย่างหนึ่งว่า ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ ยังกล่าวหากันอยู่เรื่อยๆ ผมยังมีความเชื่อว่าเขาก่อม็อบกันแน่นอน"


ทฤษฎีของ ดร.ชลวิทย์  เป็นสิ่งที่"อภิสิทธิ์"และ"สุเทพ เทือกสุบรรณ"จะต้องคิดให้หนัก

 การหยุดสงครามใต้ดินที่ดีที่สุด รัฐบาลอภิสิทธิ์ จะต้องปฎิบัติกับคนเสื้อแดงที่มีหลายหัว อย่างจำแนกแยกแยะ อย่าเหมารวม และอย่าเหวี่ยงแหแบบมั่วๆ


ประเด็นสำคัญต่อมา กระบวนการตามกฎหมายที่จะใช้จัดการคนเสื้อแดง จะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมาตรฐานเดียวกัน


เอาเข้าจริงแล้ว หากจำแนกกลุ่มคนเสื้อแดง ตามข้อเท็จจริงและความผิดแล้ว อาจแบ่งได้เป็น 5  กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มแรก คือ แกนนำ นปช. ที่แยกออกเป็น เสื้อแดงสายพิราบ และเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ที่มีพฤติกรรมและความผิดแตกต่างกัน  แกนนำที่มีหลักฐานชัดเจนว่า บงการให้มีการใช้ความรุนแรง เผาเมือง หรือวางเพลิง โดยทฤษฎีตกใจ ก็ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด


ในขณะที่แกนนำเสื้อแดง สายพิราบ รัฐบาลก็ควรใช้ประโยชน์จากคนกลุ่มนี้ โน้มน้าวให้คนเสื้อแดงกลับมาสู่แนวทางการต่อสู้แบบสันติ


กลุ่มสองคือ กลุ่มผู้สนับสนุน หมายถึง กลุ่มท่อน้ำเลี้ยง ที่มีการประกาศไปแล้ว 3 ระลอก จำนวน 145 ราย รัฐบาลจะต้องจัดการตามพยานหลักฐาน อย่าใช้อำนาจการเมือง กลั่นแกล้ง ฝ่ายตรงข้าม  จนดูกลายเป็นความจงใจ  


 จริงๆ แล้ว ควร เจาะให้ชัด ๆ  ไม่ใช้กวาดเหมา แบบเดียวกับเครือข่ายล้มเจ้าของ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ที่ค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือ 


กลุ่มสีเทา รวมถึง กลุ่มนักวิชาการที่เห็นด้วยกับจุดยืนของคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพราะกลุ่มคนสีเทา อาจไม่ใช่ คนที่ศรัทธาทักษิณ เลยก็ได้ การจัดการกับคนสีเทา อย่างไม่เหมาะสม   นอกจากจะไม่ได้ใจแล้ว ยังจะเป็นการผลักคนกลุ่มนี้ไปอยู่กับ"ทักษิณ" เลยก็เป็นได้


กลุ่มก่อการร้าย ที่รัฐบาลกล่าวอ้างว่า เป็นคนวางเพลิงเผาอาคาร  เป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย หรือ เป็นชายชุดดำ ที่ยิงปืนเอ็ม 79 และปืนระยะไกล  กลุ่มนี้ รัฐบาลจะต้องจัดการอย่างเฉียบขาดและจริงจัง  จริงหรือไม่ว่า เป็นทหารเขมร   จริงหรือไม่ว่า คนเสื้อดำ เป็นผู้ก่อการร้ายที่ยิงปืน เอ็ม 79  จนทำให้คนบาดเจ็บล้มตาย


ถ้ารัฐบาลกล่าวอ้างแล้วไม่ปรากฏว่า ผู้ก่อการร้าย มีอยู่จริง  จับได้แต่แพะ  ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจะหายไปทันที


 กลุ่มต่อมาคือ กลุ่มชาวบ้านที่นักการเมืองพรรคเพื่อไทย นำมาจากต่างจังหวัด กลุ่มนี้สำคัญที่สุด  ถ้ารัฐบาลจัดการคนกลุ่มนี้ ราวกับไม่ใช่คนไทย   จะเป็นผลเสียอันใหญ่หลวง  เพราะจิตใจของคนกลุ่มนี้ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว หลัง 19 พฤษภาคม จะกลับมาคุกรุ่น ด้วยไฟแค้น


ดีที่สุดคือ รัฐบาลต้องหยุดอาณาจักรแห่งความหวาดกลัว และเข้าหาคนกลุ่มนี้ อย่างเป็นมิตร


ทิ้งท้ายด้วย"ตำรวจ"ที่ถูกมองว่า เป็นตำรวจมะเขือเทศ ฝักใฝ่คนเสื้อแดง นั้น รัฐบาลต้องหยุดสื่อของรัฐที่กระหน่ำโจมตีตำรวจ  อย่างบ้าระห่ำ 

วันนี้ พวกสื่อหัวรุนแรงรุกตำรวจจนติดฝา  นอกจาก พวกนี้ จะไม่สร้างสรรค์แล้ว สื่อพวกนี้ยังก่อไฟสงครามที่ไม่รู้จบ


เพราะที่สุดแล้ว นอกจากไม่ได้ใจตำรวจแล้ว  ตำรวจ จะเลือกข้างไปอยู่กับทักษิณและคนเสื้อแดงจริงๆ


จากนั้น รัฐบาลควรปฎิรูประบบตำรวจ อย่างจริง โดยทำให้ตำรวจปลอดจากการเมือง อย่างแท้จริง

นี่คือ คำเตือนในบรรยากาศที่บ้านเมืองเปราะบางอย่างที่สุด !!!
            


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์