คตส.สอบที่ดินอ้อไม่สนอุ๋ยการันตีโปร่งใส

"สอบทุจริตงานพืชสวนโลก"


คตส.เดินหน้าสอบขั้นตอนประมูลและส่วนต่างราคาขายที่ดินให้ "หญิงอ้อ" ไม่สน "ทักษิณ" ตั้งทนายสู้ ด้าน "แก้วสรร" ไม่กังวลหากคนที่ถูกตรวจสอบไปต่อรองกับผู้มีอำนาจ ย้ำอำนาจกับความรับผิดชอบต้องอยู่ด้วยกัน

ไม่งั้นบ้านเมืองเจ๊งแน่ "คุณหญิงจารุวรรณ" ขึ้นเชียงใหม่สอบทุจริตพืชสวนโลก-ไนท์ซาฟารี 2 พ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สถานที่ทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ว่าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม ได้มีการประชุมอนุกรรมการชุดต่างๆ ของ คตส. โดยกรรมการแต่ละคนได้ทยอยเดินทางมา อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. ที่รับผิดชอบโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ และโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยเป็นการประชุมคณะอนุกรรมการนัดแรก

"ตรวจสอบกรณีการซื้อขายที่ย่านรัชดาฯของ"หญิงอ้อ"


นอกจากนี้ยังมีนายอำนวย ธันธรา ที่รับผิดชอบโครงการก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินในสนามบินสุวรรณภูมิ เข้ามาตรวจสอบข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวกับโครงการเพื่อนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม คตส.ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ และนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.ที่รับผิดชอบการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาฯ ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร

นายนาม ยิ้มแย้ม กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งตั้งทีมทนายส่วนตัวเพื่อซักค้านกรณีการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาฯ ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ว่า ตามขั้นตอนทางกฎหมายถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่เห็นแปลก เพราะเมื่อมีการส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางศาล ก็จะต้องมีการตั้งทนายขึ้นมาซักค้าน

"ใครมีหน้าที่อะไรก็ดำเนินการไป คตส.มีหน้าที่ตรวจสอบ ก็ต้องเดินหน้าตรวจสอบหาข้อมูลและหลักฐาน ส่วนที่จะระบุว่าใครผิดหรือถูก ต้องดูที่หลักฐาน ต่างคนต่างก็มีหน้าที่หาข้อมูล" ประธาน คตส. กล่าว

เมื่อถามว่าวางแนวทางการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นายนาม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รวบรวมหลักฐานไว้บ้างแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากมีผู้ร้องเข้ามาและมีการนำข้อมูลข้อเท็จจริงมายื่น ดังนั้น คตส.เห็นว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะมีมูลทุจริต จึงรับไว้ดำเนินการตรวจสอบ โดยมีการร้องเข้ามาว่า การซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ถูกกว่าปกติ

"ตรวจสอบขั้นตอนการประมูลฯ"


ผมไม่รู้ว่าราคาที่ดินย่านรัชดาภิเษกราคาเท่าไร และมีการประเมินราคากลางไว้เท่า ไร แต่เมื่อมีการร้องเรียนเข้ามา สตง.และ คตส.เข้ามาดำเนินการเห็นว่ามีมูล ก็รับตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เมื่อตรวจสอบแล้วจะเรียกใครมาชี้แจงยังไม่ทราบ ต้องดูที่ข้อมูลทั้งหมดว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง ประธาน คตส. ระบุ

ส่วนการที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าการยื่นประมูลที่ดินย่านรัชดาภิเษกเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใสและชี้แจงได้นั้น นายนาม กล่าวว่า ไม่ทราบว่าราคาประมูลที่ดินย่านรัชดาฯ มีราคาเท่าใด ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบและดูขั้นตอนการประมูล และราคาส่วนต่างในการประมูล

เมื่อซักต่อว่า จะมีการตรวจสอบถึงขั้นตอนการตั้งราคากลางว่าต่ำกว่าปกติหรือไม่ นายนาม กล่าวว่า อย่ามาถามนำ การสอบสวนต้องเป็นไปตามขั้นตอน

ประธาน คตส.ยังกล่าวถึงการตรวจสอบโครงการทุจริตทั้ง 12 โครงการ คตส.ได้มีการรายงานความคืบหน้าให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทราบหรือไม่ว่า การทำหน้าที่ของ คตส.ไม่ต้องรายงานให้หน่วยงานใดทราบ เมื่อ คมช.ตั้ง คตส.มาตรวจสอบเรื่องทุจริต ก็คงให้เกียรติในการทำงาน

"คตส.ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่ใช่มัวแต่เซิ้งๆ อย่างที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ ขณะนี้โครงการต่างๆ อนุกรรมการก็ได้ตรวจสอบและมีความคืบหน้าไปมาก แต่ผมยังไม่ทราบรายละเอียดต้องรอให้มีการรายงานความคืบหน้าในที่ประชุมวันที่ 30 ตุลาคมนี้ก่อน" นายนาม กล่าว

