ทุบทิ้งศาลากลางขอนแก่น แดงตจว.ป่วนไม่เลิกปาบึ้มโรงพัก-ทำลายแบงก์-เผายาง จับแกนนำ-ปิดวิทยุชุมชนอุบลฯ



ทุบทิ้งศาลากลางขอนแก่น แดงตจว.ป่วนไม่เลิกปาบึ้มโรงพัก-ทำลายแบงก์-เผายาง จับแกนนำ-ปิดวิทยุชุมชนอุบลฯ

เสื้อแดงตจว.ยังป่วนต่อเนื่องตั้งแต่วัน ที่ 19 พ.ค.ถึงวันที่ 20 พ.ค.ขอนแก่นปาระเบิดใส่โรงพักตร. ทุบทำลายแบงก์กรุงเทพ ตู้เอทีเอ็ม เผายาง ศาลากลางไฟไหม้พังต้องทุบทิ้ง ด้านอุบลฯจนท.บุกจับตัวแกนนำพร้อมปิดวิทยุชมชน




ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จ การแห่งชาติ (นปช.) และคนเสื้อแดงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศลุกฮือไม่พอใจที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้กำลังทหารบุกสลายผู้ชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ว่ากลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดงยังก่อเหตุป่วนเมืองในหลายพื้นที่



นปช.กลุ่มแดงบุกพังแบงก์กรุงเทพ


 


ที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มคนเสื้อแดงก่อเหตุต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 19 พฤษภาคม จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 20 พฤษภาคม โดยขี่รถจักรยานยนต์ประมาณ 20 คัน รถยนต์ปิคอัพ 5 คัน บุกเข้าทุบธนาคารกรุงเทพ สาขาประตูเมือง และสาขา ถนนหน้าเมือง อ.เมืองขอนแก่น ทำให้กระจกพังเสียหายหลายบาน ตู้เอทีเอ็มถูกทำลายพังยับเยิน



นอกจากนี้ ยังจุดไฟเผายางรถยนต์บนถนนสายต่างๆ รวมไปถึงการก่อเหตุทำลายทรัพย์สินในร้านสะดวกซื้อของเอกชนหลายร้าน
  


ทุบป้อมยามสภ.เมืองขอนแก่น-ทหารรวบ13คน


 


ต่อมากลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่นเดินทางมาถึงหน้า สภ.เมืองขอนแก่น บีบแตรเสียงดังลั่น พร้อมปาระเบิดเพลิงหน้าเสาธงจำนวน 3 ลูก จากนั้นขับขี่รถไปตามถนนสายต่างๆ รอบเขตเทศบาลนครขอนแก่นเข้าไปทุบทำลายป้อมยาม สภ.เมืองขอนแก่น ในสวนรัชดานุสรณ์


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารของค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น ประมาณ 1 กองร้อย นำกำลังเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มดังกล่าวตั้งขบวนอยู่ที่สวน รัชดานุสรณ์ และรวบตัวคนเสื้อแดงจำนวน 13 คน นำไปควบคุมที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ขอนแก่น ตั้งอยู่ในค่ายศรีพัชรินทร


 


เพลิงไหม้ศาลากลางขอนแก่นวอดต้องทุบทิ้ง


ทางด้านนายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น ตรวจสอบหาหลักฐานความเสียหายต่างๆ ของศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดงจุดไฟเผา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พบความเสียหายมากถึง 70% โดยเฉพาะศาลากลางหลังเก่าเสียหายไปเกือบทั้งหมด ต้องทุบทิ้งไปทั้งหลัง



นอกจากนี้ ยังพบห้องทำงานการคลัง สรรพากร สรรพสามิต ตรวจคนเข้าเมือง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดหางานจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และจัดหางานจังหวัด ถูกทำลาย เอกสารต่างๆ ถูกเผาและรื้อค้นทำลายจนไม่สามารถใช้การได้ ส่วนรถที่จอดอยู่ในศาลากลางจังหวัดถูกไฟเผาเสียหายทั้งคันจำนวน 6 คัน ทั้งนี้ จะต้องทุบทิ้งศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังเก่าไปทั้งหลัง ส่วนหลังใหม่จะซ่อมบำรุงให้ใช้การได้ชั่วคราว และหาสถานที่ทำงานของศาลากลาง โดยเบื้องต้นได้มองหาที่ทำงานไว้ที่ศาลาอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ม.ขอนแก่น


