สุรยุทธ์ชิงปัด ทักษิณนัดพบ

ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นการไปขอคำปรึกษาหาช่องทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย ขณะที่ พล.อ.อู้ด เบื้องบน นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ระบุว่าเป็นแค่การเข้าเยี่ยมคารวะผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเท่านั้น

และต่อมา พล.อ. เปรมก็ยืนยันว่า

การพบกันครั้งนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นไปตามที่ พล.อ.อู้ดให้สัมภาษณ์ไว้นั้น ล่าสุด พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ออกมาย้ำว่า

พ.ต.ท.ทักษิณไม่ควรกลับประเทศไทยในช่วงนี้ ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธกระแสข่าวว่า พ.ต.ท. ทักษิณติดต่อขอเข้าพบกับนายกฯในช่วงที่จะเดินทางไปประชุมอาเซียนซัมมิต ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 ต.ค. ที่กองบัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

ให้สัมภาษณ์ถึงการขอเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า

เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณากัน หากพูดอะไรไปจะสับสนเปล่าๆ ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องรอเวลาเหมาะสมคือสถานการณ์บ้านเมืองนิ่งกว่านี้ ถึงจะเดินทางกลับมาได้ใช่หรือไม่

พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า

ไม่ทราบ เพียงแต่รู้สึกว่าถ้าเป็นผม ผมจะยังไม่กลับ มันเหมือนรู้สึกว่าไม่ค่อยสบาย ถ้าพยายามเอาตัวไปอยู่ตรงจุดนั้น รู้สึกว่าไม่ค่อยสบายใจหากกลับมาในขณะนี้

ต่อข้อถามว่า การที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์

ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นการเกี้ยเซี้ย ขอร้องให้ พ.ต.ท. ทักษิณกลับเข้าประเทศไทย

พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ไม่ทราบอะไร ต้องไปถามคุณหญิงพจมานเอง แต่เท่าที่ติดตามจากข่าวไม่เห็นมีอะไร พล.อ.เปรมเป็นคนเมตตาธรรม

เมื่อถามว่า การเข้าพบ พล.อ.เปรม ของคุณหญิงพจมานครั้งนี้ หลายคนมองว่า พล.อ.เปรมเป็นผู้อยู่ เบื้องหลังในการทำปฏิวัติครั้งนี้

พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ผมยังนึกไม่ออกว่ามันไปเกี่ยวกันอย่างไร แต่ผมว่าไม่เกี่ยวกัน พล.อ.เปรมเป็นผู้ใหญ่ของแผ่นดิน และเป็นผู้มีเมตตาธรรมสูง เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้น้อยจะไปพบเพื่อให้เกิดความสบาย และเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ใหญ่ระดับนั้นจะให้ความเมตตาเพื่อให้เกิดความสบายใจกับหลายฝ่าย เท่าที่ท่านสามารถทำได้ ผมคิดว่าสำหรับคนไทยเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่ทำให้สังคมเราอยู่ได้

เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องให้อภัยกันตามหลักเมตตาธรรมหรือไม่

พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า อันนี้ทุกอย่างเมตตาธรรมจะต้องมีอยู่ เชื่อว่าทุกฝ่ายเป็นอย่างนั้น ส่วนจะให้อภัยหรือไม่ คงตอบไม่ได้ แต่ตามหลักศาสนาพุทธ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องดูว่าบางเรื่องควรจะให้อภัยหรือไม่ให้อภัย

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้เป็นห่วงอะไรหรือไม่ เพราะหลายฝ่ายเกรงว่าจะมีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้น พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ทุกอย่างหากมีปัญหาก็ต้องแก้ไขกันไป ยอมรับว่าตามรายงานของการข่าว พบว่ามีคลื่นใต้น้ำอยู่บ้าง ก็ต้องติดตามต่อไป จะพยายามดูแลไม่ให้ปัญหาเกิดเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ขึ้นมา

ดังนั้น จะต้องช่วยกันดูแลบ้านเมือง จะต้องดูแลโดยประชาชน

ไม่ใช่ให้ดูแลด้วยกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ คมช.มีอยู่เพียง 8 คน แต่ประชาชนมี 60 กว่าล้านคน จะต้องช่วยกันดูแลด้วย ฝ่ายความมั่นคงเป็นเพียงรับข้อมูล แต่ประชาชนจะต้องช่วยเป็นหูเป็นตาไม่ให้เป็นปัญหาเสียเอง ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธาน คมช. จะเรียกประชุม คมช.ในวันที่ 31 ต.ค. โดยจะหยิบยกประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมขณะนี้ขึ้นมาพิจารณาคือ

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีตากใบ คดีการลอบวางระเบิดหมายสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ หรือคาร์บอมบ์

คดีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ซึ่ง พล.อ.สนธิต้องการให้เกิดภาพการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน เพื่อให้สังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

พล.อ.อู้ด เบื้องบน สนช. และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณีที่ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโจมตีกรณีนำคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบ พล.อ.เปรมว่า ไม่อยากจะพูดอะไร อีกแล้ว เพราะได้พูดชี้แจงทุกอย่างชัดเจนแล้วว่าอะไรเป็นอะไร การจะพาใครไปที่ไหนไปพบใคร ผิดด้วยหรือ เพราะเป็นสิทธิส่วนตัว และไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย

การที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ชอบใครแล้วตนต้องไม่ชอบไปด้วยหรือ

ตนเป็นผู้ใหญ่และที่ผ่านมาก็ไม่ใช่คนพูดมาก แต่จะพูดเฉพาะที่เป็นข้อ เท็จจริง รู้ว่าเวลาไหนควรพูด ไม่ควรพูด สิ่งที่ทำไปไม่เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการพูดพาดพิงทำให้เสื่อมเสียจะทำอย่างไร

พล.อ.อู้ดตอบว่า

กำลังติดตามดูอยู่ หากเห็นว่าเป็นการพูดที่ทำให้เสื่อมเสียหรือหมิ่นประมาท จะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปพบในระหว่างการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 30-31 ต.ค. ว่า ยังไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการประสานจาก พ.ต.ท.ทักษิณ โอกาสที่จะมีการพบและเจรจากันเป็นไปได้หรือไม่

พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า คงจะขอคุยกันก่อน เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบสั้นๆว่า ยังไม่มี

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า

พล.อ.เปรมเป็นคนมีเมตตา คุณหญิงพจมานไม่ควรใช้ช่องความเมตตา

ของ พล.อ.เปรม มาเป็นประโยชน์ส่วนตัวในการเจรจาให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย รวมถึงต่อรองกรณียึดทรัพย์ ทั้ง 2 เรื่องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล คมช. และ คตส. ที่จะจัดการ ไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.เปรมที่เป็นกลางทางการเมือง และสังคมไทยไม่ควรหวาดระแวง พล.อ.เปรม

ไม่ควรติดกับดักของ พ.ต.ท.ทักษิณที่พยายามดึง พล.อ.เปรมมาสู่การเมือง เพื่อชี้ให้ต่างชาติเห็นว่า

พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักประชาธิปไตยที่ถูกรังแกโดยผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ คณะทำงานตรวจสอบการทุจริตของพรรคประชาธิปัตย์จะเร่งทำรายงานเกี่ยวกับการทุจริต 40 โครงการ ในรัฐบาลชุดก่อน ส่งให้ คตส.ตรวจสอบต่อไป