"สัก"ระบุแม้วมีสิทธิตั้งทนายแจงแทน


ด้าน นายสัก กอแสงเรือง คตส.ที่รับผิดชอบตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปและกรณีธนาคารเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้พม่า 4 พันล้านบาท กล่าวหลังการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบว่า คณะอนุกรรมการได้ประชุมกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป ส่วนจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อมูลและการตรวจสอบ โดยไม่สามารถบอกรายละเอียดความคืบหน้าในการตรวจสอบได้ และการตรวจสอบทุกครั้งก็ไม่จำเป็นต้องบอกสื่อมวลชนทุกเรื่อง เพราะจะกระทบต่อการสืบสวนสอบสวนและรูปคดี

ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะตั้งทนายสู้คดีนั้น นายสัก กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวกับ คตส.เพราะเป็นคนละส่วนกัน คตส.มีหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เมื่อถึงชั้นไต่สวนแล้วก็จะทราบเองว่า คตส.แจ้งข้อกล่าวหาในเรื่องใดบ้าง ตรงนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็มีโอกาสและมีสิทธิที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยสามารถให้ทนายเข้าฟังด้วยได้ แต่ถ้าจะไม่มาชี้แจงด้วยตนเอง ก็สามารถมอบให้ทนายชี้แจงแทนก็ได้ ถือเป็นสิทธิที่ทำได้

"แก้วสรร"เร่งกำหนดเป้าหาข้อมูล


ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. กล่าวภายหลังการประชุมชุดทำงานตรวจสอบโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ และโครงการบ้านเอื้ออาทร ว่า ที่ประชุมได้วางกรอบในการทำงานและจะทำงานตลอด 5 วันเพื่อติดตามรวบรวมข้อมูล เอกสาร ส่วนตนจะเป็นผู้กำหนดเป้าหมายในการหาข้อมูล แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเรียกหรือเชิญหน่วยงานใดมาชี้แจง ทั้งนี้ต้องรอให้มีการร่างหนังสือเชิญก่อน คาดว่าจะเสร็จภายในวันที่ 30 ตุลาคม และในวันที่ 31 ตุลาคม แบบฟอร์มหมายเรียก ก็จะแจกจ่ายให้ คตส.และอนุกรรมการเพื่อไปดำเนินการ หากต้องการจะเรียกบุคคลหรือหน่วยงานใด สามารถใช้แบบฟอร์มดังกล่าวได้

ส่วนกรณีที่จะเชิญเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยมาชี้แจง เรื่องการปล่อยกู้ให้เอกชนไปประกันค่าธรรมเนียมโครงการแอร์พอร์ตลิงค์นั้น นายแก้วสรร กล่าวว่า ไม่ได้บอกว่าจะเชิญเจ้าหน้าที่มาชี้แจง แต่ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดส่งเอกสารมาให้ คาดว่าจะส่งมาภายในสัปดาห์หน้า

ระบบเจ๊งถ้าผู้มีอำนาจไม่รับผิดชอบ


นายแก้วสรรกล่าวถึงกรณีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จะมีผลกระทบต่อการตรวจสอบเรื่องการซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ของคุณหญิงพจมาน ว่า ขอพูดในนามส่วนตัว คิดว่า เมื่อมีการให้อำนาจและความรับผิดชอบต่อ คตส. ก็ต้องเดินหน้าเต็มที่ แต่ส่วนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไป

"เรื่องนี้จริงๆ ไม่อยากแสดงความคิดเห็น แต่พูดในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับ คตส. ปัญหาทุกวันนี้คือการปกครอง อำนาจกับความรับผิดชอบ ต้องอยู่ในที่เดียวกัน ถ้ามีคนที่มีอำนาจแต่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ระบบแบบนี้ก็เจ๊ง ฉิบหายแน่ แต่ปัจจุบันระบบเป็นแบบนี้หรือไม่ก็ดูกันเอาเอง ถ้าคุณเป็นรัฐบาล ความรับผิดชอบไม่อยู่กับคุณก็ตาย ถ้าคุณเป็นรัฐบาลอำนาจไม่มี มีแต่ความรับผิดชอบอยู่กับคุณก็ตาย แต่ของผมโชคดีที่มีอำนาจและความรับผิดชอบ ซึ่งจะถ้าพูดถึงการปกครองทั่วไป อำนาจและความรับผิดชอบจะต้องอยู่ในที่เดียวกัน" นายแก้วสรร กล่าว

ไม่กังวลการต่อรอง-เป็นไงเป็นกัน


ส่วนในฐานะ คตส.กังวลหรือไม่ที่จะมีการต่อรองทางการเมืองระหว่างคนที่ คตส.ตรวจสอบกับผู้มีอำนาจทางการเมือง นายแก้วสรร กล่าวว่า "ไม่กังวล เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เราไม่รู้อะไรนี่หว่า จะไปกังวลให้ประสาทกินทำไม"