บชภ.4ตั้ง5ข้อหามือเผา


พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบช.ภ.4) เปิดเผยว่า กลุ่มมวลชนอ้างเป็นคนเสื้อแดง ก่อการจลาจลทำลายทรัพย์สินราชการ เอกชนจนเกิดความเสียหายยับเยิน ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ใน จ.ขอนแก่น มุกดาหาร อุดรธานี มหาสารคามอยู่ในพื้นที่ของภาค 4 ขณะนี้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน หาหลักฐานเอาผิดกับผู้ก่อคดีโดยมีหลักฐานจากภาพถ่ายที่สามารถเอาผิดผู้ก่อ การจลาจล และจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา 1.ก่อการร้าย 2.วางเพลิง 3.ก่อการจลาจล 4.ทำให้เสียทรัพย์ราชการ และ 5.ก่อความวุ่นวาย



แห่ศพเสื้อแดง-วอนตำรวจคลี่คลายคดี


 


ขณะเดียวกัน นายวิเชียร ศรีหนองบัว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 8 บ้านดอนธาตุ ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสัมฤทธิ์ สีหาบุตร อายุ 63 ปี บ้านเดียวกัน พร้อมเครือญาติ และกลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่นประมาณ 30 คน รับศพนายทรงศักดิ์ ศรีหนองบัว อายุ 33 ปี พี่ชายของนายวิเชียร และหลานชายของนายสัมฤทธิ์ ทำงานเป็นพนักงานสินเชื่อของบริษัทแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่ถูกยิงเข้าที่รักแร้ซ้ายลูกกระสุนปืนตัดขั้วหัวใจ



เหตุเกิดที่หน้าบ้านนายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคมที่กลุ่มคนเสื้อแดงพากันไปชุมนุมและเข้าทุบ ประตูรั้วหน้าบ้าน จนมีการยิงปืนสวนออกมา ทำให้มีคนเจ็บและตายที่โรงพยาบาลขอนแก่น เมื่อเย็นวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียรพร้อมเครือญาติและกลุ่มคนเสื้อแดงนำศพนายทรงศักดิ์ใส่ในโลงแล้ว เอาผ้าสีแดงคลุมเอาไว้ มีผ้าพันคอสีแดงอยู่บนหัวโลงศพนำขึ้นรถยนต์ปิคอัพออกจากโรงพยาบาลขอนแก่น และแห่ไปทั่วเมืองขอนแก่น



จากนั้นนำศพนายทรงศักดิ์มาที่ สภ.เมืองขอนแก่น เข้าพบกับ พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีนายทรงศักดิ์ถูกยิงตายอยู่ตรงหน้าบ้านของนาย ประจักษ์
 


ผู้ว่าฯอุดรประเมินความเสียหาย150ล้าน



ที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากลุ่มคนเสื้อแดง บุกเผาศาลากลาง จ.อุดรธานี และสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี ทำให้สถานที่ราชการทั้ง 2 แห่งต้องปิดทำการ โดยเฉพาะศาลากลาง จ.อุดรธานี มีมากกว่า 40 หน่วยงาน ขณะที่รถยนต์และรถดับเพลิงที่ถูกเผา รวม 8 คัน ว่า นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์จลาจล เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม มีมากกว่า 150 ล้านบาท แยกเป็นศาลากลางหลังเก่า 50 ล้านบาท ยังไม่รวมอาคารหลังใหม่ที่เสียหายภายใน, อาคารเทศบาลนครอุดรธานี 100 ล้านบาท และรถยนต์ รถดับเพลิง รถบรรทุก ที่ถูกไฟเผาอีกไม่น้อย


 


นายอำนาจให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงเผาศาลากลาง จ.อุดรธานี และอาคารเทศบาลนครอุดรธานี ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมกันอยู่ที่สนามทุ่งศรีเมือง เจ้าหน้าที่เจรจาเพื่อสลายการชุมนุม แต่บางส่วนบุกไปที่ว่าการ อ.เมืองอุดรธานี และอาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี เจ้าหน้าที่จึงต้องสลายการชุมนุม จับกุมผู้ชุมนุม 45 คน มีผู้บาดเจ็บ 3 คน เสียชีวิต 1 คน


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 1 ในผู้ถูกควบคุมตัวนั้นมีนายอัศวิน ขุริรัง หรือพิมานเมฆินทร์ (เสื้อดำ) อดีตผู้สมัคร ส.อบจ.อุดรธานี บุตรบุญธรรม พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี เขต 1 พรรคเพื่อไทย รวมอยู่ด้วย โดยนายอำนาจได้สอบถามก็ได้รับคำตอบว่าพึ่งมาตอนหลัง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาศาลากลาง จ.อุดรธานี ซึ่งนายอำนาจบอกว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน หากใครผิดก็ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย


 


จับมือเผายางเชียงราย3ราย


 


ที่ จ.เชียงราย พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล ผกก.สภ.อ.เมืองเชียงราย นำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มคนเสื้อแดงจุดไฟเผายางรถยนต์บริเวณสี่แยกแม่กรณ์ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ต.รอบเวียง 3 คน มีนายวิจิตร ปินตาปัน อายุ 51 ปี หมู่ 13 ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย นายยงยุทธ ปัญญาคำ อายุ 44 ปี หมู่ 1 ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย และนายฤทธิ์รณ จันทนจินดา อายุ 18 ปี หมู่ 4 ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย พร้อมของกลางยางรถยนต์จำนวน 6 เส้น



ส่วนพื้นที่ อ.แม่สายเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาเป็นชายฉกรรจ์ 6 คน พร้อมของกลางยางรถยนต์ 8 เส้น รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน ขณะที่ทั้งหมดออกลาดตระเวนนำยางรถยนต์ไปเผาเพื่อสร้างสถานการณ์ โดยพบว่ามีป้ายคัตเอาท์ขนาดใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยเสียหาย 1 ป้าย


 


ระเบิดห้างบิ๊กซีเสียหายเล็กน้อย


 


ที จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนที บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน นำกำลังตำรวจภูธรบางปะอินและตำรวจวิทยาการ ตรวจสอบภายในห้องน้ำชาย ห้องที่ 13 ชั้นที่ 1 ของอาคารห้างบิ๊กซีสาขาพระนครศรีอยุธยา ริมถนนสายเอเชีย ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน หลังกลุ่มคนร้ายนำระเบิดประทัดยักษ์วางไว้บนโคมไฟและเกิดระเบิดขึ้น



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงระเบิดประทัดยักษ์ ทำให้โคมไฟแตกกระจายเต็มห้องน้ำ และสภาพห้องน้ำได้รับความเสียหาย แต่ในช่วงเกิดเหตุไม่มีประชาชนผู้มาใช้ห้องน้ำจึงไม่พบผู้บาดเจ็บ 


 


นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สั่งให้ตำรวจเฝ้าระวังเขตศูนย์การค้าสำคัญเพิ่มเติม อาทิ ศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค ที่ตั้งของห้างโลตัส และห้างโรบินสัน  ห้างแอมโปรมอลล์ ธนาคารสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ



นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า มวลชนเข้ารื้อถอนเวที บังเกอร์ยางรถยนต์ 150-200 เส้น และตรวจพบขวดน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนหนึ่ง ที่หน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์ พาเลซ ของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ส่งมอบเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปเก็บในที่ปลอดภัย ส่วนที่สถานีรถไฟของกลุ่ม นปช.แดง รื้อถอนเองทั้งหมดแล้วเช่นกัน


 


นายอมรพันธุ์ กล่าวถึงเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้บ้านพักปลัด จ.เชียงใหม่ ในช่วงกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดงชุมนุม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ว่าพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 8-9 ปาก รวบรวมพยานหลักฐานจากภาพถ่ายผู้ก่อเหตุชัด เพื่อขอออกหมายจับคดีอาญา


 


จับแกนนำนปช.-ยึดวิทยุอุบลราชธานี


 


ที่ จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนเดินทางไปดูสภาพศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดงบุกเผาจนได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยบางคนแสดงความรู้สึกเสียดายตัวอาคารศาลากลางหลังเก่าที่สร้างมานานไม่สา มารบูรณะซ่อมแซมให้กลับมาเหมือนเดิมได้



ขณะที่ประชาชนบางส่วนนำน้ำ เครื่องดื่ม มามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาทำงานอยู่ตามสำนักงานที่ตั้งอยู่ในบริเวณ ศาลากลาง เพื่อที่จะเป็นขวัญกำลังใจ


ทางด้านเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบก (มทบ.) 22 นำกำลังพลเข้าปิดสถานีวิทยุชุมชนคลื่น 91 และคลื่น 99 ของกลุ่ม นปช. โดยยึดเครื่องส่งวิทยุจากกลุ่ม นปช. คลื่น 91 จำนวน 1 เครื่อง ส่วนคลื่น 99 ทางกลุ่ม นปช.นำหลบหนีไปก่อน



เจ้าหน้าที่ทหารอีกจำนวน 200 นาย เดินทางไปจับกุมนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา แกนนำกลุ่ม นปช.อุบลราชธานี ที่ซอยบูรพาใน เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ มทบ. 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์