มาร์คแจงเหตุจลาจลเริ่มสงบแล้ว ย้ำทหารล้อมกระชับพื้นที่ไม่ได้ยุ่งม็อบราชประสงค์ เสียใจคนตายแถววัดปทุมฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี  กล่าวผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 พ.ค.

  พูดคุยทำความเข้าใจหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆ  ที่เกิดขึ้นมากมาย  ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา จนสร้างความสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินจำนวนมากว่า  นับแต่หลังตนนำเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ ให้มีการเลือกตั้ง 14 พ.ย.  เพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง ปรากฎว่า แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมนปช. ก็แสดงตอบรับท่าที แต่ไม่ยอมยุติชุมนุม  ต่อมาก็มีการปฏิเสธเข้าสู่กระบวนการปรองดอง  ซึ่งรัฐบาลก็ต้องมีความจำเป็นต้องคืนความสงบสุขให้กับสังคม  การชุมนุมที่ราชประสงค์ ส่งผลกระทบกับปชช.ที่ใช้วิถีชีวิตอยู่บริเวณนั้น รบ. และศอฉ. พยายามทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดเพื่อยุติการชุมนุมด้วยการกระชับวงล้อมด้วยการให้ทหารเข้าตั้งด่าน 4 ด้าน เพื่อล้อมประชิด


นายกฯ กล่าวต่อว่า
 
การกระชับวงล้อมของเจ้าหน้าที่นั้น มีความพยายามของประชาชนจำรวนหนึ่งรวมถึงผู้ติดอาวุธ เพยายามเข้าโจมตีด่านทั้ง 4 ทิศทาง ไม่ว่าจะเป็น สามเหลี่ยมดินแดง ถ.ราชปรารถ คลองเตย บ่อนไก่ และอื่นๆ ทำให้มีการสูญเสีย กว่า 40 ชีวิต  ทั้งนี้ ยืนยันว่า การเสียชีวิต ทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวกับการชุมนุมที่ราชประสงค์ แต่การสูญเสียเกิดจากการปะทะกัน เหตุการณ์นั้นนำมาซึ่งความสูญเสียของชีวิตทั้งผู้สื่อข่าว และประชาชนธรมดา การปกป้องของจนท. เป็นการปกป้องด่านเท่านั้น และการใช้อาวุธจริงก็เป็นการป้องกันตัว เนื่องจากมี การยิงเอ็ม 79 เข้ามาในพื้นที่ตั้งด่านถึงร้อยกว่าครั้ง  แต่ที่พบว่า ไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่ได้รับความสูญเสีย เป็นเพราะจนท.วางแแผนรัดกุม เนื่องจากรู้ว่า เอ็ม79 มาจากทิศทางใด จึงหลบในที่ๆ อยู่ในจุดที่เข้าไม่ถึง แต่การปะทะ เกิดจากกลุ่มติดอาวุธ พยายามทำลายปชช.ด้วยกันเอง โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวต่างชาติ เพื่อเพิ่มความแค้นเคือง อารมร์โกรธ และนำมาเป็นเงื่อนไขในการสร้างความชอบธรรม ให้กับเจ้าหน้าที่


นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า 

การที่ผู้ชุมนุมขอให้รัฐบาล ศอฉ. และเจ้าหน้าที่ทหาร หยุดยิง ตนก็ขอบอวก่า ทหารไม่ได้เข้าไปยุ่งกับการชุมนุมของ ผู้ชุมนุม แต่เป็นการป้องกันด่านที่มีผู้เข้ามาบุกรุก ในระหว่างปฏิบัติการกระชับวงล้อม การใช้อาวุธก็ยึดตามหลักสากลในการปกป้องตังเองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และขอยืนยันว่า ทหารไม่มีการใช้อาวุธเอ็ม 79 อย่างแน่นอน แต่อาวุธสงครามที่มาความร้ายแรงและหลากหลายนั้น ล้วนมาจากกลุ่มติดอาวุธ กลุ่มก่อการร้ายทั้งนั้น 


การเรียกร้องของคนกลาง เรียกร้องให้ปรองดอง หาทางคุย ทั้งๆที่รบ. ศอฉ. ชัดเจนมาตลอด และเริ่มเห็นว่า ปชช.ธรรมดาที่อาศัยรอบบริเวณพื้นที่ชุมนุมเริ่ม หมดความอดทน และเกรงว่า
 
จะเข้าไปต่อสู้ด้วยตัวเอง รัฐบาลก็ต้องพยายามทำให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ราชประสงค์โดยเร็วที่สุด จึงมีการล้อมกระชับพื้นที่ เรื่อยมาก  จากนั้นพอมีคำสั่งสลายชุมนุมจากกลุ่มแกนนำนปช. ในวันที่ 19 พ.ค. ผู้ชุมนุมบางส่วนก็ไม่ยอมกลับบ้านไปตามที่แกนนำบอก และมีบางส่วนพยายามก่อวินาศกรรม ด้วยการวางเพลิงสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งห้างเซ็นทรัลเวิลด์  ห้างเซ็นเตอร์วัน ธนาคารหลายแห่ง ฯลฯ  แต่ปัญหาที่น่าเสียใจ คือ การเสียชีวิตบริเวณพื้นที่วัดปทุมวนาราม  และพื้นที่ใกล้เคี้ยง  ซึ่งขณะนี้ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากการพิสูจน์ศพ ทั้ง 6 ศพ ที่เสียชีวิตแล้ว เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น  โดยสถานการณ์ วันที่ 19 พ.ค.  ที่ผ่านมา มีผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่ในพื้นที่วัดจำนวนมาก โดยเฉพาะบุคลที่เอาอาวุธเข้าไปจำนวนมาก  แต่อย่างไรตาม ในนที่สุดรบ. ควบคุมสถานกาณณ์ได้เป็นลำดับ หลายพื้นที่ต่างๆ จะสามารถส่งมองมอบให้ทางกทม.ได้ตามลำดับ ในวันที่ 24 พ.ค. นี่เป็นต้นไป  ทั้งนี้ จนต้องขอขอบคุณจนท.ทุกหน่วยงาน ที่ทำงานด้วยความกล้าหาญ ด้วยความเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยให้วิกฤตของชาติที่เกิดขึ้น ค่อยๆคลบี่คลายกลับมาสงบสุขอีกครั้ง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์