เมื่อถามว่า 1 เดือนที่ผ่านมา นายทหารระดับสูงใน คมช.ได้โทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าในการตรวจสอบหรือไม่ นายแก้วสรร ตอบว่า เมื่อ คมช.ให้ คตส.เข้ามาดำเนินการตรวจสอบ คตส.ก็มีการรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้รายงานว่าจับใครได้แล้ว ตายแน่

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธาน คมช. ระบุว่า อาจจะไม่มั่นใจในการทำงานของ คตส. เพราะอาจจะขาดหลักฐานที่แน่นพอเชื่อมโยงถึง พ.ต.ท.ทักษิณ นายแก้วสรร กล่าวว่า ไม่รู้ พล.อ.สนธิ พูดจากอะไร ตนก็ทำหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบคดี ก็ต้องทำไป แต่ คมช.ก็ไม่ได้สอบถามคดีอะไรเป็นพิเศษ ไม่ได้ลงมายุ่งมาตามอะไร แต่ คตส.รายงานให้ทราบเป็นระยะ คงไม่ไปบอกว่าให้ คมช.ไปอ่านหนังสือพิมพ์เอาเอง คงไม่ใช่

"ผมไม่ชอบทำงานแบบคณะอนุกรรมการ ชอบทำงานแบบมีชุดทำงาน ถ้าทำแบบอนุกรรมการ งานจะช้า ตรวจสอบจะต้องไม่เด็ดดอกไม้ ไม่ไถล ถ้าจะสอบเรื่องไหนต้องระบุว่ามุ่งไปทางไหนได้บ้าง เมื่อมีการตั้งคณะทำงานแล้วต้องมุ่งไปตามนั้น ถ้าตรวจแล้วสะอาดเรียบร้อยบริสุทธิ์ก็ไม่ว่า แฮปปี้ด้วยว่าตรวจแล้วไม่พบมูลความผิด ก็เกม สำคัญคือเราต้องตรวจสอบไม่ใช่เป็นนักล่าสัตว์ การทำงานแบบอนุกรรมการเป็นการทำงานหัวหน้าสายเดี่ยว ไปนั่งเป็นประธานอนุฯ ถ้าทำได้ก็ลองดู เดี๋ยวก็รู้ เอาคนเข้าคุกได้ก็ต้องดูกันไป ถ้าเอาคนเข้าคุกได้ก็ดูกันไป สนุกดี" นายแก้วสรร กล่าว

"จารุวรรณ" ชี้ล็อกสเปคท่อร้อยสาย


คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา คตส.ที่รับผิดชอบพิจารณาโครงการท่อร้อยสายไฟฟ้าสนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวว่า มีการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยที่ประชุมมีมติจะเชิญบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธามาให้ข้อมูลว่า ท่อร้อยสายควรจะมีลักษณะของแบบที่เป็นแบบสวมไปเลย หรือเป็นแบบเกลียวมัดติด รวมถึงจะพิจารณาการล็อกสเปคที่เพิ่มขนาดของท่อจาก 200 ปอนด์ เป็น 500 ปอนด์ และสูงสุดถึง 1,000 ปอนด์ และเหตุใดจึงต้องมีการเปลี่ยนและล็อกเสปค ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อผู้รับเหมาเพียงบางราย โดยในวันที่ 9 พฤศจิกายน คณะอนุกรรมการจะมีการประชุมอีกครั้ง โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวอีกว่า โครงการนี้ สตง.เคยสรุปเรื่องและส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ และจนถึงวันนี้ คตส.ได้หยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเรื่องกลับมาให้แล้วว่า ดำเนินการไปถึงไหนบ้าง แต่คณะอนุกรรมการยังไม่ได้เปิดดู

ขยับสอบพืชสวนโลก-ไนท์ซาฟารี


คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 2-3 พฤศจิกายนนี้ ตนในฐานะผู้ว่าการ สตง.จะเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบมหกรรมพืชสวนโลก และโครงการไนท์ซาฟารีด้วย

สตง.ตามคืบหน้าฮั้วคอมพ์-รถพยาบาล

วันเดียวกัน คณะเจ้าหน้าที่จาก สตง. ได้เข้าพบ น.พ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข เพื่อขอหารือเรื่องการสอบสวนกรณีการทุจริตในกระทรวงสาธารณสุขในช่วงที่ผ่านมา เช่น เรื่องการจัดซื้อคอมพิวเตอร์มูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท การจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉิน จำนวน 232 คัน ด้วยวิธีพิเศษจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากการตรวจสอบของ สตง.พบว่ารถและอุปกรณ์ภายในรถไม่ได้มาตรฐาน

น.พ.มงคล กล่าวว่า คุณหญิงจารุวรรณ ได้ส่งหนังสือมาให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการสอบสวนต่อ โดยเรื่องหลักที่จะสอบสวนมี 2-3 เรื่อง คือ เรื่องรถพยาบาล และการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ โดยในส่วนของรถพยาบาลนั้น สตง.ได้ขอให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ดังนั้น ตนจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาใหม่ เพื่อสอบสวนเรื่องนี้ต่อให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนตามที่ สตง.กำหนดมา และได้ให้ น.พ.มรกต กรเกษม ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบทั้งหมด


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์